(จบแล้ว) ชุนเฟยฮวาเป็นนางร้ายมิใช่หรือ
ข้อมูลเบื้องต้น
เฟยฮวาเติบโตมาจนอายุสิบเจ็ด ใบหน้างดงามถอดแบบมาจากมารดาวาดยิ้มไปตลอดทางยามที่มีชาวบ้านเข้ามาทักทาย ทักทายคุณหนูจวนชุนผู้มีจิตใจดีคอยช่วยเหลือซื้อของจากชาวบ้านยากจนอยู่ตลอด
หากแต่ในสายตาของคนผู้หนึ่งที่มองจากชั้นสองของโรงน้ำชากลับเต็มไปด้วยความเกลียดชังอยู่เต็มอก เพราะนางมาจากโลกอีกใบ และโลกใบนี้คือนิยายที่นางเพิ่งอ่านจบ
ความว่า เฟยฮวาคือแม่ดอกบัวขาวที่ซุกซ่อนภัยอันตรายเอาไว้มากมาย แต่งเข้ามาเป็นพระชายาเอกขององค์ชายรองแม้นางจะเป็นบุตรอนุ เดิมสัญญาหมั้นหมายเป็นของพี่สาว ทว่าพี่สาวหลับนอนกับพ่อค้า เฟยฮวาจึงได้หมั้นหมายกับองค์ชายรองแทน
สุดท้ายนางร้ายผู้นี้ก็ได้เข้าไปอยู่ในวังเป็นชายาเอกสมใจ คอยกลั่นแกล้งนางเอกของนิยายเรื่องนี้ที่เป็นชายารองนั่นก็คือนาง เซียวเกาถิง บุตรสาวคนโตของตระกูลเซียว ขุนนางขั้นสี่ ที่จะแต่งเข้าไปในอีกหนึ่งปีต่อจากนั้น
เกาถิงเข้ามาอยู่ในนิยายเรื่องนี้ก่อนที่เฟยฮวาจะได้ขึ้นเกี้ยวเจ้าสาว ดังนั้นนางจะทำทุกวิถีนางเพื่อไม่ให้นางร้ายผู้นี้เข้าวังให้จนได้ ท้ายที่สุดเฟยฮวาก็พ่ายแพ้ ขบวนเจ้าสาวจึงได้เปลี่ยนทิศทางพานางไปยังต่างเมืองแทน ต่างเมืองที่มีคนผู้หนึ่งอยู่ที่นั่น จวิ้นอ๋องที่ดูแลเมืองทุรกันดารแถบชายแดน
โดยไม่รู้เลยว่าเฟยฮวาในยามนี้ถูกท่านน้าเฟิ่งเจี๋ยขัดเกลาจนไม่มีสิ่งใดเหมือนกับนิยายเลย
“อันเอ๋อร์ เจ้าเข้ามาในห้องหอพี่สาวได้อย่างไร” เฟยฮวาสะดุ้งโหยงเมื่อเห็นน้องสาวมุดออกมาจากใต้เตียงหยิบหมั่นโถวในย่ามมากัดกินข้าง ๆ นางด้วยท่าทางหิวโหย
“ข้าได้ยินข่าวมาว่าท่านพี่เขยเป็นคนใจมาร หากมิชมชอบสตรีคนใดก็หยิบดาบเชือดคอตั้งแต่ในห้องหอ เจียเจี่ยอย่าห่วงข้าเลยเจ้าค่ะ หานเกอสอนวิธีมุดเตียงให้ข้าจนชำนาญแล้ว”
หนิงอันเอ่ยออกมาด้วยความมุ่งมั่นหยิบหมั่นโถวลูกที่สองมากัด หมั่นโถวก็เป็นหมั่นโถวที่นางไปแอบขโมยมาจากในครัว หานเกอบอกว่าต้องตุนเสบียงเอาไว้ให้มากเพราะเราไม่รู้ว่าจะได้ใช้ชีวิตอยู่ใต้เตียงนานเท่าใด ในย่ามจึงมีแต่ของกินด้วยประการฉะนี้
เฟยฮวามองน้องสาวคนเล็กด้วยใบหน้าโง่งม ใบหน้าเดี๋ยวซีดเดี๋ยวปกติ แล้วหนิงอันตามมาถึงที่นี่ด้วยวิธีการใดกัน ไหนจะการที่นางเอ่ยเรื่องลอบปลงพระชนม์เชื้อพระวงศ์ออกมาอย่างหน้าตาเฉยนั่นอีก ใครก็ได้ เอาน้องสาวข้าไปส่งเมืองหลวงที!
