โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

หนีภาษี หนีวิกฤติ ปัญหาคลาสสิกคนรวย เทรนด์ใหม่เศรษฐี "สะสมสัญชาติ" แผนสำรองในวันที่โลกไม่แน่นอน

Thairath Money

อัพเดต 26 มี.ค. เวลา 07.53 น. • เผยแพร่ 26 มี.ค. เวลา 07.53 น.
ภาพไฮไลต์

ตั้งแต่ทศวรรษ 1980 ที่ประเทศหมู่เกาะแคริบเบียนขนาดเล็กอย่าง เซนต์คิตส์และเนวิส ได้ริเริ่มโครงการสัญชาติผ่านการลงทุน เหล่าบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกก็เริ่มแสดงความรักชาติต่อหลายประเทศอย่างเท่าเทียมกัน

ในแต่ละปี มหาเศรษฐีใช้เงินหลายล้านดอลลาร์เพื่อซื้อสัญชาติผ่านโครงการ “วีซ่าทองคำ” ในประเทศอย่างโปรตุเกส มอลตา และนิวซีแลนด์ ลืมเรื่องความภาคภูมิใจของการถือสองสัญชาติไปได้เลย เพราะในปัจจุบัน ไม่ใช่เรื่องแปลกที่มหาเศรษฐีระดับโลกจะมีพาสปอร์ตตั้งแต่ 4 ถึง 8 เล่ม เพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นขึ้น

“โกลด์การ์ด” : นโยบายใหม่ของทรัมป์ต่อการลงทุนเพื่อสัญชาติ

ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เสนอแนวคิดยกเลิกโครงการพำนักถาวร EB-5 ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นโครงการที่ต้องการให้ผู้สมัครลงทุนและสร้างงานในธุรกิจที่ได้รับอนุมัติ และแทนที่ด้วย "โกลด์การ์ด" มูลค่า 5 ล้านดอลลาร์

โครงการโกลด์การ์ดของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเน้นดึงดูดนักลงทุนต่างชาติที่มีศักยภาพ อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาดการลงทุนเพื่อสัญชาติทั่วโลก ด้วยนโยบายที่เอื้อให้บุคคลมั่งคั่งสามารถเข้าถึงถิ่นที่อยู่ถาวรในสหรัฐฯ ได้ง่ายขึ้น ประเทศอื่น ๆ อาจต้องปรับเงื่อนไขของโครงการวีซ่าทองคำของตนเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ ส่งผลให้มาตรฐานและข้อกำหนดด้านการลงทุนเปลี่ยนแปลงไป หรืออาจเกิดการแข่งขันที่ทำให้บางประเทศลดข้อกำหนดลงเพียงเพื่อดึงดูดนักลงทุน ซึ่งอาจนำไปสู่ช่องโหว่ด้านกฎระเบียบและความเสี่ยงทางเศรษฐกิจในระยะยาว

คนอเมริกันเร่งหาสัญชาติที่สอง : สัญญาณความไม่แน่นอนทางสังคมและการเมือง

ในปี 2024 มูรัต คอซคุน หุ้นส่วนผู้จัดการของบริษัท Get Golden Visa ได้เผยผลสำรวจที่พบว่า คนอเมริกันจำนวนมากกำลังมองหาสัญชาติที่สองในต่างประเทศเพื่อความมั่นคงในอนาคต จากข้อมูลที่เปิดเผย พบว่า 46% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า เหตุผลหลักที่พวกเขาตัดสินใจย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศอื่น ๆ เกิดจากความไม่สงบทางสังคมและการเมืองภายในประเทศสหรัฐฯ โดยเฉพาะในช่วงหลังที่เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองและความขัดแย้งที่ส่งผลต่อเสถียรภาพทางสังคม

จากรายงานสมุดปกขาวของบริษัทที่ชื่อว่า "The Great American Exodus" ระบุว่า บริษัท Italian Citizenship Assistance ช่วยให้ชาวอเมริกันได้รับสิทธิพำนักในอิตาลีโดยใช้เงินตั้งแต่ 250,000 ถึง 2 ล้านดอลลาร์ เพราะ "คนอเมริกันให้ความสำคัญกับเสถียรภาพและความมั่นคงของอนาคตมากกว่าผลประโยชน์ระยะสั้น"

ทั้งนี้ การค้นหาสัญชาติที่สองเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการลดความเสี่ยงจากสถานการณ์ทางการเมืองและสร้างโอกาสใหม่ ๆ ในต่างประเทศ โดยโปรแกรมที่ได้รับความนิยมในหมู่ชาวอเมริกันคือการขอสัญชาติอิตาลีและโปรตุเกส โดยมีการลงทุนในอสังหาริม ทรัพย์หรือการสร้างธุรกิจในประเทศเหล่านี้

แนวคิด "พรีปเปอร์" ของชนชั้นสูง

“พรีปเปอร์” (Preppers) หรือการเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินไม่ใช่เรื่องใหม่ในโลกของมหาเศรษฐี แต่ในยุคปัจจุบัน คำนี้ไม่ได้หมายถึงแค่การสะสมอาหารแห้งหรือสร้างที่หลบภัยใต้ดินเท่านั้น แต่หมายถึงการกระจายทรัพย์สินและตัวตนไปยังหลายประเทศ เพื่อให้สามารถเคลื่อนย้ายอย่างรวดเร็วหากเกิดวิกฤตการณ์ขึ้น

แนวคิดนี้ได้รับความนิยมในหมู่คนร่ำรวยที่มองการกระจายความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์เป็นสิ่งสำคัญ พวกเขามองว่าการมีสถานที่พำนักหลายแห่งในประเทศที่มีเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจ จะทำให้พวกเขาสามารถหนีจากวิกฤตทางการเมืองหรือเศรษฐกิจในบ้านเกิดได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย

ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังสามารถดำเนินธุรกิจได้ในหลายประเทศ ซึ่งช่วยเสริมความยืดหยุ่นในแง่ของการทำกำไรในช่วงที่สถานการณ์ไม่แน่นอน

จากอเมริกา…สู่โปรตุเกส: การลงทุนเพื่อสัญชาติ

ในยุคที่โลกเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน มหาเศรษฐีทั่วโลกหันมาลงทุนเพื่อขอสัญชาติในประเทศที่มั่นคงมากขึ้น ผ่านโครงการ "วีซ่าทองคำ" (Golden Visa) หรือ "การลงทุนเพื่อสัญชาติ" (Citizenship by Investment - CBI) ซึ่งเปิดโอกาสให้ได้รับสัญชาติหรือสิทธิพำนักถาวรจากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หรือธุรกิจ

โปรตุเกสและมอลตาเป็นสองประเทศที่ได้รับความนิยมสูงในการลงทุนเพื่อสัญชาติ โดยเฉพาะโปรตุเกสซึ่งมีโครงการวีซ่าทองคำที่ช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถได้รับสัญชาติและสิทธิพำนักถาวรจากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือโครงการอื่น ๆ ที่รัฐบาลโปรตุเกสอนุมัติ โดยมูลค่าการลงทุนขั้นต่ำเริ่มต้นที่ 500,000 ยูโร

ในทางตรงกันข้าม สหรัฐอเมริกากำลังประสบปัญหาจากโครงการ EB-5 ซึ่งไม่สามารถดึงดูดนักลงทุนได้มากเท่าที่คาดหวัง ทั้งนี้ สหรัฐฯ ยังคงเป็นจุดหมายที่มีการใช้เงินลงทุนสูงถึง 1 ล้านดอลลาร์เพื่อแลกกับการได้มาซึ่งกรีนการ์ดหรือสิทธิพำนักถาวร แต่ความซับซ้อนในโครงการและปัญหาด้านการทุจริตที่เกิดขึ้นทำให้โครงการนี้ไม่เป็นที่นิยมเท่าที่ควร เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอย่างโปรตุเกสที่มีข้อเสนอที่น่าสนใจและมีเงื่อนไขที่ยืดหยุ่นมากกว่า

เฮกเตอร์ ดิอาซ จากสำนักงานกฎหมาย Your Immigration Attorney กล่าวว่าปัจจุบันการย้ายถิ่นฐานไปยังสหรัฐอเมริกาเริ่มกลายเป็นเรื่องที่หลายคนลังเล โดยเฉพาะในช่วงที่รัฐบาลทรัมป์ได้เสนอแนวทางใหม่ในการปรับปรุงโครงการ EB-5 ซึ่งให้ผู้ลงทุนจ่ายเงินเข้าคลังสหรัฐฯ แล้วได้รับกรีนการ์ดทันที ทำให้สหรัฐฯ มี "โกลด์การ์ด" ที่มีต้นทุนสูงที่สุดในโลก

อุปสรรคภาษีในโครงการโกลด์การ์ด

แม้ว่าโครงการวีซ่าทองคำจะดูน่าสนใจ แต่ก็มีปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา โดยเฉพาะเรื่องภาษี สหรัฐฯ เป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ใช้ระบบภาษีแบบเก็บจากรายได้ทั่วโลก (Worldwide Income Taxation) นั่นหมายความว่าถึงแม้คุณจะย้ายไปอยู่ประเทศอื่น แต่ตราบใดที่ยังถือสัญชาติอเมริกัน คุณก็ยังต้องจ่ายภาษีให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ อยู่ดี

ในทางตรงกันข้าม ประเทศอย่าง โปรตุเกส หรือ มอลตา มีนโยบายภาษีที่เอื้อต่อผู้ที่ย้ายเข้ามาพำนักมากกว่า ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับมหาเศรษฐีที่ต้องการลดภาระภาษี

หากสหรัฐฯ ยกเว้นภาษีสำหรับผู้ถือโกลด์การ์ดที่มีรายได้จากต่างประเทศ อาจเป็นแรงจูงใจสำคัญสำหรับนักลงทุนระดับโลก อย่างไรก็ตาม ด้วยระบบภาษีปัจจุบัน ทำให้โกลด์การ์ดของสหรัฐฯ ดึงดูดเฉพาะมหาเศรษฐีกลุ่ม 0.5% แรกของโลก มากกว่ากลุ่มคนรวยทั่วไป

ผลกระทบในระดับโลก

ในขณะที่มหาเศรษฐีเตรียมรับมือกับความไม่แน่นอน ประเทศต่าง ๆ ก็แข่งขันกันดึงดูดเม็ดเงินผ่านโครงการวีซ่าทองคำ ระบบ 'ขายสัญชาติ' นี้อาจสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ แต่ก็กระตุ้นคำถามเชิงจริยธรรมว่า การเป็นพลเมืองควรมีราคาไหม? ท้ายที่สุดแล้ว ระบบนี้อาจทำให้สัญชาติกลายเป็นสินค้าสำหรับผู้มั่งคั่ง ขยายช่องว่างระหว่างชนชั้น และท้าทายความหมายของการเป็นพลเมืองในยุคปัจจุบัน

ที่มา: New York Post CBS News

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : หนีภาษี หนีวิกฤติ ปัญหาคลาสสิกคนรวย เทรนด์ใหม่เศรษฐี "สะสมสัญชาติ" แผนสำรองในวันที่โลกไม่แน่นอน

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : Thairath Money
- LINE Official : Thairath

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...