โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

รถจีนมาแรง… แซงหมดไม่สนชาติไหน

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 08 ก.พ. 2567 เวลา 03.10 น. • เผยแพร่ 08 ก.พ. 2567 เวลา 01.02 น.

คอลัมน์ : นอกรอบ ผู้เขียน : ชนาภา มานะเพ็ญศิริ Bnomics ธนาคารกรุงเทพ

ตอนนี้กระแสรถจีนกำลังมาแรงมาก อย่างในประเทศไทยเองก็เริ่มได้ยินแบรนด์รถยนต์จีนใหม่ ๆ ที่ไม่คุ้นหู แต่ดึงดูดด้วยรูปลักษณ์ทันสมัย และเต็มไปด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ จะเห็นได้ว่าผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนกำลังรุกผู้ผลิตรถยนต์อื่น ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่เว้นรถยนต์สัญชาติอเมริกัน แม้ว่าจีนจะไม่ได้เข้าไปขายรถยนต์ในสหรัฐโดยตรงก็ตาม

ยอดขายรถยนต์แบรนด์จีนพุ่งขึ้นเป็นที่น่าจับตามองในแถบเอเชียยุโรป และประเทศอื่น ๆ นอกทวีป ล่าสุดจีนได้เปิดเผยรายงานตัวเลขการส่งออกว่ามีการส่งออกรถยนต์ถึง 5 ล้านคัน ในปี 2023 แซงหน้าญี่ปุ่นจนกลายเป็นประเทศส่งออกรถยนต์อันดับต้น ๆ ของโลก

ปริมาณการขายรถยนต์ของบริษัทที่มีชื่อเสียงและรัฐบาลเป็นเจ้าของ เช่น SAIC และ Dongfeng และผู้เล่นหน้าใหม่อย่าง BYD, Nio และแบรนด์อื่น ๆ ได้ผลักจีนจากอันดับที่ 6 ขึ้นสู่อันดับต้น ๆ ตั้งแต่ปี 2020 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่การส่งออกรถยนต์ของสหรัฐในบริษัทต่าง ๆ ลดลง เช่น บริษัท General Motors ที่ลดการผลิตในต่างประเทศพอดี

จากข้อมูลล่าสุดที่พบว่าการส่งออกรถยนต์ของสหรัฐลดลงไป 25% จากจุดสูงสุดในปี 2016

นั่นจึงทำให้เมื่อปี 2023 ที่ผ่านมา สหรัฐประเทศผู้ส่งออกรถยนต์อันดับ 4 ของโลกในช่วงก่อนปี 2020 หล่นลงไปอยู่อันดับ 6 ตามหลังเม็กซิโกที่อยู่อันดับ 5, เกาหลีใต้อยู่อันดับ 4 และเยอรมนีอยู่อันดับ 3 เห็นได้ชัดว่าตอนนี้คู่แข่งอันดับ 1 ของใคร ๆ ก็คงหนีไม่พ้นแบรนด์รถยนต์จากจีน

ผู้ผลิตรถยนต์จากจีนได้สร้างมาตรฐานใหม่สำหรับการผลิตและการตั้งราคา ในขณะนี้หลายแบรนด์กำลังเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ และหลาย ๆ ค่ายกำลังผลิตรถ EV ที่มีประสิทธิภาพและทำกำไรได้ ซึ่งกำลังเป็นตัวเปลี่ยนเกมอุตสาหกรรมยานยนต์

การเข้ามาของ BYD รถยนต์สัญชาติจีนที่กำลังมาแรง

ผู้เชี่ยวชาญทางด้านรถยนต์มองว่า BYD เป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนที่กำลังมาแรง โดยเป็นบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลปักกิ่ง โดยเมื่อปลายปีที่แล้วก็แซง Tesla ขึ้นมาเป็นผู้จำหน่ายรถ EV อันดับ 1

แม้แต่Elon Musk ที่มีโรงงานขนาดใหญ่อยู่ที่จีน ยังบอกว่าผู้ผลิตรถยนต์จีนเป็นคู่แข่งรายใหญ่ที่สุดของ Tesla

