โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

อนุกมธ.กีฬาวุฒิสภา เร่งสางปมจัดกีฬาทับซ้อน ของ3หน่วยงานหลัก

ไทยโพสต์

อัพเดต 11 มิ.ย. เวลา 18.18 น. • เผยแพร่ 11 มิ.ย. เวลา 11.18 น.

เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา นายวิเชียร ชัยสถาพร สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการด้านการกีฬา วุฒิสภา เป็นประธานการประชุมเพื่อพิจารณาข้อมูลเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ พันธกิจด้านกีฬาและความทับซ้อนของการจัดการแข่งขันกีฬาระหว่างหน่วยงานต่างๆ โดยเชิญผู้แทนจากสำนักปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา , ผู้แทนจากกรมพลศึกษา , ผู้แทนจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และผู้แทนจากการกีฬาแห่งประเทศไทย เข้าชี้แจงข้อเท็จจริง นายวิเชียร กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการจัดการแข่งขันกีฬาทับซ้อนกันระหว่างกรมพลศึกษา , องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น และการกีฬาแห่งประเทศไทย เช่น การจัดแข่งขันกีฬานักเรียนอายุไม่เกิน 18 ปีของกรมพลศึกษา ซึ่งต้องรับผิดชอบดูแลกว่า 4,000 โรงเรียน แต่ขณะเดียวกันหน่วยงานท้องถิ่นของแต่ละจังหวัดก็จัดแข่งกีฬานักเรียนเฉพาะโรงเรียนในท้องถิ่นของตัวเอง จึงทำให้เกิดปัญหาในการจัดสรรงบประมาณที่ไม่เพียงพอต่อการจัดแข่งกีฬา ส่วนการกีฬาแห่งประเทศไทยและกรมพลศึกษา ก็มีการจัดการแข่งขันกีฬาผู้สูงอายุ ในลักษณะที่ทับซ้อนเช่นกัน เป็นผลให้กรมพลศึกษาถูกตัดงบประมาณลงไปเรื่อยๆในทุกปี ดังนั้นจึงเห็นว่าทั้ง 3 หน่วยงานควรมาทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อกำหนดว่า จะให้ใครเป็นเจ้าภาพจัดแข่งกีฬา เพื่อให้สอดคล้องกับงบประมาณที่มีอยู่จำกัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้รับการจัดสรรงบประมาณที่เยอะกว่าและสมบูรณ์มากกว่า นายภานพ ใจเกื้อ เลขาธิการสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย ในฐานะอนุกรรมาธิการด้านกีฬา กล่าวว่า คณะกรรมการนโยบายการกีฬาแห่งชาติ หรือ คกช. ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการวางกรอบและขับเคลื่อนนโยบายด้านการกีฬาของประเทศ น่าจะเป็นหน่วยงานที่จะเป็นผู้ไกล่เกลี่ยและชี้ขาดว่าปัญหาหรือกิจกรรมมีความทับซ้อนกันหรือไม่ โดยองค์ประกอบของคณะกรรมการนโยบายการกีฬาแห่งชาติ มีหลากหลายหน่วยงานร่วมเป็นคณะกรรมการ ซึ่งมีหน้าที่จัดทำนโยบายและพิจารณาแผนการจัดแข่งขันกีฬา แต่มีคำถามว่าได้มีการส่งหรือเสนอแผนการจัดการแข่งขันผ่านไปยังคณะกรรมการนโยบายกีฬาแห่งชาติให้ได้รับทราบหรือไม่ ด้านนายจำลอง อนันตสุข รองประธานอนุกรรมาธิการด้านกีฬา วุฒิสภากล่าวเสริมว่า ด้วยอำนาจหน้าที่ของ คกช. ที่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการดำเนินการด้านกีฬาของประเทศ, เสนอมาตรการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินนโยบายและแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, รวมถึงการปรับปรุงกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับต่างๆ เพื่อให้เอื้อต่อการพัฒนากีฬาของชาติ และพิจารณาการดำเนินงานของหน่วยงานรัฐตามแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ สิ่งเหล่านี้ล้วนชี้ให้เห็นว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดแข่งขันกีฬา ควรต้องเสนอแผนการแข่งขันให้ คกช. รับทราบและพิจารณา ดังนั้น หากเกิดปัญหาความทับซ้อนในการจัดการแข่งขันกีฬา คณะกรรมการนโยบายการกีฬาแห่งชาติคือผู้ที่จะให้ความกระจ่างได้มากที่สุด “ดังนั้น การที่หน่วยงานต่างๆ เสนอแผนการจัดกิจกรรมกีฬาให้ คกช. รับทราบและพิจารณาอย่างสม่ำเสมอ จะเป็นกลไกสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหาความทับซ้อน ซึ่งจะนำไปสู่การบริหารจัดการงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ และการพัฒนากีฬาของชาติที่เป็นระบบและยั่งยืน” นายจำลองกล่าว

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...