เขียน : KATEROSE
ภาพ : Anron47
ปกติจะลงนิยายทุกวัน แต่ช่างนี้ไรท์ป่วยบ่อย ถ้าหายก็จะหายสักสองสามวันแล้วกลับมาต่อเหมือนเดิมค่ะ อยู่จนจบแน่นอนไม่ทิ้งค่ะ ไรท์อดนอนบ่อย ตอนนี้เวลานอนน้อยจะผื่นขึ้นตามตัวแล้วคันมากค่ะ
บทนำ
รุ่งเช้าในวันหนึ่งจวนตระกูลชุนวุ่นวายเล็กน้อย สามวันก่อนเกิดเรื่องขึ้นกับคุณหนูใหญ่ตระกูลชุนนามชุนเยว่เล่อ นางหลับนอนกับบุรุษผู้หนึ่ง เรื่องน่าอายแพร่ไปทั่วเมืองหลวงในเวลาไม่นาน
อนุหลี่เป็นลมล้มพับตื่นมาก็เอาแต่โวยวายคับจวนจนต้องจับไปขังเอาไว้ กระทั่งฮูหยินผู้เฒ่าเองก็ล้มป่วย ยามนี้ผู้นำตระกูลอย่างแม่ทัพใหญ่รวมถึงคุณชายใหญ่ยังอยู่ที่ชายแดน เหลือเพียงฮูหยินเอกจัดการ
เดิมทีชุนเยว่เล่อเป็นเพียงบุตรอนุย่อมไม่ใช่เรื่องใหญ่ ตระกูลชุนอาจถูกนินทาอยู่สักเดือนเรื่องก็ซาแล้ว ปัญหาอยู่ที่นางมีสัญญาหมั้นหมายกับองค์ชายรอง และผู้มอบสัญญานี้คือฝ่าบาท
ความว่า ให้แต่งบุตรสาวตระกูลชุนเป็นพระชายาเอกแม้บุตรผู้นั้นจะเกิดจากอนุก็ตาม ยามนี้กลับหยามเกียรติองค์ชายด้วยการหลับนอนกับบุรุษธรรมดาอาชีพพ่อค้า เห็นว่าฮองเฮาทรงเรียกฮูหยินผู้เฒ่าชุนและฮูหยินเอกเข้าเฝ้า กล่าวตำหนิอยู่หลายคำเชียว
ยังดีที่องค์ชายรองไม่กล่าวโทษพร้อมหาทางออกให้ว่าเดิมฝ่าบาทกล่าวเพียงว่าให้บุตรสาวตระกูลชุนที่พ้นวัยปักปิ่นแล้วหมั้นหมายกับตน คุณหนูใหญ่เกิดก่อนจึงได้รับเลือก ยามนี้นางมีคนรักแล้วยังเหลือคนอื่นในจวนมิใช่หรือ บุตรชายช่วยกล่าวความโกรธของผู้เป็นใหญ่จึงทุเลาลงได้มาก
ตระกูลชุนจึงพ้นเคราะห์ใหญ่มาได้อย่างหวุดหวิดด้วยประการฉะนี้ หลังจากนี้ก็ต้องเตรียมข้าวของให้คุณหนูใหญ่ออกเดินทางไปกับสามีของนาง
แหล่งการค้าในเมืองหลวงมากด้วยผู้คนจากทุกสารทิศ ยามซื่อ (09:00-10:59) ในโรงน้ำชามีชาวบ้านที่นั่งพูดคุยกันอยู่ชั้นล่างสุด พวกเขากำลังมองคุณหนูเฟยฮวาบุตรสาวคนรองของแม่ทัพใหญ่ลงจากรถม้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเพราะแม่ค้าร้านใกล้ ๆ กล่าวทักทายนาง
ชุดสีฟ้าเรียบ ๆ ปลิวไหวไปกับสายลมยิ่งขับให้นางงดงาม แม้เป็นบุตรอนุแต่เพียบพร้อมไปเสียทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นหน้าตาและกิริยา ความสามารถและความรู้ น่าเสียดายที่คนเราเลือกมารดาไม่ได้ งานบางงานจำกัดเอาไว้ให้เพียงบุตรฮูหยินเอกเข้าร่วม นางเป็นบุตรอนุจึงไม่ค่อยได้แสดงความสามารถเท่าใดนัก
