โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

เปิดโผสินค้าเกษตร ปี 2569 ใครรุ่ง ใครร่วง ‘ไก่-ปาล์ม-มัน-ทุเรียน’มาแรง ‘ข้าว-ยาง’ เสี่ยง

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 18 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ในปี 2569 หรือปีม้าที่จะมาถึงทิศทางสินค้าเกษตรไทยจะเป็นอย่างไรนั้น สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ได้วิเคราะห์ไว้ในเบื้องต้น พบในหลายสินค้ามีทิศทางแนวโน้มที่ดี แต่อีกหลายสินค้ายังน่าเป็นห่วง

นายพีรพันธ์ คอทอง รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่าแนวโน้มเศรษฐกิจผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศภาคเกษตร (จีดีพีเกษตร) ในปี 2569 คาดว่าจะขยายตัวอยู่ในช่วงร้อยละ 2.0-3.0 หรือมีมูลค่า 723,200-730,300 ล้านบาท ซึ่งหากเป็นไปตามที่คาดจะเป็นนิวไฮหรือสถิติใหม่ ในรอบ 3 ปี เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ปริมาณนํ้าฝนที่มีมากกว่าในปี 2568 คาดจะทำให้เกษตรกรมีผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น

เริ่มจาก “มันสำปะหลัง” ราคาคาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากผลผลิตมีแนวโน้มลดลง ในขณะที่ความต้องการใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและอาหารสัตว์ยังคงมีต่อเนื่อง ประกอบกับประเทศเพื่อนบ้านคือ สปป.ลาวมีนโยบายลดการส่งออกหัวมันสำปะหลังสดไปต่างประเทศ(ซึ่งรวมถึงการส่งออกมาไทย) และการปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา จากปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศจะส่งผลให้ราคามันสำปะหลังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

“ปาล์มน้ำมัน” คาดราคาเพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและพลังงานชีวภาพทั้งในประเทศและต่างประเทศยังมีอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องในตลาดโลกอุปทานสินค้าจะตึงตัว เนื่องจาก ประเทศอินโดนีเซียซึ่งเป็นผู้ผลิตปาล์มน้ำมันรายใหญ่ของโลก มีแผนจะเพิ่มสัดส่วนการผสมในใบโอดีเซลจากร้อยละ 40 เป็นร้อยละ 50 และในปี 2569 สำหรับราคาน้ำมันเมล็ดดอกทานตะวันและราคาน้ำมันเรพซีดเพิ่มขึ้น เนื่องจากปริมาณผลผลิตในภูมิภาคทะเลดำและยุโรปลดลง ไม่เพียงพอกับความต้องการนำเข้าของทั่วโลก ด้านราคานํ้ามันถั่วเหลืองเพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการเพื่อใช้เป็นวัตดิบเชื้อเพลิงชีวภาพเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“ไก่เนื้อ” คาดว่าจะมีผลผลิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการบริโภคในประเทศที่เพิ่มขึ้นและความต้องการบริโภคเนื้อไก่ของต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น ประกอบมีการจัดการฟาร์มให้ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับของลูกค้า อย่างไรก็ดีปัจจัยเสี่ยงค่าเงินบาทที่มีความผันผวนในทิศทางแข็งค่า ส่งผลกระทบในการแข่งขันราคาสินค้าไก่ของไทยกับประเทศคู่แข่ง

นอกจากนี้ราคาสินค้าคาดว่าจะอยู่ในเกณฑ์ดีในปี 2569 คือ กลุ่มผลไม้ ได้แก่ ลำไย ทุเรียน มังคุด และเงาะ เนื่องจากความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศยังคงมีอยู่มาก ประกอบกับภาครัฐมีนโยบาย พัฒนาคุณภาพผลผลิตให้ได้มาตรฐานและส่งเสริมการแปรรูปสินค้าเพื่อเพิ่มมูลค่าให้สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม มาตรการของภาครัฐในการช่วยเหลือเกษตรกรทั้งในด้านการตลาด และการยกระดับคุณภาพผลผลิตให้ผ่านเกณฑ์ที่ประเทศคู่ค้ามีความเข้มงวดในปี 2568 จะส่งผลต่อเสถียรภาพของราคาต่อเนื่องถึงปี 2569

สำหรับสินค้าที่น่าเป็นห่วง ได้แก่ “ข้าว” เนื่องจากอุปทานข้าวในตลาดโลกมีมากกว่าความต้องการ โดยเฉพาะจากอินเดียที่กลับมาส่งออกข้าวในกลุ่มข้าวขาวอีกครั้ง ขณะเดียวกันประเทศผู้นำเข้ารายใหญ่ อาทิ ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเชีย มีการสำรองข้าวไว้อย่างเพียงพอจึงชะลอการสั่งซื้อ ส่งผลให้ราคาข้าวในตลาดโลกลดลงอย่างรวดเร็ว และส่งผลกระทบต่อราคาที่เกษตรกรขายได้ในประเทศ ขณะที่การส่งออกข้าวในปี 2569 มีการประเมินจะส่งออกได้ 7-7.5 ล้านตัน ตํ่ากว่าในปี 2568

ตามด้วย “ยางพารา” ปี 2569 คาดว่าผลผลิตยางพาราโลกจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย ประกอบกับหลายประเทศผู้ผลิตได้มีการขยายพื้นที่ปลูกในปี 2563 อาทิ อินโดนีเซีย เมียนมา กัมพูชา ซึ่งจะเริ่มให้ผลผลิตในปีนี้ ขณะที่คาดว่าความต้องการใช้ยางพาราของโลกจะปรับตัวลดลงจากปีที่ผ่านมา และส่งออกจะลดลงด้วย เนื่องจากการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้ามีแนวโน้มเติบโตชะลอตัวลง โดยเฉพาะในประเทศคู่ค้าหลัก อาทิ จีน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ทำให้ความต้องการใช้ยางพาราในภาคอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องกับยางพาราของโลกลดลง และยังมีความเสี่ยงของนโยบายการค้าระหว่างระประเทศที่มีความไม่แน่นอน ส่งผลต่อความต้องการใช้ยางพาราของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยางพารา โดยเฉพาะยางล้อและชิ้นส่วนยานยนต์อาจชะลอตัวลง

นายพีรพันธ์ กล่าวทิ้งท้ายว่าภาคเกษตร เป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจและสังคมไทย ทั้งด้านความมั่นคงทางอาหาร การจ้างงาน และการสร้างรายได้ แต่กำลังเผชิญความท้าทายรอบด้านจากเศรษฐกิจโลก การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กติกาการค้า ความขัดแย้งระหว่างประเทศ ต้นทุนการผลิตที่ผันผวน เทคโนโลยีที่เปลี่ยนเร็ว และโครงสร้างประชากรสูงวัย ขณะที่อนาคตยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ดังนั้นไทยจึงจำเป็นต้องเร่งปรับตัวเชิงนโยบาย บริหารจัดการ และนำนวัตกรรมมายกระดับการผลิต เพื่อพลิกเกษตรไทยให้ก้าวทันโลกยุคดิจิทัล

หน้า 9 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 45 ฉบับที่ 4,160 วันที่ 25 - 27 ธันวาคม พ.ศ. 2568

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...