ถอด 4 เหตุผล ที่ทำให้ภาพยนตร์ “ธี่หยด” ตามมาหลอกหลอนถึงโลกการตลาด !
นาทีนี้…เชื่อว่าไม่มีผีตนใดที่หลอกหลอนหน้าไทม์ไลน์เราได้มากกว่า‘ธี่หยด’ แน่นอน ด้วยดีกรีของเรื่องหลอนในตำนาน ที่ตามมากระตุกจิตกระชากวิญญาณคนดูบนจอยักษ์ในปีนี้
ซึ่งบอกได้เลยว่าเรื่องนี้เฮี้ยนสุด ๆ เพราะนอกจากจะเสิร์ฟความสยองมาให้วงการหนังไทยแล้ว ยังคืบคลานมาถึงวงการโฆษณา ให้แบรนด์และนักการตลาดลุกขึ้นมาสร้างแคมเปญเกาะกระแสให้สะพรึงขึ้นไปอีก !
เนื่องในวันฮาโลวันแบบนี้ แอดเลยขอชวนทุกคนมาถอดความเฮี้ยน ว่าทำไมหนังเรื่องธี่หยดถึงตามมาถึงโลกการตลาดของเราได้ พร้อมรวมการปล่อยผี เอ๊ย ! ปล่อยไอเดียของแบรนด์ต่าง ๆ มาให้ด้วย ตามไปดูกันได้เลยยย
1. เกาะกระแสความหลอนสุดโด่งดัง เรื่องผีในตำนานที่ยอดวิวทะลุสิบล้าน
ถ้าจะพูดถึงความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้ ต้องย้อนกันไปถึงยุค Pantip เลยทีเดียว ! เพราะจุดเริ่มต้นของภาพยนตร์ ‘ธี่หยด’ มาจากกระทู้เรื่องเล่าสยองขวัญตั้งแต่ปี พ.ศ.2558 ที่เล่าย้อนไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของคุณแม่ของเจ้าของเรื่อง ซึ่งได้ยอดแชร์ไปถึงหลักแสน จนกลายเป็นเรื่องหลอนในตำนานที่หลาย ๆ คนรู้จัก
หลังจากนั้น เรื่องราวนี้ก็ถูกตีพิมพ์เป็นหนังสือนิยายโดยแพรวสำนักพิมพ์ แล้วก็ได้กระแสตอบรับล้นหลามอย่างต่อเนื่อง จน ‘คุณกิตติศักดิ์ กิตติวิรยานนท์’ เจ้าของเรื่องได้หยิบยกขึ้นมาเล่าในรายการ ‘The Ghost Radio’ อีกครั้ง และได้ยอดวิวบน YouTube ทะลุหลักสิบล้านภายใน 3 เดือน !!
จากกระแสความหลอนที่ผ่านมานี้ ทำให้ส่งเรื่องราว ธี่หยด สู่ภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกบนจอIMAX ได้ในที่สุด ซึ่งตัวเลขทั้งหมดก็เป็นหลักการันตีชั้นดี ให้เหล่าแบรนด์และนักการตลาดกล้าลงเล่นกับกระแสไวรัลตลอดกาล เพื่อดึงความสนใจของผู้บริโภคและคอหนังผีทั่วประเทศไทยเอาไว้ให้ได้
2. คีย์เวิร์ดปริศนา ‘ธี่…หยด’ ที่หยิบมาเล่นให้ขนหัวลุกยิ่งกว่าเดิม
ไฮไลต์ของภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็คือคำว่า ‘ธี่หยด’ คีย์เวิร์ดชวนสงสัยที่ทุกคนถกเถียงกันมาตั้งแต่เป็นตัวอักษร จนได้มาสัมผัสกับเสียงบรรยาย ธี่…หยด สุดหลอนจากเจ้าของเรื่อง ที่ยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดของคำศัพท์นี้
ด้วยปริศนาสุดลึกลับนี้ ก็ต่อยอดมาเป็นการพูดถึงบนโลกโซเชียลอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการอ่านคำว่า ‘ธี่’ อย่างถูกต้อง หรือการวิเคราะห์รากของภาษาเพื่อไขคำตอบว่าชื่อหนังเรื่องนี้มาจากอะไรกันแน่ !?
จุดนี้นับเป็นโอกาสอันดีของแบรนด์ที่จะหยิบคียเวิร์ดนี้มาเล่นคำ ปั่นกระแสของตัวเองต่อ ไม่ว่าจะขายความน่ากลัวตามหนัง หรือจะบิดมาขายความฮาสไตล์คนไทย ก็สามารถสร้างการรับรู้และการแชร์ต่อได้ในวงกว้างเลยทีเดียว (ขนลุกทุกอัน โดยเฉพาะ ‘เลขธี่ออก…’)
3. ตลาดหนังไทยกลับมาคึกคัก พร้อมเติมสีสันให้วงการโฆษณา
นอกจากความนิยมของหนังเองแล้ว ปี 2566 ก็นับเป็นปีที่‘วงการภาพยนตร์ไทย’ กลับมาคึกคักอีกครั้ง จากรายชื่อหนังไทยคุณภาพที่ถูกส่งเข้าโรงรัว ๆ และเสียงตอบรับของคนที่เริ่มก้าวออกจากบ้านมาดูหนังผ่านจอยักษ์มากขึ้นเรื่อย ๆ
โดยหนังผีหรือภาพยนตร์สยองขวัญ นับเป็นแนวหนังที่คนไทยชื่นชอบ และตั้งตารอเข้าไปสัมผัสประสบการณ์ขนหัวลุกกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นในอดีตอย่างชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ, ร่างทรง จนมาถึงธี่หยด ก็ล้วนเป็นหนังผีขึ้นหิ้งที่กวาดยอดขายหลักร้อยล้านมาแล้วทั้งนั้น
เมื่อคนให้ความสนใจมากขึ้น ดูหนังมากขึ้น และพูดถึงหนังมากขึ้น ตลาดหนังไทยจึงกลายเป็นพื้นที่สื่อโฆษณาอันล้ำค่าของเหล่าแบรนด์และนักการตลาด ที่จะเข้ามาช่วยสร้างสีสันให้เกิดเป็นการสื่อสารแคมเปญต่าง ๆ ที่สร้างสรรค์มากกว่าเดิม
4. บูสต์พลังด้วยวันฮาโลวีน ปล่อยทั้งผีและไอเดียแบบเรียลไทม์
แน่นอนว่าสิ่งที่เพิ่มความสยองให้ ธี่หยด เป็นสองเท่านั่นก็คือช่วงเวลาของ‘วันฮาโลวีน’ หรือวันปล่อยผีที่ทั้งเมืองจะเต็มไปด้วยความน่ากลัว และเหล่าวิญญาณที่จะออกมาปั่นป่วน สร้างความตื่นเต้นให้ทุกคนอินไปด้วยกัน !
ซึ่งในช่วงวันพิเศษแบบนี้ แบรนด์ทั้งหลายก็ต้องเตรียมสินค้าออกใหม่ กิจกรรมสนุก ๆ หรือโปรโมชันเด็ดที่รอปล่อยให้คนช้อปแหลกรับเทศกาลอยู่แล้ว การเกาะกระแสหนังด้วย ‘Real Time Marketing’ จากหนังธี่หยด จึงเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้แบรนด์ไปถึงยอดขายที่เกินความคาดหมายได้นั่นเอง