สมศ.ใช้รูปแบบ 'ไฮบริดจ์' ประเมินภายนอก 'พัฒนาเทคโนโลยี-ผุดแอพพ์ใหม่' รองรับความแตกต่าง
สมศ.ใช้รูปแบบ ‘ไฮบริดจ์’ ประเมินภายนอก ‘พัฒนาเทคโนโลยี-ผุดแอพพ์ใหม่’ รองรับความแตกต่าง ‘บิ๊กอุ้ม’ เล็งถก ‘ร.ร.เครือข่าย’ ช่วยกระจายคุณภาพใน พท.
เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ที่อิมแพค ฟอรั่ม เมืองทองธานี ดร.นันทา หงวนตัด รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) กล่าวรายงานในการมอบนโยบายการประกันคุณภาพภายนอกกับบทบาทหน้าผู้ประเมินคุณภาพภายนอกเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาไทยภายใต้แนวคิด “ลดภาระ เรียนดี มีความสุข” พร้อมติดตามวาระสำคัญของ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กับนโยบายการขับเคลื่อนการศึกษาในช่วงเปิดภาคการศึกษาใหม่ ว่า รัฐมนตรีว่าการ ศธ.ได้ย้ำให้ สมศ.ประเมินคุณภาพภายนอกที่สะท้อนถึงผลรับด้านคุณภาพผู้เรียน เรื่องการใช้เกณฑ์การประเมินที่เหมาะสม และสอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา ซึ่งการดำเนินงานก้าวหน้าพอสมควร ทั้งการปรับปรุงแนวทางการประเมินคุณภาพ การพัฒนาเครื่องมือและเกณฑ์ในการประเมิน และการพัฒนาหลักสูตรเทรนนิ่งของผู้ประเมิน
ดร.นันทากล่าวอีกว่า โดยการประเมินครั้งนี้ยึดการลดภาระ และสอดคล้องกับการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา รวมถึง ปรับรูปแบบการลงพื้นที่ใหม่ เดิมประเมินแบบออนไซต์ และช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประเมินแบบออนไลน์ แต่วันนี้ สมศ.ใช้รูปแบบการประเมินแบบไฮบริดจ์ (hybrid) ซึ่งสถานศึกษาแต่ละแห่งจะได้รับการประเมินที่แตกต่างกันตามบริบท สถานศึกษาใดมีมาตรฐานสูงกว่าเกณฑ์ จะได้รับการประเมินแบบ virtual visit แต่หากสถานศึกษาใดต้องการความช่วยเหลือ จะมีทั้ง virtual visit และ onsite visit ซึ่งสถานศึกษาจะตัดสินใจตามความพร้อมว่าจะให้ประเมินด้วยวิธีใด
“โดยรอบนี้ เพิ่มเติมส่วนที่เป็นปัญหาทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นความปลอดภัย ความเสี่ยงต่างๆ จะดูตั้งแต่เด็ก สถานที่ และสภาพแวดล้อมต่างๆ โดยจะพัฒนาระบบเทคโนโลยีที่ช่วยการประเมินตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ โดยพัฒนาโมบายแอพพลิเคชั่นตัวใหม่ ที่จะใช้ประเมินรูปแบบออนไซต์ในเดือนกรกฎาคมนี้” ดร.นันทา กล่าว
ด้าน พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวว่า อยากย้ำเรื่องการศึกษาใน 2 มิติ คือ 1.เพื่อความเป็นเลิศ และ 2.เพื่อการดำรงชีวิต โจทย์คือทำให้มีความสุข ฉะนั้น ในการประเมินจะพยายามลดภาระทั้งผู้รับการประเมิน และผู้ประเมินด้วย อยากให้ช่วยกันคิดว่าอะไรที่ลดภาระได้ หรืออะไรที่จะนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ลดภาระการประเมินให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่ง สมศ.จะต้องเป็นผู้รับข้อมูล และปรับปรุงระบบต่างๆ
“แนวทางการทำงานให้ยึดหลักนโยบาย ถูกต้อง รวดเร็ว ประโยชน์ และประหยัด รวมทั้ง ให้คำแนะนำ อยากให้หลังการตรวจประเมินแล้ว ผู้ตรวจให้คำแนะนำแก่สถานศึกษาว่าควรปรับปรุงตรงไหน และติดตามต่อไป แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือสร้างขวัญกำลังใจ ต้องยอมรับว่าสถานศึกษาหลายแห่งต้องดำเนินงานภายใต้ความขาดแคลน ขาดทรัพยากร ฉะนั้น หลังตรวจประเมินทุกครั้ง อยากให้สร้างขวัญกำลังใจ อยากให้ยึดหลักจับมือไว้ และไปด้วยกัน หลังจากตรวจประเมินแล้ว อยากจะให้ผู้ประเมินนำความคิดเห็น ประสบการณ์ต่างๆ มาแลกเปลี่ยนกัน อะไรที่ดีอยากให้ สมศ.ถ่ายทอด เพื่อแนะนำสถานศึกษาอื่นๆ” พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าว
พล.ต.อ.เพิ่มพูนกล่าวอีกว่า อยากให้คุณภาพทางการศึกษาเกิดขึ้น โดยการสร้างเครือข่าย อย่างนโยบาย 1 อำเภอ 1 โรงเรียนคุณภาพ คือพยายามให้มี 1 โรงเรียนคุณภาพอยู่ในอำเภอ เพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่จะกระจายคุณภาพไปสู่โรงเรียนอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียง เช่น โรงเรียนสวนกุหลาบ มีสถานศึกษา 11 แห่งในเครือข่าย ซึ่งประชุมเพื่อหาแนวทางสร้างคุณภาพทางการศึกษาให้เป็นแนวทางเดียวกัน เพื่อกระจายคุณภาพไปยังโรงเรียนพื้นที่ใกล้เคียง นอกจากนี้ มีกลุ่มโรงเรียนเครือข่ายอย่างโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา โรงเรียนเตรียมพัฒน์ เป็นต้น ผมจะเชิญมาหารือเพื่อสร้างคุณภาพในกลุ่มให้ได้ และเป็นแกนหลักกระจายคุณภาพในพื้นที่ โดยสร้างเครือข่ายแบบใยแมงมุม เพื่อสร้างคุณภาพทางการศึกษาได้อย่างรวดเร็ว
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : สมศ.ใช้รูปแบบ ‘ไฮบริดจ์’ ประเมินภายนอก ‘พัฒนาเทคโนโลยี-ผุดแอพพ์ใหม่’ รองรับความแตกต่าง
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th