โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ส่องนโยบาย 3 พรรค “ส้ม-น้ำเงิน-แดง” ใครเจ๋งสุด?

INN News

อัพเดต 27 ธันวาคม 2568 เวลา 18.38 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • INN News

ศึกเลือกตั้ง 69 คึกคัก! 3 พรรคใหญ่ชูนโยบาย "ประชาชน-ภูมิใจไทย-เพื่อไทย" ใครเจ๋งกว่ากัน

นโยบายของ 3 พรรคการเมือง ที่เป็นเหมือ 3 ก๊ก ในศึกเลือกตั้ง 69 พรรคประชาชน ประกาศจะแก้ปัญหา โครงสร้างเศรษฐกิจระยะยาว ส่วนพรรคภูมิใจไทย ชูแก้ภัยเศรษฐกิจปากท้อง มี 3 ระยะ ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ส่วนเพื่อไทย ยังยึด "ดีเอ็นเอ" เดิม เน้นไปที่แก้การหาเสียงกับกลุ่มคนรากหญ้า ออกแนวประชานิยม เพียงแต่ "ปรับโฉมใหม่" มาเล็กน้อยตามยุคตามสมั แต่ข้อจำกัด ของแต่ละพรรค คือถูกสังคม เริ่มจับตามากขึ้น ว่า "ทำได้จริงหรือไม่" และ คาดว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะเข้มงวดต่อ การประกาศนโยบายของพรรคการเมืองมากขึ้น เริ่มกันที่นโยบาย "สีส้ม" พรรคประชาชน ของณัฐพงษื เรืองปัญญาวุฒิ ยังคงหาเสียงด้วยกลยุทธ์เดิม เน้นที่จุดแข็งชู "ปฏิรูป"และเปลี่ยนโครงสร้างประเทศ โดยชูนโยบายการแก้ไขจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ เป็นโจทย์หลัก แก้ไขกติกา รัฐธรรมนูญ ให้ยึดโยงกับประชาชนมากขึ้น ตามด้วยต่อสู้กับทุนสีเทา ตามสโลแกน สร้างประเทศไทยไม่มีสีเทา ประเทศไทยที่เท่าเทียม เท่าทันโลก โดยเน้นการบริหารทำให้รัฐโปร่งใสมีประสิทธิภาพ และมีส่วนร่วมจากประชาชน ส่วนการแก้ไขโครงสร้างที่เป็นหัวใจสำคัญในการ แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ได้เสนอให้การปฏิรูปที่ดิน เพื่อสร้างโอกาสสร้างตัวเลือกให้กับเกษตรกร ต่อด้วยชุดนโยบายสวัสดิการ ต้องดูแลคนตั้งแต่เกิดจนเกษียณได้ กระจายอำนาจ ปฏิรูปอำนาจรัฐ ให้ท้องถิ่นเพื่อแก้ไขปัญหา และต้องแก้ปัญหาวัยเรียนหลุดออกนอกระบบการศึกษา ดูแลวัยแรงงานในมิติต่าง ส่วนการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ประชาชนเสนอนโยบาย การลงทุนครั้งใหญ่เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย ขอใช้งบ 6.3 แสนล้านบาทใน 8 ปี เพื่อจัดการน้ำเสีย 6 หมื่นล้านบาท,น้ำประปาดื่มได้ 7.5 หมื่นล้านบาท,ขนส่งสาธารณะ 3.7 หมื่นล้านบาท, การจัดการขยะ 1.83 แสนล้านบาท,โรงเรียน 5 หมื่นล้านบาท,โรงพยาบาล 3 หมื่นล้านบาท และโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ 1.92 แสนล้านบาท ถัดมาที่พรรคน้ำเงิน ภูมิใจไทย ที่มาพร้อมกับสโลแกน "พูดแล้วทำพลัส" ซึ่งกำลังโดดเด่นกับกระแสชาตินิยม โดยเฉพาะประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา โดยภูมิใจไทย ประกาศท่าทีชัดเจนว่าให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาด้านความมั่นคง ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาอธิปไตยและสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศในภูมิภาค ด้วยโครงการทหารอาสา