ในจวนถูกเลี้ยงอย่างเท่าเทียม แต่ที่อื่นหาได้เท่าเทียมไม่
“นี่ เจ้าได้ยินข่าวหรือไม่ คุณหนูใหญ่ชุนเยว่เล่อที่เกิดจากอนุหลี่มีข่าวเสียหายกับพ่อค้าผู้หนึ่ง พรุ่งนี้ต้องตบแต่งออกไปแล้ว ยังดีที่นอกจากองค์ชายรองจะไม่ถือโทษยังเติมสินเดิมให้นางหลายสิบหีบ หากเป็นคนอื่นตระกูลชุนคงเกิดเคราะห์ใหญ่”
รอจนคุณหนูรองผ่านโรงน้ำชาไปชาวบ้านก็ขยับเข้าหากันซุบซิบเรื่องพี่สาวคนโตของนาง ก่อนหน้านั้นชาวเมืองต่างริษยาบุตรสาวอนุในจวนนี้ แม้เป็นอนุยังถูกยกไว้เทียมตำแหน่งบุตรฮูหยิน กระทั่งฝ่าบาทยังไม่ถือสาให้หมั้นหมายกับองค์ชายรองแทนการเลือกบุตรฮูหยินจากตระกูลอื่นทั่วเมืองหลวง
ทว่าคุณหนูใหญ่เยว่เล่อกลับไม่รักดีไปคว้าพ่อค้ามาร่วมหลับนอนเสียได้ หากข้าเป็นมารดาจะจับนางมัดกับเสาแล้วตีให้ตายไปเสีย มีวาสนาไม่รู้จักรับไว้ สมกับเป็นบุตรอนุไม่ได้รับการอบรมเช่นบุตรฮูหยินเอก
“เป็นบุตรอนุแต่งกับองค์ชายก็นับว่ามีวาสนาแล้ว นางยังทำเรื่องเช่นนี้อีกหรือ หยามเกียรติเกินไปแล้ว”
“เจ้าไม่คิดว่านางจะถูกกลั่นแกล้งหรือ” มีคนผู้หนึ่งแทรกขึ้นมาราวกับเรือขวางสายน้ำเชี่ยวอย่างไม่กลัว ชาวบ้านหันมองรีบส่ายหน้าไม่แม้แต่จะฉุกคิดให้เสียเวลา
“ผู้ใดจะกลั่นแกล้งนาง แล้วทำเพื่ออันใด อยากหมั้นหมายกับองค์ชายรองที่พิการแทนนางหรือ บอกว่านางทำเองเพราะไม่อยากแต่งกับคนตาบอดยังดูเป็นจริงมากกว่าอีก”
คำพูดนี้ต้องกระซิบกระซาบจนแทบไม่ได้ยิน พูดถึงคนธรรมดาเสียงดังได้ แต่หากพูดถึงเชื้อพระวงศ์ต้องระวังหน้าหลังให้ดีไม่เช่นนั้นหัวอาจหลุดจากบ่าโดยไม่รู้ตัว
ทุกคนได้ยินก็ยังพยักหน้าตามกระทั่งบัณฑิตหนุ่มที่นั่งจิบชาอยู่ใกล้ ๆ นี้ยังวิเคราะห์ได้เช่นท่านป้า ผู้ใดจะกลั่นแกล้งนางกันเล่า หากเป็นองค์ชายองค์อื่นยังพอลังเลว่าคนในจวนอาจจะอยากชิงลูกท้อทองคำของนาง
แต่นี่คือองค์ชายพิการ องค์ชายรองที่ตาบอดไม่รู้ชีวิตนี้จะกลับมามองเห็นได้หรือไม่ ราวกับคนที่ร่วมแข่งม้ากับรัชทายาทตีคู่สูสีมาตลอดจนจะถึงเส้นชัยอยู่ดี ๆ ม้าก็ล้มคว่ำไปเสียก่อน โอกาสในอนาคตหายวับไปกับตาอย่างน่าเสียดาย บางตระกูลที่สนับสนุนองค์ชายถึงกับออกไปตามหาหมอเทวดาเองเพื่อพามารักษาคนที่ตนเองสนับสนุนด้วยความร้อนใจ