BYD ได้เข้ามาตีตลาดรถ EV ราคาถูก เช่น BYD Seagull รถ EV ขนาดเล็กที่ราคาเริ่มต้นประมาณ 11,400 ดอลลาร์สหรัฐ และถึงแม้จะคิดอัตราภาษีนำเข้าสหรัฐที่ 27.5% ก็ยังมีราคาอยู่ในช่วงต่ำกว่า 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ

ยอดการส่งออกรถยนต์ไปยังตลาดนอกประเทศจีนของ BYD คิดเป็น 10% ของยอดขายรวมปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่กว่า 3 ล้านคัน เพิ่มขึ้นกว่าช่วงต้นปีถึงเท่าตัว

ข้อได้เปรียบของ BYD ก็คือ มีโครงสร้างต้นทุนที่ไม่มีใครเทียบได้ และยังมีความสามารถด้านนวัตกรรม

แม้จะมีแรงกดดันด้านราคาที่เพิ่มขึ้นในประเทศจีน แต่การที่บริษัทมุ่งเน้นไปยังกลุ่มลูกค้าต่างประเทศ และกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมี่ยมขึ้น ก็จะช่วยให้รายได้เติบโตได้ที่ 29% จนถึงปี 2025

อีกทั้ง BYD ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลในช่วงระหว่างปี 2015-2020 ประมาณการว่าสูงถึง 4.3 พันล้านบาท นอกจากนี้ รัฐบาลปักกิ่งยังให้เงินอุดหนุนเพื่อกระตุ้นแรงจูงใจให้คนซื้อรถ EV อีกด้วย

การเติบโตไม่เพียงแต่อยู่แค่ในจีนเท่านั้น แต่ยังขยายไปถึงเม็กซิโก ยุโรป และอื่น ๆ ด้วยความที่ราคาถูก

มองย้อนกลับไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน ส่วนแบ่งตลาดของรถยนต์สัญชาติจีนยังอยู่ที่เพียง 26% เท่านั้น แต่ในปี 2022 ก้าวกระโดดไปอยู่ที่ 50% และคาดว่าจะสูงถึง 2 ใน 3 เมื่อสิ้นทศวรรษ

ยอดขายของรถจีนคิดเป็น 8% ของยอดขายรถ EV ในยุโรป เมื่อเดือนกันยายนปีก่อน และคาดว่าสัดส่วนนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 15% ในปี 2025

จีนถือว่าเป็นคู่แข่งคนสำคัญตลอดกาลของสหรัฐ

จีนกับสหรัฐเรียกได้ว่าเป็นสองขั้วอำนาจไม้เบื่อไม้เมาที่ขับเคี่ยวกันมาตลอดในทุกอุตสาหกรรม และในอุตสาหกรรมรถยนต์ก็เช่นกัน

เป็นเวลากว่าทศวรรษแล้วที่บริษัทรถยนต์จีนได้ประกาศจะเริ่มจำหน่ายรถยนต์ให้สหรัฐ ภายใต้แบรนด์ของตัวเอง แต่ก็ยังไม่เคยสำเร็จ

แต่จากความสามารถของรถยนต์จีนที่เข้าไปบุกตลาดทั่วโลกตอนนี้ คำตอบนี้อาจจะเปลี่ยนไปแล้วก็ได้

นอกเหนือจากเรื่องข้อกฎหมายและนโยบายคุ้มกันทางการค้า หลายคนก็เชื่อว่าผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนมีโอกาสจะประสบความสำเร็จในการขยายตลาดเข้าไปยังตลาดสหรัฐ เหมือนกับที่ Toyota ของญี่ปุ่น หรือ Hyundai ของเกาหลีใต้ทำสำเร็จ

เพราะทั้งสองแบรนด์เข้าตลาดสหรัฐด้วยรถยนต์ที่ราคาถูก เข้าถึงง่าย แล้วก็ค่อยขยายไปยังระดับบน ๆ ที่มีคุณภาพขึ้น และมีความปลอดภัยขึ้น ดังนั้น หากรถยนต์จีนดำเนินรอยตามแบบที่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เคยทำสำเร็จ ไม่แน่เราอาจได้เห็นรถยนต์จีนอยู่บนท้องถนนของสหรัฐมากขึ้นก็เป็นได้

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : รถจีนมาแรง… แซงหมดไม่สนชาติไหน

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...