โดยเปลี่ยนจากคำว่าทหารเกณฑ์ เป็นทหารอาสา สร้างรั้วชายแดน ส่วนเรื่องเศรษฐกิจ เน้นผลลัพธ์ที่จับต้องได้จริง แบบที่เคยทำก่อนยุบสภา เช่นคนละครึ่งพลัส รวมถึงเสนอของใหม่ "เศรษฐกิจ 10 พลัส" ประกอบด้วย คนตัวเล็กตัวน้อย พลัส: แก้เศรษฐกิจปากท้อง ด้วยการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย เพิ่มเงินออม ลดภาระหนี้,ผู้สูงวัย พลัส:การเสริมทักษะ เพื่อให้มีงาน มีเงิน มีคนดูแล,ชุมชน พลัส: การเน้นให้ชุมชนผลิตสินค้าที่ตรงกับความต้องการกับตลาด การศึกษาเท่าเทียม พลัส:การเรียนฟรี เรียนทุกที่ทุกเวลาได้,เมดอินไทยแลนด์ SMEs พลัส: เสริมสภาพคล่องและลดต้นทุน ยกระดับ SMEs ของไทย,ลงทุน พลัส: รัฐเพิ่มการลงทุนเป็น 30% ของจีดีพี ภายใน 4 ปี, เศรษฐกิจสีเขียว พลัส: คือการผลิตสินค้ารักษ์โลก เพิ่มมูลค่าสินค้า,เอไอ พลัส: เพิ่มทักษะเอไอ เพื่อเพิ่มรายได้ในการทำงาน,เทรด พลัส: ยึดตลาดโลกด้วยพันธมิตรการค้า และไทยแลนด์ พลัส: รัฐบาลทำงานไว อนุมัติไว ส่วนพรรคเพื่อไทย เจ้าของตำนานประชานิยม มาพร้อมกับสโลแกน "เพื่อไทยทำได้" ที่มุ่งแก้ปัญหาเชิง โครงสร้างเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะเรื่องรายได้ ความเหลื่อมล้ำ และหนี้สินของประชาชน ใช้เหตุผลทางวิทยาศาสตร์ และความเป็นไปได้เป็นหลักในการส่งนโยบายสู่การปฏิบัติจริง เริ่มจากประกัน กำไรพืชผลการเกษตร 30% ข้าว, ยางพาราง, ข้าวโพด, มันสำปะหลัง, พักหนี้เกษตรกร ต้นและดอก 3 ปี ไม่เกิน 500,000 บาท ,ล้างหนี้ประชาชนหนี้เสียต่ำกว่า 2 แสนบาท จ่าย 10% ปิดจบล้างหนี้, ล้างหนี้นอกระบบ ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อปิดหนี้นอกระบบรายละ 50,000 บาท, ล้างหนี้วัยเกษียณ อายุ 60 ปีขึ้นไป ล้างหนี้เสียต่ำกว่า 1 แสนบาทสำหรับแบงก์รัฐ, ผ่อนดี 1 ปี ฟรี 1 งวด ไม่เกิน 5,000 บาทสำหรับแบงก์ รัฐยอดหนี้ไม่เกิน 1 แสนบาท,หวยเกษียณ และ บ้านเพื่อคนไทย นอกจากนี้ จะฟื้นนโยบาย "รถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย หากจัดตั้งรัฐบาลภายใน 3 เดือน ประชาชนจะได้ใช้รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายทันที รวมถึง นโยบาย "บ้านเพื่อคนไทย"ให้คนไทยมีบ้านใกล้ระบบคมนาคมและสามารถจ่ายไหว ส่วนโครงการแจกเงิน รัฐสวัสดิการรายครัวเรือน ก็จะเอากลับมาปรับใหม่ ตลอดจนต่อยอดโครงการ 30 บาท รักษาทุกโรคด้วย ทั้งหมดนี้คือนโนยบายกว้าง ของ 3พรรค 3 ก๊ก ที่ถูกจับตาว่าจะเข้าวิน เป็นอันดับ 1-2 และ 3 ตามลำดับ ส่วนพรรคไหน จะเป็นผู้ชนะ ประสบความสำเร็จ ในการจัดตั้งรัฐบาล คำตอบจะรู้กัน หลังจากประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ดังนั้น ต้นทางของคำตอบ คือประชาชน ต้องการนโยบายไหน ต้องการ ใครเป็นรัฐบาล ประชาชน คือผู้กำหนด และหวังว่า นักการเมือง พรรคการเมือง จะน้อมรับในการตัดสินใจของประชาชน ไม่หักหลัง ไม่แอบทำดีลลับ บิดเบือนความต้องการของประชาชนอีก

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...