ฮุนมาเนต ส่งข้อความถึงประชาชนก่อนประชุมสามฝ่าย ไทย-จีน-กัมพูชา แจงเหตุผลตกลงหยุดยิง ชี้ “ไม่มีอะไรได้เปรียบจากการยืดเยื้อต่อสู้”
ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งข้อความถึงประชาชนผ่าน Facebook โดยยืนยันเจตนารมย์ของรัฐบาลกัมพูชาในการยืนหยัดแก้ไขปัญหาอย่างสันติ พร้อมชี้แจงเหตุผลในการตัดสินใจดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิง ว่า “ไม่ได้หมายความว่ากัมพูชายอมแพ้หรือไร้ความสามารถในการป้องกันตนเอง” แต่ “ในทางตรงกันข้าม การตัดสินใจนี้แสดงให้เห็นว่ากัมพูชาได้ตัดสินใจที่จะให้เส้นทางแห่งสันติภาพและการรับประกันชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนเป็นหนึ่งในลำดับความสำคัญสูงสุด”
“ถึงแม้ว่าเราจะยังคงต่อสู้ต่อไปได้ แต่ในฐานะประเทศเล็กๆ เราก็ไม่มีอะไรได้เปรียบจากการยืดเยื้อการต่อสู้ในระยะยาวนี้ ขณะนี้ ผู้อพยพกว่าครึ่งล้านคนกำลังรอคอยวันที่พวกเขาจะได้กลับบ้าน เด็กหลายพันคนกำลังรอคอยวันที่พวกเขาจะได้กลับไปโรงเรียน และครอบครัวทหารและตำรวจอีกหลายพันครอบครัวก็กำลังรอคอยพ่อ สามี ลูก ลุง ป้า พี่ น้อง หรือญาติของพวกเขาจากสมรภูมิรบ ดังนั้น ในขณะที่ความเป็นไปได้ในการหาทางออกอย่างสันติให้กับวิกฤตชายแดนยังคงมีอยู่ รัฐบาลจึงตัดสินใจที่จะใช้การเจรจาเพื่อยุติการสู้รบก่อนที่จะบานปลายไปมากกว่านี้ เพื่อลดความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานของเพื่อนร่วมชาติ และเพื่อหยุดยั้งการฆ่าและการบาดเจ็บของเพื่อนทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้กล้าหาญ รวมถึงพลเรือนผู้บริสุทธิ์” ฮุน มาเนต ระบุ และอ้างว่ามีพลเรือนกัมพูชาเสียชีวิตจากการสู้รบจำนวน 32 คน และบาดเจ็บ 93 คน
ทั้งนี้ เขาเน้นย้ำว่า การคงกำลังทหารไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสม ณ เวลาที่เริ่มดำเนินการหยุดยิงนั้น ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชา และยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับการกำหนดเขตแดนระหว่างสองประเทศ ซึ่งรัฐบาลกัมพูชาได้ระบุไว้อย่างชัดเจนใน แถลงการณ์ร่วมของการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สมัยพิเศษ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม
“แถลงการณ์ร่วมของที่ประชุม GBC ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า พรมแดนระหว่างประเทศระหว่างกัมพูชาและไทยยังคงกำหนดโดยสนธิสัญญาและอนุสัญญาที่มีอยู่ และกัมพูชายังคงมีสิทธิอย่างเต็มที่ในการแก้ไขปัญหาพรมแดนนี้กับฝ่ายไทยตามกฎหมายระหว่างประเทศ สนธิสัญญา อนุสัญญา และกลไกทวิภาคีทั้งหมดที่มีอยู่” เขาระบุ และชี้ว่า ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะมอบหมายให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Commission : JBC) ดำเนินการวัดและควบคุมเขตแดนอีกครั้งโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ตามข้อตกลงที่มีอยู่ระหว่างกัน
นอกจากนี้ ผู้นำกัมพูชาระบุว่า หลังจากที่การหยุดยิงได้ดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบเป็นเวลา 72 ชั่วโมงแล้ว ทหารกัมพูชา 18 นาย ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของทางการไทย จะได้รับการปล่อยตัวกลับไปยังกัมพูชา
พร้อมกันนี้ยังแสดงความขอบคุณไปยังสหรัฐฯ จีน และประเทศสมาชิกอาเซียนภายใต้การประสานงานของมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน ซึ่งได้ให้การสนับสนุนและมีส่วนร่วมในกระบวนการนี้มาตั้งแต่เริ่มเตรียมการหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม จนถึงปัจจุบัน