โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ทนายไพศาลลุยช่วยคดี พ่อและน้องชาย น้องแพนหวังฮุบมรดกเงินบริจาค 4.8 ล้าน

tvpoolonline.com

อัพเดต 10 พ.ค. เวลา 17.43 น. • เผยแพร่ 10 พ.ค. เวลา 10.43 น. • TV Pool

จากกรณีเงินบริจาค 4.8 ล้านบาทของน้องแพน สาวป่วยมะเร็งปากที่เสียชีวิตไปแล้ว กลายเป็นข้อพิพาท เมื่อพ่อน้องแพนให้น้องชายของแพนยื่นฟ้องศาลขอเป็นผู้จัดการมรดก ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีการตกลงกันไว้แล้ว ล่าสุดน้าสาวของน้องแพนเชื่อมั่นว่า เรื่องราววุ่นวายที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากพ่อและน้องชายโดยตรง แต่มีบุคคลที่สาม “คอยเสี้ยม” อยู่เบื้องหลัง ขณะที่ “ทนายไพศาล เรื่องฤทธิ์” ได้เข้าช่วยเหลือทางด้านกฎหมายแล้ว

วันนี้ (10 พ.ค.68) นางสมจิตร อายุ 47 ปี น้าสาวของน้องแพน เปิดเผยหลังจากเดินทางไปออกรายการต่างๆ ว่า ตอนนี้สบายใจขึ้นมากที่ทราบความจริงว่า พินัยกรรมฉบับแรกนั้นสมบูรณ์ถูกต้อง และเพิ่งทราบว่าพ่อน้องแพนไม่ได้จดทะเบียนรับรองบุตร จึงต้องใช้ชื่อนายวิชิต น้องชายของแพนเป็นผู้จัดการมรดก

นางสมจิตรยังกล่าวถึงนายวิชิตว่า มีศักดิ์เป็นหลานและเคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดในสมัยที่อยู่ในสถานพินิจ โดยตนเองและยายเป็นคนไปเยี่ยม ส่วนพ่อของนายวิชิตนั้นไม่ได้สนใจดูแล

สำหรับปมปัญหาเงินบริจาค น้าสาวของน้องแพนเชื่อว่า เรื่องที่บานปลายจนถึงขั้นมีการฟ้องร้องนั้น ไม่ได้เกิดจากพ่อและนายวิชิตโดยลำพัง แต่มีคนคอยยุยง บอกให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้อยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน

ด้านการต่อสู้คดีในชั้นศาล ทนายไพศาล เรื่องฤทธิ์ ได้เดินทางมาพบกับน้าและยายน้องแพน เพื่อเซ็นเอกสารแต่งตั้งทนายความ โดยทนายไพศาลกล่าวว่า ได้รับมอบอำนาจเรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นจะตรวจสอบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน เพื่อใช้สิทธิ์ทางกฎหมายต่อสู้ในชั้นศาลต่อไป

หลังจากนั้น ทนายไพศาลได้พา นางแจ๋ว อายุ 80 ปี ยายน้องแพน ไปแจ้งความที่ สภ.บ้านค่าย กรณีถูกบุกรุกบ้านและลักทรัพย์ โดยแจ้งความผู้ก่อเหตุในข้อหาบุกรุกและลักทรัพย์ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความไว้เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ต่อเมื่อเวลา 15.00 น. หลังจากทนายไพศาล พายายของน้องแพน ไปแจ้งความที่ สภ.บ้านค่าย จ.ระยอง กับบุคคลที่เกี่ยวข้องในวันที่เข้ามาขนของที่บ้านแล้ว พ.ต.ต.วิทยา กุลบุญ สว.(สอบสวน) สภ.บ้านค่าย เจ้าของคดีได้ลงพื้นที่บ้านหลังดังกล่าวทันทีเพื่อเก็บหลักฐานสอบสวนดำเนินคดีตามที่ยายของน้องแพนมาแจ้งความ ขณะลงพื้นที่ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมว่าก่อนจะมีการขนของนายวิชิต มีการถอดเมมโมรี่การ์ดของกล้องวงจรไปเพื่อปกปิดหลักฐานขณะพากันมาขนของลักทรัพย์ไปจากบ้านยาย

ทนายไพศาล กล่าวเพิ่มเติมว่าพึ่งรู้ว่ามีการถอดเมมโมรี่กล้องวงจรปิดไปด้วย ตรงนี้ชัดเลยว่ามีการเตรียมการซึ่งตำรวจจะดำเนินคดีทั้งหมด

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...