โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

ดาวโจนส์ ปิดร่วง 334.33 จุด ผิดหวังผลประกอบการ-กังวลตึงเครียดการค้ารอบใหม่

The Bangkok Insight

อัพเดต 23 ต.ค. เวลา 01.45 น. • เผยแพร่ 23 ต.ค. เวลา 01.45 น. • The Bangkok Insight

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (22 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ "ดาวโจนส์" ลดลง 334.33 จุด เหตุนักลงทุนผิดหวังผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ทั้งยังกังวลต่อรายงานข่าวที่ว่า รัฐบาลสหรัฐ กำลังพิจารณาควบคุมการส่งออกสินค้า ที่ผลิตด้วยซอฟต์แวร์ของสหรัฐ ไปยังจีน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 46,590.41 จุด ลดลง 334.33 จุด หรือ -0.71% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 6,699.40 จุด ลดลง 35.95 จุด หรือ -0.53% และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 22,740.40 จุด ลดลง 213.27 จุด หรือ -0.93%

ดาวโจนส์

หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดในแดนลบ นำโดยหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมร่วงลง 1.31% และหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยลดลง 1% ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น 1.32% และหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวขึ้น 0.64%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า คณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพิจารณาใช้มาตรการควบคุมการส่งออกสินค้าที่ผลิตด้วยซอฟต์แวร์ของสหรัฐไปยังจีน ซึ่งสินค้าเหล่านี้ครอบคลุมถึงแล็ปท็อปไปจนถึงเครื่องยนต์เครื่องบิน เพื่อตอบโต้จีนที่จำกัดการส่งออกแร่หายาก โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นการยกระดับความตึงเครียดทางการค้าครั้งใหม่ระหว่างสองประเทศ

ทางด้านประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่า เขาคาดว่า จะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าที่น่าพึงพอใจกับจีน แต่ก็เตือนว่า แผนการพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งเดิมจะมีขึ้นนอกรอบการประชุมเอเปคที่เกาหลีใต้นั้น อาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทจดทะเบียน โดยเน็ตฟลิกซ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสตรีมมิงภาพยนตร์ และซีรีส์รายใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยกำไรที่ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 3/2568 โดยมีสาเหตุมาจากข้อพิพาทระหว่างบริษัท กับหน่วยงานจัดเก็บภาษีของบราซิล ส่งผลให้หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ปิดตลาดร่วงลงกว่า 10%

อย่างไรก็ดี ข้อมูลจาก LSEG ระบุว่า บรรดาบริษัทในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ได้รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ไปแล้วนั้น มี 87% ที่รายงานผลประกอบการสูงกว่าคาด ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ผลกำไรโดยรวมของบริษัทที่จดทะเบียนในดัชนีนี้ จะเติบโตที่ 9.3% ในไตรมาส 3/2568 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ไว้เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ระดับ 8.8%

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐ ในวันศุกร์ 24 ต.ค. โดยคาดา จะเพิ่มขึ้น 3.1% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.9% ในเดือนส.ค. และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะปรับตัวขึ้น 3.1% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.1% เช่นกันในเดือนส.ค.

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

เว็บไซต์: https://www.www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X:https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube:https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...