โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

พรรคร่วมฝ่ายค้าน เตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ 27 ก.พ.นี้

The Reporters

อัพเดต 07 ก.พ. เวลา 12.01 น. • เผยแพร่ 07 ก.พ. เวลา 12.01 น.

พรรคร่วมฝ่ายค้าน เตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ 27 ก.พ.นี้ วางกรอบไว้ 5 วัน แย้มมีข้อมูลเข้ม หวังตีแผ่ความจริงส่งผลสะเทือนรัฐบาล

วันนี้ (7 ก.พ. 68) พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านว่า ตนเองอยากยืนยันในหลักการการทำงานร่วมกันของฝ่ายค้าน ก่อนที่จะมีเนื้อหาในรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เนื่องจากการยื่นญัตติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ในการทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้าน พวกเรายึดมั่นเคารพหลักการอุดมการณ์ของแต่ละพรรคที่แตกต่างกันได้ แต่ความเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านแตกต่างกับการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งจุดนี้สิ่งที่พวกเราทำในกลไกการทำงานร่วมกัน คือการทำงานผ่านกลไกคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เพื่อตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาล

สำหรับความชัดเจนภายหลังการประชุมคือกรอบเวลาในการยื่นญัตติต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ชัดเจนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าภายในปลายเดือน ก.พ.นี้แน่นอน ซึ่งวันที่คิดว่ามีความเหมาะสม และเป็นวันสุดท้ายของการยื่นญัตติ คือวันที่ 27 ก.พ.68 เนื่องจากเป็นวันประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันพฤหัสบดีสุดท้ายของเดือน

ทั้งนี้ยังมีการตกลงถึงเนื้อหาในการอภิปราย เนื่องจากแต่ละพรรคมีเนื้อหาที่มีความเข้มข้น ซึ่งพวกเราจะให้นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒนสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน เป็นผู้ประสานงานเจรจาเบื้องต้นกับฝ่ายรัฐบาลว่า อยากจะขอเวลาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ 5 วัน ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐบาลไม่น่าจะปิดกั้นการตรวจสอบถ่วงดุลจากพรรคฝ่ายค้าน เพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ช่วงเวลาครึ่งเทอมที่ผ่านมาของการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลชุดนี้ ต้องยอมรับข้อเท็จจริงว่า ไม่ใช่เฉพาะรัฐบาลของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพียงเท่านั้น แต่เป็นการบริหารราชการแผ่นดินที่ต่อเนื่องตั้งแต่ รัฐบาลของพรรคเพื่อไทย

ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน

ในการประชุมมีหลายประเด็นที่เราได้หารือร่วมกันแล้วพบว่า รัฐบาลชุดนี้บริหารราชการแผ่นดิน ขาดประสิทธิภาพ ปล่อยปละละเลย ปัญหาสังคมในหลายเรื่อง รวมถึงประเด็นที่ส่อเค้าจะมีผลประโยชน์ทับซ้อน การบริหารราชการแผ่นดินที่ไม่ได้เป็นไปตามธรรมาธิบาลของระบอบประชาธิปไตย ที่ผู้มีอำนาจในรัฐบาลควรจะต้องถูกตรวจสอบถ่วงดุล และชี้แจงได้ในระบบรัฐสภา แต่ส่วนในรายละเอียด การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตนอาจจะยังเปิดเผยมากไม่ได้

สำหรับการทำงานร่วมกันของพรรคร่วมฝ่ายค้าน พวกเราคิดว่าหากมีประเด็นเนื้อหาใดที่ประชาชนรวมถึงส่วนราชการ มีข้อมูลเกี่ยวข้องกับการทุจริตคอรัปชันภายในรัฐบาล เราก็พร้อมเปิดกว้าง และสามารถส่งมาให้พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ทุกพรรค โดยเวลาในการอภิปรายคิดว่าอย่างน้อยต้องใช้เวลา 5 วัน และมองว่ารัฐบาลควรเปิดกว้างให้พรรคฝ่ายค้าน ตรวจสอบถ่วงดุลอย่างเต็มที่ คงต้องให้วิปฝ่ายค้านไปเจรจาเพิ่มเติม