แล้วท่านป้าผู้นี้กลับบอกว่ามีคนกลั่นแกล้งคุณหนูใหญ่ น่าขันแล้ว ผู้คนจะทำไปเพื่ออันใดกัน ให้บอกว่ามีคนนอกลงมือเพื่อให้ตระกูลชุนดูหมิ่นเชื้อพระวงศ์เพื่อให้พวกเขาต้องโทษยังดูเข้าเค้ากว่า
“แล้วเช่นนี้ผู้ใดจะหมั้นหมายต่อ คุณหนูรองเฟยฮวาหรือ”
“หากเป็นนางก็ดี นางไม่ต่างจากบุตรฮูหยินเลย ฮูหยินตระกูลชุนเลี้ยงเด็กในจวนเท่าเทียมกันหมด ทว่าให้นางแต่งกับผู้อื่นไม่ดีกว่าหรือ” คำสุดท้ายต้องเสียงเบาอีกครั้ง พวกเราเพิ่งชื่นชมคุณหนูรองไป หากนางแต่งกับองค์ชายรองคงน่าเสียดายไม่น้อย
บทสนทนาด้านล่างมีสตรีผู้หนึ่งนั่งฟังอยู่ บนชั้นสองของโรงน้ำชาถูกจับจองโดยคุณหนูใหญ่เกาถิงแซ่เซียว บุตรสาวไต้เท้าเซียวขุนนางขั้นสี่ของแคว้นฝู ใบหน้าของนางแต่งแต้มด้วยเครื่องประทินโฉมบาง ๆ ชุดสีขาวบริสุทธิ์ขยับไหวยามผู้สวมใส่เอื้อมจับถ้วยชายกขึ้นจรดริมฝีปาก
ความจริงเกาถิงคือสตรีจากโลกอนาคตทะลุมิติเข้ามาในนิยาย อยู่ที่นี่ได้นับสองสัปดาห์แล้ว และนางคือคนที่รู้เรื่องของชุนเฟยฮวาสตรีแสนดีของชาวบ้านดีกว่าผู้ใดเสียอีก เพราะเฟยฮวาคือนางร้ายของนิยายเรื่องหนึ่งที่นางเคยอ่าน
ความว่า เฟยฮวาคือแม่ดอกบัวขาวที่ซุกซ่อนภัยอันตรายเอาไว้มากมาย แต่งเข้ามาเป็นพระชายาเอกขององค์ชายรองแม้นางจะเป็นบุตรอนุ เดิมสัญญาหมั้นหมายเป็นของพี่สาว ทว่าพี่สาวหลับนอนกับพ่อค้า เฟยฮวาจึงได้หมั้นหมายกับองค์ชายรองแทน
สุดท้ายนางร้ายผู้นี้ก็ได้เข้าไปอยู่ในวังเป็นชายาเอกสมใจ คอยกลั่นแกล้งนางเอกของนิยายเรื่องนี้ที่เป็นชายารองนั่นก็คือนาง เซียวเกาถิง บุตรสาวคนโตของตระกูลเซียว ขุนนางขั้นสี่ ที่จะแต่งเข้าไปในอีกหนึ่งปีต่อจากนั้น
ในนิยายบรรยายความโหดเหี้ยมไร้ความปราณีของสตรีผู้นี้เอาไว้มากมาย ถูกผู้คนก่นด่ากระทั่งเรื่องจบไปแล้วก็ยังทิ้งท้ายคำสาปแช่งขอให้ตัวละครเฟยฮวาตกตายไม่ได้ผุดได้เกิด เกาถิงก็ได้ร่วมด่าทอไปกับคนอื่น ๆ อยู่หลายประโยค ฝังความเกลียดชังเอาไว้เต็มอก
