โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ถอด 4 เหตุผล ที่ทำให้ภาพยนตร์ “ธี่หยด” ตามมาหลอกหลอนถึงโลกการตลาด !

Ad Addict

อัพเดต 09 พ.ย. 2566 เวลา 10.50 น. • เผยแพร่ 09 พ.ย. 2566 เวลา 10.55 น. • tonapas

นาทีนี้…เชื่อว่าไม่มีผีตนใดที่หลอกหลอนหน้าไทม์ไลน์เราได้มากกว่า‘ธี่หยด’ แน่นอน ด้วยดีกรีของเรื่องหลอนในตำนาน ที่ตามมากระตุกจิตกระชากวิญญาณคนดูบนจอยักษ์ในปีนี้

ซึ่งบอกได้เลยว่าเรื่องนี้เฮี้ยนสุด ๆ เพราะนอกจากจะเสิร์ฟความสยองมาให้วงการหนังไทยแล้ว ยังคืบคลานมาถึงวงการโฆษณา ให้แบรนด์และนักการตลาดลุกขึ้นมาสร้างแคมเปญเกาะกระแสให้สะพรึงขึ้นไปอีก !

เนื่องในวันฮาโลวันแบบนี้ แอดเลยขอชวนทุกคนมาถอดความเฮี้ยน ว่าทำไมหนังเรื่องธี่หยดถึงตามมาถึงโลกการตลาดของเราได้ พร้อมรวมการปล่อยผี เอ๊ย ! ปล่อยไอเดียของแบรนด์ต่าง ๆ มาให้ด้วย ตามไปดูกันได้เลยยย

1. เกาะกระแสความหลอนสุดโด่งดัง เรื่องผีในตำนานที่ยอดวิวทะลุสิบล้าน

ถ้าจะพูดถึงความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้ ต้องย้อนกันไปถึงยุค Pantip เลยทีเดียว ! เพราะจุดเริ่มต้นของภาพยนตร์ ‘ธี่หยด’ มาจากกระทู้เรื่องเล่าสยองขวัญตั้งแต่ปี พ.ศ.2558 ที่เล่าย้อนไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของคุณแม่ของเจ้าของเรื่อง ซึ่งได้ยอดแชร์ไปถึงหลักแสน จนกลายเป็นเรื่องหลอนในตำนานที่หลาย ๆ คนรู้จัก

หลังจากนั้น เรื่องราวนี้ก็ถูกตีพิมพ์เป็นหนังสือนิยายโดยแพรวสำนักพิมพ์ แล้วก็ได้กระแสตอบรับล้นหลามอย่างต่อเนื่อง จน ‘คุณกิตติศักดิ์ กิตติวิรยานนท์’ เจ้าของเรื่องได้หยิบยกขึ้นมาเล่าในรายการ ‘The Ghost Radio’ อีกครั้ง และได้ยอดวิวบน YouTube ทะลุหลักสิบล้านภายใน 3 เดือน !!

จากกระแสความหลอนที่ผ่านมานี้ ทำให้ส่งเรื่องราว ธี่หยด สู่ภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกบนจอIMAX ได้ในที่สุด ซึ่งตัวเลขทั้งหมดก็เป็นหลักการันตีชั้นดี ให้เหล่าแบรนด์และนักการตลาดกล้าลงเล่นกับกระแสไวรัลตลอดกาล เพื่อดึงความสนใจของผู้บริโภคและคอหนังผีทั่วประเทศไทยเอาไว้ให้ได้

2. คีย์เวิร์ดปริศนา ‘ธี่…หยด’ ที่หยิบมาเล่นให้ขนหัวลุกยิ่งกว่าเดิม

ไฮไลต์ของภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็คือคำว่า ‘ธี่หยด’ คีย์เวิร์ดชวนสงสัยที่ทุกคนถกเถียงกันมาตั้งแต่เป็นตัวอักษร จนได้มาสัมผัสกับเสียงบรรยาย ธี่…หยด สุดหลอนจากเจ้าของเรื่อง ที่ยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดของคำศัพท์นี้

ด้วยปริศนาสุดลึกลับนี้ ก็ต่อยอดมาเป็นการพูดถึงบนโลกโซเชียลอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการอ่านคำว่า ‘ธี่’ อย่างถูกต้อง หรือการวิเคราะห์รากของภาษาเพื่อไขคำตอบว่าชื่อหนังเรื่องนี้มาจากอะไรกันแน่ !?

จุดนี้นับเป็นโอกาสอันดีของแบรนด์ที่จะหยิบคียเวิร์ดนี้มาเล่นคำ ปั่นกระแสของตัวเองต่อ ไม่ว่าจะขายความน่ากลัวตามหนัง หรือจะบิดมาขายความฮาสไตล์คนไทย ก็สามารถสร้างการรับรู้และการแชร์ต่อได้ในวงกว้างเลยทีเดียว (ขนลุกทุกอัน โดยเฉพาะ ‘เลขธี่ออก…’)

3. ตลาดหนังไทยกลับมาคึกคัก พร้อมเติมสีสันให้วงการโฆษณา

นอกจากความนิยมของหนังเองแล้ว ปี 2566 ก็นับเป็นปีที่‘วงการภาพยนตร์ไทย’ กลับมาคึกคักอีกครั้ง จากรายชื่อหนังไทยคุณภาพที่ถูกส่งเข้าโรงรัว ๆ และเสียงตอบรับของคนที่เริ่มก้าวออกจากบ้านมาดูหนังผ่านจอยักษ์มากขึ้นเรื่อย ๆ

โดยหนังผีหรือภาพยนตร์สยองขวัญ นับเป็นแนวหนังที่คนไทยชื่นชอบ และตั้งตารอเข้าไปสัมผัสประสบการณ์ขนหัวลุกกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นในอดีตอย่างชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ, ร่างทรง จนมาถึงธี่หยด ก็ล้วนเป็นหนังผีขึ้นหิ้งที่กวาดยอดขายหลักร้อยล้านมาแล้วทั้งนั้น

เมื่อคนให้ความสนใจมากขึ้น ดูหนังมากขึ้น และพูดถึงหนังมากขึ้น ตลาดหนังไทยจึงกลายเป็นพื้นที่สื่อโฆษณาอันล้ำค่าของเหล่าแบรนด์และนักการตลาด ที่จะเข้ามาช่วยสร้างสีสันให้เกิดเป็นการสื่อสารแคมเปญต่าง ๆ ที่สร้างสรรค์มากกว่าเดิม

4. บูสต์พลังด้วยวันฮาโลวีน ปล่อยทั้งผีและไอเดียแบบเรียลไทม์

แน่นอนว่าสิ่งที่เพิ่มความสยองให้ ธี่หยด เป็นสองเท่านั่นก็คือช่วงเวลาของ‘วันฮาโลวีน’ หรือวันปล่อยผีที่ทั้งเมืองจะเต็มไปด้วยความน่ากลัว และเหล่าวิญญาณที่จะออกมาปั่นป่วน สร้างความตื่นเต้นให้ทุกคนอินไปด้วยกัน !

ซึ่งในช่วงวันพิเศษแบบนี้ แบรนด์ทั้งหลายก็ต้องเตรียมสินค้าออกใหม่ กิจกรรมสนุก ๆ หรือโปรโมชันเด็ดที่รอปล่อยให้คนช้อปแหลกรับเทศกาลอยู่แล้ว การเกาะกระแสหนังด้วย ‘Real Time Marketing’ จากหนังธี่หยด จึงเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้แบรนด์ไปถึงยอดขายที่เกินความคาดหมายได้นั่นเอง

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...