โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

กลาโหมร่วมทุน PPP เอกชน ผุดนิคมอาวุธ "เมืองกาญจน์"

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 25 มิ.ย. 2563 เวลา 11.18 น. • เผยแพร่ 25 มิ.ย. 2563 เวลา 10.15 น.
กระทรวงกลาโหม เตรียมผุดนิคมป้องกันประเทศ 3,000 ไร่ อ. บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี

“กลาโหม” เล็งผุดนิคมป้องกันประเทศ 3,000 ไร่ อำเภอบ่อพลอย เมืองกาญจน์ ดึงงบฯ “สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ” ร่วมทุน กนอ. เปิดเจรจา PPP ดึงอเมริกา-เช็ก-จีน ขอบีโอไอลดภาษีนำเข้าวัตถุดิบจูงใจเอกชนตั้งโรงงาน ประเดิมสร้างเฟสแรก 1,034 ไร่ ผลิตแบตเตอรี่ทหาร เตรียมทำ market sounding ปลาย มิ.ย. 63 นี้

พล.อ.นภนต์ สร้างสมวงษ์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ผลคืบหน้าการศึกษาความเป็นไปได้โครงการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ S-curve ลำดับที่ 11 โดยเป็นโครงการร่วมดำเนินการกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ล่าสุดพื้นที่ขนาด 3,000 ไร่ ในอำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี มีความเป็นไปได้มากที่สุดในการลงทุน เพราะเป็นพื้นที่ว่างเปล่าไม่มีชุมชนโดยรอบ

ปักหมุดบ่อพลอยแทนศรีราชา

จุดเด่นกาญจนบุรีเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน (SEZ) อยู่แล้ว การเข้าไปตั้งนิคมอุตฯ ของกระทรวงเป็นการต่อยอดศักยภาพของพื้นที่ เมื่อเทียบกับพื้นที่บางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งมีความเป็นไปได้น้อยกว่า เพราะเป็นพื้นที่ของกองทัพเรือ และมีแผนจะใช้ก่อสร้างโครงการอื่นอยู่แล้ว

“เราปรึกษาเรื่องสิทธิประโยชน์กับทาง BOI แล้วได้รับคำชี้แนะว่าไม่จำเป็นต้องตั้งนิคมใน EEC ก็ได้ เพราะอุตสาหกรรมป้องกันประเทศคือ S-curve สามารถลงทุนที่ไหนก็ได้ โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ส่งเสริมการลงทุนสูงสุดเช่นเดียวกัน”

เฟสแรกพันไร่ผุด โรงงานแบตเตอรี่

โครงการนำร่องในเฟสแรก ใช้พื้นที่ 1,034 ไร่ รองรับการย้ายหน่วยงานกองทัพบกเข้าไปก่อน เช่น โรงงานแบตเตอรี่จากย่านบางนา ผลิตแบตเตอรี่ประเภทกรดเพื่อความมั่นคงด้านทหารป้อนออร์เดอร์เหล่าทัพและการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) โดยตรง มีกำลังการผลิต 16,000 ลูก/ปี รวมถึงโรงงานอาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ซึ่งสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (DTI) มีแผนร่วมทุนกับต่างประเทศ

ส่วนที่เหลือ เช่น ยานยนต์หุ้มเกาะ ยานพาหนะช่วยรบ อากาศยานไร้คนขับเครื่องสนาม เสื้อเกราะ ชิ้นส่วนอาวุธปืนเล็กยาว ปืนพก รวมทั้งการประกอบปืน เครื่องมือสื่อสาร รวมถึงศูนย์ซ่อมบำรุงอาวุธ

ส่วนอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่จะเข้าไปอยู่ในนิคม กำลังพิจารณาการแบ่งโซน โดยอาจจัดสรรพื้นที่ส่วนหนึ่งรองรับการผลิตวัตถุระเบิด กระสุน หรือใช้พื้นที่จังหวัดลพบุรีตามเดิมและให้บริษัทเอกชนย้ายมาอยู่ที่เดียวกัน

ขอ BOI ลดภาษีนำเข้าวัตถุดิบ

สำหรับสิทธิประโยชน์เพื่อจูงใจเอกชนเข้ามาลงทุนในนิคมอุตฯแห่งใหม่ พบว่าบริษัทเอกชนจำนวนมากที่ผลิตสินค้าขายให้กองทัพ มีการนำชิ้นส่วนเข้ามาประกอบในประเทศ มีปัญหาภาษีนำเข้าวัตถุดิบในอัตราสูง ดังนั้น กระทรวงกลาโหมเตรียมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI-Board of Investment) กระทรวงการคลัง พิจารณาลดภาษีนำเข้าวัตถุดิบเพื่อผลิตยุทโธปกรณ์จากอัตราปัจจุบันอยู่ที่ 30%