ผู้ใดจะคิดว่านางจะเข้ามาอยู่ในร่างของนางเอกนิยายเรื่องนี้เพราะมีชื่อเหมือนกัน คนที่จะต้องถูกนางร้ายกลั่นแกล้งในอีกหนึ่งปีข้างหน้านี้ ทว่ามีหรือนางจะยินยอม ยามนี้ราวกับมีตาเทพมองเห็นอนาคตได้ หากยังยอมให้ตนเองถูกรังแกก็โง่งมเต็มทีแล้ว
“คุณหนู องค์ชายรองมาแล้วเจ้าค่ะ” บ่าวข้างกายเข้ามารายงานไม่นานคนที่กำลังรออยู่ก็มาถึง ประตูห้องส่วนตัวถูกเปิดออก ปรากฏคนผู้หนึ่งเดินเข้ามาด้วยท่าทีเก้กังเพราะตาบอด องค์ชายรองถอดหมวกผ้าคลุมศีรษะ ตามองสตรีที่นั่งอยู่ราวกับมองเห็นนาง
ใช่แล้ว ก็อีกฝ่ายมิได้ตาบอดนี่ ยามนี้ยืนมองนางเต็มตาไม่หลบหลีกเสียด้วยซ้ำ แต่ดวงตาทั้งสองข้างเป็นสีขาวแทรกอยู่เหมือนคนตาบอดจริง ๆ ไม่รู้ว่าใช้สิ่งใดทำให้เป็นเช่นนั้น เซียวเกาถิงไม่คิดจะเปิดโปงในทันที นางจะเก็บเรื่องนี้ไว้ หากจวนตัวค่อยเอามาใช้
ร่างบางรีบลุกขึ้นทำความเคารพองค์ชายเต็มพิธีการ ด้านหลังของอีกฝ่ายมีองครักษ์ผู้ภัคดีคอยสะกิดอยู่ตลอด เมื่อนางย่อตัวลงองค์ชายรองก็ยิ้มรับรีบโบกมือ
“ไม่ต้องมากพิธี นั่งเถิด”
“ขอบพระทัยเพคะองค์ชาย” เซียวเกาถิงนั่งลงที่เดิมหลังบุรุษตรงหน้าถูกพยุงนั่งลงแล้ว ร่างบางทำทีลอบสำรวจใบหน้าของอีกฝ่ายราวกับไม่รู้ว่าสายตาคมกริบมองเห็นสิ่งที่นางกำลังทำ
พระเอกของเรื่องหล่อเหลาจริง ๆ ดูโตมากทั้งที่อายุยี่สิบชันษาเท่านั้น เทียบกับพระเอกซีรีย์จีนกำลังภายในยุคของนางได้เลยทั้งที่นิยายไม่มีภาพปกพระนางให้ดูด้วยซ้ำ
องค์ชายรองถูกบรรยายเอาไว้ว่าหล่อเหลาดั่งเทพเซียน ตัวสูงโปร่ง ไหล่กว้าง มีความสามารถทั้งบุ๋นและบู๊เพราะเสด็จอาของพระองค์พาไปชายแดนตั้งแต่เด็ก ไม่เช่นนั้นคนผู้นี้จะถูกลอบฆ่าจนเกือบตาบอดหรือ ก็ทำตัวเป็นคู่แข่งที่สูสีของรัชทายาทอย่างเปิดเผยเสียอย่างนั้น
“ที่พระองค์เสด็จมาที่นี่เพราะเชื่อหม่อมฉันแล้วใช่หรือไม่เพคะ” เสียงหวานไถ่ถามอย่างใจเย็น ฝูเฉิงไห่นิ่งไปครู่หนึ่ง เมื่อหลายวันก่อนมีคนฝากจดหมายมากับสายลับของเขาที่ส่งเข้าหอนางโลม นอกจากนางรู้ตัวสายลับของเขาแล้วยังรู้รหัสลับอีกด้วย
ในจดหมายของนางบอกว่านางรู้เห็นอนาคต และรู้ด้วยว่าหลังจากแต่งชุนเฟยฮวาเข้าตำหนักแล้วจะต้องเป็นตนเองแต่งเข้าไป ภายหน้าเขาได้เป็นฮ่องเต้ทว่าแตกคอกับตระกูลชุนของแม่ทัพใหญ่เพราะเฟยฮวาเป็นต้นเหตุ หากแต่งสตรีนางนั้นเข้าไปมีแต่ผลเสียมากกว่าได้ และนั่นคือแผนของฝ่าบาท
