ปรับครม.ใหม่ นายใหญ่ชิงลงหมัดน็อก ดีดภูมิไทยพ้นกระดาน

กลางค่ำคืนย่านท่าเตียน แสงไฟสลัวของร้านอาหารหรูสะท้อนเงาผู้คนกลุ่มหนึ่งที่นั่งล้อมโต๊ะ พูดคุยสัพเพเหระเรื่องบ้านเมือง แต่เสียงหนึ่งในวงนั้นชัดเจนกว่าคนอื่น “ถึงเวลาเอาคืนแล้ว” …ไม่ใช่แค่คืนเก้าอี้มหาดไทย แต่คือคืนสมดุลของเกมการเมืองทั้งกระดาน

ข่าวปรับ ครม. แพร่กระจายเร็วกว่ากระแสลมฝั่งเจ้าพระยา กระซิบมาว่า “รายชื่อ ครม.ใหม่” ถูกส่งขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว แต่ไม่มีชื่อรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทยแม้แต่คนเดียว เหมือนหมัดน็อกจากมุมมืด กระแทกกลางหน้าพรรคที่เคยเป็น “คู่หูจำเป็น” ของพรรคเพื่อไทยในรัฐบาล

แผนนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ มันเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อ “ผู้มีบารมีเหนือพรรค” เดินสายพบปะเครือข่ายการเมืองในร้านอาหารริมน้ำ พูดคุยเรื่องตำแหน่งอธิบดี ผู้ว่าฯ ไปจนถึงผลสอบนายอำเภอ ที่จังหวัดหนึ่งในอีสานใต้เปลี่ยนยกแผงแบบมีนัยยะ พร้อมข่าวลือว่า “เตรียมเคลียร์พื้นที่ไว้แล้ว”

แต่ไพ่ใบสำคัญคือ “ริบมหาดไทย” กลับคืน

มีการเตรียมพร้อมรอบด้าน ทั้งแผนเกลี่ย 9 เก้าอี้รัฐมนตรีของภูมิใจไทยให้พรรคร่วมเดิม และพรรคที่กำลังจะ “เข้าร่วม” เสริมเสียงใหม่ให้รัฐบาล โควต้าใหญ่ ๆ ที่จองไว้แล้ว มีทั้งกระทรวงมหาดไทย แรงงาน พาณิชย์ รวมถึงตำแหน่ง รมช.มหาดไทย ที่อาจเปิดทางให้ “ปลัดตุ๋ม” จตุพร บุรุษพัฒน์ จากเครือข่าย “พรรคโอกาสใหม่” เข้ามาร่วมวง

สูตรเดิมที่เคยใช้ตอน “กล้าธรรม” เข้าร่วมรัฐบาล จะกลับมาใช้อีกครั้ง ส.ส.ฝ่ายค้านเดิมที่อยากย้ายข้างจะไม่ต้องลาออกจากพรรค แค่ส่ง “นอมินี” เข้ามานั่งเก้าอี้แทนในนามโควต้าพรรครัฐบาล

กลุ่มที่จะเสริมทัพให้รัฐบาลมีเสียงมั่นคงอีกครั้ง ได้แก่

• กลุ่มเทียนทอง และ “มะขามหวาน” ของสันติ พร้อมพัฒน์ ที่เชื่อกันว่า “รักทุกฝ่าย”
• ไทยสร้างไทย ที่แม้จะไม่แสดงตน แต่แบ่งโควต้ากมธ.งบปี 69 กับเพื่อไทยไปเรียบร้อย
• พรรคประชาชน (ส้มกลุ่มใหม่) ที่ดีลกับ “กล้าธรรม” ล่วงหน้าไว้แล้ว
• และที่น่าจับตา: สส.ในภูมิใจไทยเอง ที่เริ่มรู้ตัวว่า “ถ้าล่ม ก็ล่มทั้งพรรค”

เสียงข้างมากจึงไม่ใช่ปัญหา หาก “ปล่อยภูมิใจไทยพ้นเรือ” ไปจริง

ในทางกฎหมายก็เริ่มขยับพร้อมกัน ทั้งคดีฮั้ว ส.ว. คดี ม.112 ของพรรคส้ม และคำร้องยุบพรรคภูมิใจไทยจาก “ณฐพร” ซึ่งล่าสุดศาลรัฐธรรมนูญส่งหนังสือถึงอัยการสูงสุดแล้ว

หากมีคำวินิจฉัยให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว รัฐมนตรีของภูมิใจไทยอาจหลุดจากเกมในพริบตา

ขณะเดียวกัน “เจ๊แมว” กุสุมาลวตี ก็เดินเกมคู่ขนานด้วยการยื่นสอบจริยธรรมผู้บริหารพรรคภูมิใจไทยทั้งหมด หากเข้าสู่กระบวนการศาลฎีกาได้สำเร็จ เสียงของภูมิใจไทยจะหายไปอีกระลอก

และท้ายที่สุด…เก้าอี้รัฐมนตรีของภูมิใจไทย จะกลายเป็น “ของกลาง” ที่ถูกแบ่งใหม่อย่างเงียบๆ

มหาดไทย = ฐานปักหมุดนโยบายรากหญ้า

แรงงาน = เดินหน้า "ค่าแรง 500"

พาณิชย์ = แก้ภาษีทรัมป์ ดูแลราคาผลผลิต

รมช.มหาดไทย = ปั้นพรรคพันธมิตรในชื่อใหม่

จากเกมอำนาจ สู่การออกแบบอนาคต

ภารกิจ “เขี่ยภูมิใจไทย” ไม่ใช่แค่เรื่องปรับ ครม. แต่มันคือการจัดกระดานใหม่ทั้งกระดาน และครั้งนี้ “นายใหญ่” ชิงลงหมัดน็อกเอง

พรรคภูมิใจขวาง…อาจเหลือเพียงชื่อในบันทึกหน้าถัดไปของการเมืองไทย.