ขณะที่การพูดคุยของฝ่ายค้านด้วยกันเอง มีเพียงกรอบเนื้อหา ส่วนกรอบระยะเวลา ยังคงต้องรอความชัดเจนจากฝั่งรัฐบาล ว่ามีการตกลงกันที่เวลาเท่าไหร่ แล้วจึงสามารถลงรายละเอียด ถึงกรอบระยะเวลา ที่แต่ละพรรคฝ่ายค้านจะได้รับได้ ทั้งนี้กรณีที่หลายคนประเมินว่าจะมีการพุ่งเป้าไปที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เรื่องนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งสำหรับการอภิปรายในครั้งนี้ ซึ่งต้องรอติดตาม ตนเองยืนยันว่าหากมีข้อมูลที่สามารถพุ่งเป้าไปที่รัฐมนตรีท่านใดก็ตามที่เราเห็นแล้วว่า เข้าข่ายทุจริต หรือมีผลประโยชน์ทับซ้อน เราก็สามารถอภิปรายได้

โดยเป้าหมายสูงสุดในการอภิปรายครั้งนี้คือ การตีแผ่ความจริงให้ประชาชนเห็นว่าการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลชุดนี้ ขาดความชอบธรรมอย่างไร รวมถึงหลายกรณีที่เราเห็นตามหน้าข่าว ก็อาจจะเห็นความขาดความเป็นเอกภาพของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งสะท้อนมาถึงการบริหารราชการแผ่นดิน ที่ทำให้ปัญหาของประชาชนไม่ได้รับการแก้ไขด้วย

สำหรับเหตุผลที่ต้องเจาะจงอภิปรายในช่วงเวลานี้ อาจจะเป็นช่วงเวลาที่ช้าไปด้วยซ้ำ เพราะการบริหารของรัฐบาลชุดนี้ ไม่ใช่เฉพาะของนางสาวแพทองธารคนเดียวเท่านั้น แต่ว่าต่อเนื่องในรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย จริง ๆ ตนเองก็คิดว่าอยากได้เร็วกว่านี้ แต่เนื่องจากติดในเรื่องวาระการประชุมพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ซึ่งทำให้ญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจต้องถูกเลื่อนออกไป เพราะฉะนั้นกรอบระยะเวลาที่ได้ตกลงกันว่าอย่างช้าที่สุดก็ต้องยื่นญัตติไปในสิ้นเดือนนี้ ซึ่งเป็นช่วงระยะเวลาที่เราคิดว่าเร็วที่สุดตามที่เราจะสามารถเร่งได้

เมื่อถามว่าหากรัฐบาลชิงปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อน จะมีการแก้เกมอย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การปรับ ครม.เป็นเรื่องของฝั่งรัฐบาล เรามั่นใจว่า ข้อมูลหลายอย่างที่เราได้อภิปรายในครั้งนี้ สามารถที่จะส่งผลสะเทือนให้กับฝั่งรัฐบาล ทำให้รัฐบาลขาดความเชื่อมั่นได้ โดยเนื้อหาการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นเรื่องของแต่ละพรรคฝ่ายค้าน ที่จะต้องเตรียมข้อมูล การที่เราประชุมร่วมกันเพื่อดูในภาพกว้างนะ แต่ในรายละเอียด อาจจะไม่ได้สามารถเปิดเผยได้ เพื่อป้องกันในเรื่องของการปรับ ครม.ล่วงหน้า หรือในระยะยาว และเพื่อไม่ให้ข้อมูลรั่วไหล

เวทีสำคัญคือการเปิดโปงและตีแผ่ความจริงให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนเห็นมากกว่า และตนเองเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เป็นประโยชน์ที่สุดคือ การที่รัฐมนตรีที่ถูกตั้งคำถาม หรือแม้แต่ตัวนายกฯ จะต้องเป็นผู้ตอบและชี้แจงในที่ประชุมสภาเอง ในคำถามที่มาจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน ถ้ารัฐมนตรีสามารถตอบได้ ก็เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ส่วนจะมีการยื่นเป็นรายบุคคลหรือยื่นทั้งคณะนั้น ต้องดูในรายละเอียดที่แต่ละพรรคจะส่งมาก่อนว่าจะยื่นทั้งคณะหรือยื่นเป็นรายบุคคล ตอนนี้สิ่งที่สำคัญก็คือเนื้อหาที่แต่ละพรรคจะยื่นมาให้

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...