โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ภูมิภาค

ชาวนาเศร้า ข้าวเปลือกขายได้แค่ตันละ 6,300 บาท ต้องแบกต้นทุนสูงลิ่ว-ขาดทุนซ้ำซาก

MATICHON ONLINE

อัพเดต 18 เม.ย. 2565 เวลา 08.14 น. • เผยแพร่ 18 เม.ย. 2565 เวลา 08.03 น.

ชาวนาร่ำไห้ ตลาดรับซื้อข้าวเปลือกให้แค่ตันละ 6,300 บาท ต้องแบกต้นทุนสูงลิ่ว-ขาดทุนซ้ำซาก

เมื่อวันที่ 18 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามบรรยากาศการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวนาปรัง ของเกษตรชาว จ.กาฬสินธุ์ ในเขตใช้น้ำชลประทาน พบว่าเริ่มลงมือเก็บเกี่ยวกันแล้ว โดยมีความหวังว่าราคาขายข้าวเปลือกจะสูงเนื่องจากหลายพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้ง ไม่ได้ทำนาปรัง และมีความหวังว่าจะนำเงินที่ได้จากการขายข้าวเปลือก ไปใช้หนี้ ธกส.และค่าปุ๋ยเคมี แต่พอเริ่มต้นฤดูกาลเก็บเกี่ยวเท่านั้น ความฝันก็พลันสลาย เนื่องจากตลาดรับซื้อให้ราคาต่ำเพียงตันละประมาณ 6,300-6,800 บาท หรือกก.ละ 6.30-6.80 บาทเท่านั้น

นายบัณฑิต ภูบุตรตะ อายุ 53 ปี ชาวนาบ้านตูม หมู่ 4 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ต้นทุนทำนาปรังยังสูง ทั้งนี้มีผลสืบเนื่องจากภาวะราคาน้ำมันแพง ส่งผลกระทบถึงค่ารถไถ ที่คิดราคาค่าจ้างไร่ละ 600 บาท ปุ๋ยเคมี 2 กระสอบ ราคากระสอบละ 1,300-1,500 บาท ค่ารถเกี่ยว 600 บาท ค่ารถขนส่ง 600 บาท บางรายชาวนาต้องเสียค่าน้ำมันสูบน้ำอีกด้วย ทำให้ต้นทุนสูงเฉลี่ยไร่ละ 4,000 บาท ขณะที่ผลผลิตข้าวเปลือกได้ประมาณไร่ละ 300 กก. ขาย กก.ละ 6.30-6.80 บาท ได้เงิน 1,800-2,000 บาท หักลบกลบหนี้แล้วขาดทุนยับเยิน ซึ่งถือเป็นปัญหาขาดทุนเรื้อรังและซ้ำซาก ที่ชาวนาประสบหลายปีติดต่อกัน ทำให้ชาวนาส่วนใหญ่ยังยากจน และต้องค้างชำระหนี้ ธกส.เพราะขายข้าวขาดทุน

ด้านนายทองพูล ลักษณะสาย อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นชาวนาและผู้ประกอบการรถรับจ้างรถเกี่ยวข้าว บ้านเหล่า หมู่ 5 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ผลกระทบจากราคาน้ำมันแพงลิตรละกว่า 30 บาท ส่งผลให้ราคาปุ๋ยเคมี ค่าขนส่ง ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ปรับสูงขึ้นตามกลไก ทำให้ชาวนาหลายรายไม่กล้าลงทุนมาก เพราะเสี่ยงกับการขาดทุนแน่นอน เช่น ลดพื้นที่ทำนาปรัง และใช้ปุ๋ยเคมีน้อย จึงไม่เพียงพอกับความต้องการของต้นข้าว ข้าวนาปรังจึงให้ผลผลิตต่ำ

“สำหรับตนคิดค่าจ้างเกี่ยวข้าวไร่ละ 600 บาท โดยยอมสวนกระแสราคาน้ำมันแพง และพอให้ประคองตัวได้ เนื่องจากรู้สึกเห็นอกเห็นใจเพื่อนชาวนา ที่แบกรับภาระต้นทุนการทำนาที่สูง และขายข้าวขาดทุนดังกล่าว ทั้งนี้ ตนมีที่นา 9 ไร่และมีรถเกี่ยวข้าวเป็นของตัวเอง จึงประหยัดค่าจ้างเก็บเกี่ยวไปบ้าง อย่างไรก็ตาม ตามที่ราคาข้าวยังตกต่ำเพียง กก.ละ 6.30-6.80 บาท หากนำไปขายก็คงจะเสี่ยงกับการขาดทุนซ้ำซากเหมือนกับเพื่อนชาวนาทั่วไป” นายทองพูลกล่าว

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...