“ผลตอบแทนที่ได้รับนอกจากองค์ความรู้ต่าง ๆ แล้ว ยังเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจนำเงินตราเข้าประเทศเพิ่มทักษะฝีมือแรงงานช่างไทย การนำเข้ายุทโธปกรณ์ซึ่งนำเข้าถึง 50%”

และแม้ช่วงแรกยังลดการนำเข้ามูลค่าไม่มากนัก แต่ไทยต้องทยอยปรับตัวเพื่อเป็นผู้ผลิตเองในอนาคต ในขณะที่มีความได้เปรียบด้านความพร้อมของฝีมือแรงงานซึ่งต้องยอมรับว่าคนไทยเก่ง อีกทั้งยังมีเหล่าทหารอีกจำนวนมากในหน่วยงานที่ผลิตให้กองทัพ 37 โรงงาน สามารถเข้าสู่การเป็นแรงงานฝีมือในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศได้

ดึงจีน-อเมริกา-เช็กร่วมทุน

พล.อ.นภนต์กล่าวต่อว่า การลงทุนครั้งนี้จะใช้รูปแบบรัฐร่วมลงทุนกับเอกชนทั้งในและต่างประเทศ (PPP) โดยใช้โมเดลแบบประเทศจีนที่แปรรูปอุตสาหกรรมป้องกันประเทศโดยมีรัฐร่วมถือหุ้นอยู่ด้วย ขั้นตอนการลงทุนเมื่อดึงเอกชนจากต่างประเทศเข้ามาร่วมทุนได้ การเจรจาซื้อขายกับต่างประเทศในรูปแบบรัฐต่อรัฐ หรือ G to G ก็สามารถทำได้

ล่าสุดอยู่ระหว่างเปิดการเจรจากับ 3 ประเทศเป้าหมายเพื่อร่วมลงทุน ได้แก่ สาธารณรัฐเช็ก จีน อเมริกา ซึ่งเชี่ยวชาญเรื่องวัสดุและการผลิตยุทโธปกรณ์ ส่วนไทยเชี่ยวชาญในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม ทั้งนี้ สินค้าที่ผลิตได้จากนิคมดังกล่าววางแผนเจาะตลาดส่งออกไปยังฟิลิปปินส์ ซึ่งสนใจรถหุ้มเกราะ และบังกลาเทศที่มีความต้องการซื้อเรือตรวจการณ์

ทั้งนี้ สัดส่วนการถือหุ้นภายใต้โมเดล PPP ทางสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (DTI) จะเป็นแกนหลักถือหุ้น 10-15% ที่เหลือเป็นภาคเอกชน เพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.เทคโนโลยีป้องกันประเทศ พ.ศ. 2562 ที่กำหนดให้ DTI สามารถเป็นผู้ประกอบการได้ และหากมีโครงการร่วมทุนระหว่างไทยและต่างชาติ ภาครัฐจะเข้าไปถือหุ้นบางส่วน

เล็งทำ Market Sounding

การผลักดันโครงการหลังจากนี้ ภายในปลายเดือนมิถุนายน 2563 เตรียมจัดทำ market sounding เชิญผู้ประกอบการในวงการอุตสาหกรรมป้องกันประเทศมาหารือ รับฟังข้อเสนอแนะ ข้อคิดเห็น และสำรวจความสนใจในการเข้ามาลงทุนตั้งโรงงาน ในโอกาสนี้ตัวแทน DTI จะได้นำเสนอผลศึกษาการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการลงทุนตั้งโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมปกติทั่วไป เพราะสินค้ายุทโธปกรณ์มี พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์กำกับดูแลเพิ่มเติมจากสินค้าปกติ การลงทุนในนิคมอุตฯเฉพาะทางจึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากกว่า

“ผลการศึกษาจะแล้วเสร็จภายใน 2 เดือน หรือภายในสิงหาคม 2563 นี้ ถ้าเป็นผลดีและสามารถทำได้ก็จะรายงานตามขั้นตอนให้กับปลัดกระทรวงกลาโหม นำเรียนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมพิจารณาต่อไป การคัดเลือกพื้นที่เป็นสัญญาณเริ่มต้นนับ 1 แล้ว จากนั้นทาง กนอ. จะเป็นผู้จัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ตามแผนคาดว่าใช้เวลาก่อสร้างโครงการ 2-3 ปี”

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...