โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

"อดีตสาวคนสนิท" เปิดหน้าสู้ ยื่นร้องจริยธรรมเอาผิด “สว.” ล่วงละเมิด ปฏิเสธเป็นเกมการเมือง

สยามรัฐ

อัพเดต 08 ก.ค. เวลา 05.43 น. • เผยแพร่ 08 ก.ค. เวลา 05.22 น.

วันที่ 8 ก.ค.2568 เมื่อเวลา 10.45 น.ที่รัฐสภา น.ส.ณัฐสินี ภิญโญปิยวิศว์ หรือขวัญ ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการฯ วุฒิสภา พร้อมด้วยทนายความ แถลงกรณีถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยสว. ก่อนการให้สัมภาษณ์ ทางผู้เสียหายกำลังเดินมาจุดแถลงข่าวกลับล้มอาการคล้ายจะเป็นลมถึง 3 ครั้ง จึงได้นั่งพักก่อน ผู้สื่อพยายามสอบถามว่าเป็นลมหรือไม่ ซึ่งได้รับคำตอบว่ามีอาการโรค PTSD หรือ Post-Traumatic Stress Disorder (โรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนใจ) เป็นภาวะทางจิตใจที่เกิดขึ้นหลังจากบุคคลนั้นได้ประสบ หรือเห็นเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรง จากนั้นเดินมาที่จุดให้สัมภาษณ์

น.ส.ณัฐสินี กล่าวว่า วันนี้ตนเดินทางมายื่นฟ้องจริยธรรมร้ายแรงกับสว. เราไม่ใช่ผู้กระทำผิดไม่ควรกลัว ควรเปิดหน้าที่จะเรียกร้องขอความเป็นธรรม ยอมรับว่าตอนนี้กลัวมาก แต่ขอบคุณกำลังใจจากทุกท่าน ตนรู้จักกับสว.ท่านนี้เป็นการส่วนตัวเคยคบหากัน แต่มีเหตุการณ์ร้ายแรงบางอย่าทำให้ต้องเลิกคุยกัน โดยไม่สามารถกลับมาคบกันได้อีก ทั้งนี้ สว.คนคู่กรณี ไม่ได้อยู่ในคณะกรรมาธิการที่ตนทำงาน แต่ยอมรับว่าได้เจอกันบ้าง ซึ่งเราต้องรักษามารยาท ในวันเกิดก็จะต้องมีการทักไปแสดงความยินดี โดยหลังจากที่ตนแจ้งว่าจะมายื่นจริยธรรม ทางคู่กรณีไม่ได้ติดต่อตนมาแต่อย่างใด ส่วนคดีความที่แจ้งความที่ สน. เตาปูนจะไม่มีการเจรจาไกล่เกลี่ยใดๆ ทั้งสิ้น

น.ส.ณัฐสินี ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อ 5 พ.ค. ว่า สว. คนดังกล่าวได้ชวนไปทานอาหาร ซึ่งตนไม่สะดวกจึงขอนัดเป็นร้านขนม ย่านบรรทัดทอง โดยยืนยันว่าไม่มีการดื่มแอลกอฮอล์ และสว. มารับตนที่บ้านพัก และหลังจากที่รับประทานเสร็จ สว.คู่กรณีได้ขับรถไปส่งตนที่บ้าน และระหว่างทางสว.คู่กรณีขอคืนดี แต่ตนปฏิเสธ และขอเป็นเพื่อนกันอย่างเดียวดีกว่า ทั้งนี้ภายในรถมีการดึงแขนล็อคตัวไม่ให้ออกจากรถ ซึ่งตนพยายามกระโดดออกจากรถและขัดขืน แต่ถูกรั้งไว้ ส่วนเหตุผลที่เพิ่งจะมีการเปิดเผยหลังจากที่เหตุการณ์ผ่านไปหลายเดือนนั้น เพราะต้องใช้เวลารวบรวมหลักฐานต่างๆ ให้รัดกุม เนื่องจากสว.คู่กรณีเป็นผู้ใหญ่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างการสัมภาษณ์ในรายละเอียดของทนายความนั้น น.ส.ณัฐสินี ได้สะกิดผู้สื่อข่าวเพื่อขอยาดมจากนั้นมีท่าทีทรุดจะล้มจนทำให้คนที่อยู่รอบข้างประคองพยุง ก่อนที่ทีมพยาบาลรัฐสภานำตัวขึ้นรถเข็นและพาไปที่ห้องพยาบาล

ทั้งนี้ระหว่างที่อยู่ในรถเข็นน.ส.ขวัญ พร้อมยืนยันว่า มีหลักฐานในแฟลชไดรฟ์ เป็น 3 คลิป ในตึกที่เกิดเหตุ

เมื่อถามว่ากังวลไหม เพราะเป็น สว. น.ส.ขวัญ กล่าว สั้น ๆ ว่า ตนอยากเป็นกำลังใจให้เหยื่อทุกคนที่เหมือนกับตน

เมื่อถามว่ามีการติดต่อมาหรือไม่ น.ส.ขวัญ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่ก่อนหน้านี้มีติดต่อเข้ามา และในวันเกิดเหตุอยู่ในห้องเกิน 30 นาที จนตัวเองป่วยเป็นโรค PTSD ส่วนพฤติกรรมนี้ ตนไม่ทราบว่าไปทำกับคนอื่นอีกหรือไม่

เมื่อถามว่า คดี ขณะนี่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสรุปสำนวนส่งฟ้องอัยการ น.ส.ณัฐสินี กล่าวว่า เบื้องต้นมองว่ายังไม่ล่าช้า ตำรวจให้ความร่วมมืออย่างดี

เมื่อถามว่าพฤติกรรมชอบดื่มจนเมา น.ส.ณัฐสินี กล่าวว่า ตนไม่ทราบ และคิดว่าเป็นการกระทำดูถูกดูหมิ่นศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง ไม่มีใครควรโดนแบบนี้ไม่ว่าจะเป็นผู้มีตำแหน่งหรือไม่มี

เมื่อถามว่าวขออนุญาตถามถึงประเด็นที่ถูกล่วงละเมินในคืนนั้น น.ส.ขวัญ กล่าวว่า มีการใช้อวัยวะ ใช้นิ้วสอดใส่เข้าไปข้างใน

ขณะที่นายรดิศทัต ประภานนท์ ทนายความ ให้สัมภาษณ์ว่า ในส่วนของคดีอาญานั้นหลังจากที่แจ้งความแล้วเป็นเรื่องของตำรวจที่จะดำเนินการ เพราะได้แจ้งความในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นคดีอาญาที่สามารถไกล่เกลี่ยได้ อย่างไรก็ดีในกรณีของการยื่นร้องเรียนจริยธรรมของสว.ที่เป็นคู่กรณี นั้น มีเอกสารและรายละเอียดที่ชี้ให้เห็นพฤติกรรมของสว.คนดังกล่าว ซึ่งถือว่าเข้าข่ายผิดข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสว. และกรรมาธิการ ข้อที่ 21 ที่กำหนดว่าต้องไม่กระทำอันมีลักษณะเป็นการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศ จนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำได้รับความเดือดร้อนเสียหาย หรือกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ โดยผู้ถูกกระทำอยู่ในภาวะจำต้องยอมรับในการกระทำนั้น และกรณีที่น.ส.ณัฐสินี ป่วยด้วยโรคพีทีเอสดีนั้นเป็นจริงมีการเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศรีธัญญา

“เรื่องนี้เชื่อว่าจะมีเกิดขึ้นอีกมาก แต่กรณีของน.ส.ณัฐสินีนี้ถือเป็นกรณีตัวอย่างที่ออกมาเปิดหน้าและต่อสู้ ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้น แม้จะเป็นเรื่องของอดีตของคนที่คุ้นเคย เป็นรุ่นพี่รู้จักกันมา 20 ปีสามารถส่งข้อความไปสุขสันต์วันเกิดได้ อย่างไรก็ดีการยื่นร้องจริยธรรมต่อคณะกรรมการของวุฒิสภา ที่เป็นพวกเดียวกับกับ สว.คู่กรณีนั้น ผมยังเชื่อว่ากระบวนการตรวจสอบจริยธรรมจะโปร่งใส พราะสว.ที่เป็นคู่กรณีนั้นมีความผิด ส่วนผลการตรวจสอบจะเป็นอย่างไร ไม่ทราบ แต่เชื่อว่าจะได้รับความยุติธรรม” นายรดิศทัต กล่าว

เมื่อถามว่ากรณีที่เกิดขึ้นกังวลเรื่องถูกอิทธิพลข่มขู่หลังจากนี้หรือไม่ นายรดิสทัต กล่าวว่า ตนเพิ่งเข้ารับหน้าที่เป็นทนายความของ น.ส.ณัฐสินี ได้ 2 วัน หลังจากที่ทนายคนเดิมถอนตัวโดยไม่ทราบเหตุผล เพราะได้ดูหลักฐาน คลิปวีดีโอ แล้วยืนยันพร้อมที่จะช่วยลูกความสู้คดี โดยไม่กลัวอิทธิพลใดๆ เพราะหากกลัวคงไม่กล้าเปิดเผยหน้าต่อสาธารณะ

เมื่อถามว่ากรณีที่มาร้องจริยธรรมหลังจากที่เกิดเหตุมานาน ถูกมองว่าเป็นการรับงานทางการเมือง เพราะมี สว.กลุ่มสำรองต้องการตำแหน่ง นายรดิศทีต กล่าวว่า ยืนยันไม่ใช่เรื่องการเมืองแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนที่จะแถลงข่าวน.ส.ณัฐสินี พร้อมทนายความได้ยื่นหนังสือถึงนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ผ่านเจ้าหน้าที่ด้วย ก่อนที่จะมีการแถลงข่าว

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...