เรื่องเช่นนี้เขาย่อมไม่เชื่อ หากนางไม่ทิ้งท้ายไว้ว่าสามวันต่อจากนี้จะเกิดเรื่องกับชุนเยว่เล่อ นางจะแต่งกับพ่อค้า หลังจากนั้นฝ่าบาทจะให้เขาแต่งกับชุนเฟยฮวา ไม่พอนางยังสามารถชี้ตัวหนอนบ่อนไส้ที่เสด็จพ่อและฮองเฮาส่งเข้าตำหนักเขาได้ทั้งหมดสิบคน
“บางทีเจ้าอาจจะมีสายอยู่ในตระกูลชุน”
“หากหม่อมฉันทำได้เพียงนั้นคงส่งสายสืบเข้าวังหลวงแล้วคัดลอกความคิดของฝ่าบาทมาเล่าให้พระองค์ฟังแล้วว่าเหตุใดจึงให้บุตรชายแต่งกับบุตรอนุ และหากพระองค์คิดเช่นที่กล่าวก็คงไม่มาพบหม่อมฉันใช่หรือไม่เพคะ”
คุณหนูใหญ่เซียวกล่าวพลางยกป้านชาเทชาให้องค์ชายพิการที่นั่งนิ่งอยู่ตรงหน้า มือเรียวเลื่อนจอกชาสัมผัสมือหยาบกร้านที่ทำงานมาอย่างหนักเพื่อแข่งขันกับพี่ชายคนโตมาตลอด
“ขอบใจมาก” ร่างสูงจับจอกชายกขึ้นดื่มไร้ความหวาดระแวง เพราะในหัวกำลังคิดเรื่องมากมายที่ได้รับจากนางไม่กี่วันก่อน หากเป็นที่คุณหนูเซียวกล่าวจริง ๆ เขารู้สึกสงสารคุณหนูใหญ่เยว่เล่อไม่น้อย
ทันทีที่ได้ทราบเรื่องของนางก็ตรงไปที่ตำหนักฮองเฮาเพื่อช่วยพูดเรื่องนี้ให้นางพ้นผิด เติมสินเดิมให้นางหวังว่าภายหน้าจะมีความสุขกับชีวิตใหม่ ส่วนคุณหนูเฟยฮวานั้นย่อมต้องใช้เวลาตรวจสอบ เรื่องของนางเกรงว่าจะเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวก่อเกิดคลื่นพายุใหญ่ได้ ต้องคิดให้รอบคอบ
“เจ้าคิดเช่นไร”
“หม่อมฉันคิดว่าควรให้เฟยฮวาไปอยู่ที่ไกล ๆ เพคะ แต่ยังต้องเป็นคนของพระองค์อยู่” พูดพลางยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้คนตรงหน้า องครักษ์ข้างกายขององค์ชายรองรับไปอ่านก่อนจะกระซิบผู้เป็นนาย นี่คือชื่อสถานที่กบดานของโจรป่ากลุ่มใหญ่พร้อมแผนที่อย่างละเอียด
เฉิงไห่เสียกิริยาอย่างลืมตัวหันมองนาง นางรู้กระทั่งเรื่องที่เพิ่งเกิดเมื่อเช้า รู้ว่าเขาถูกเสด็จพ่อสั่งงานทั้งที่ตาบอดให้ออกไปปราบโจรเพื่อไม่ให้ผู้อื่นคิดว่าฝ่าบาททิ้งขว้างองค์ชายรองแล้ว เป็นความคิดที่น่าขันแต่เขาก็ยังตกลงรับมา
“หลังเสร็จงานนี้และหากเป็นอย่างที่คุณหนูกล่าวเปิ่นกงจะให้เจ้ามาเป็นหมอข้างกายอย่างที่ต้องการ”
“หม่อมฉันจะไม่ทำให้พระองค์ผิดหวังเพคะ” ร่างบางยิ้มรับคำพูดของบุรุษตรงหน้า เฉิงไห่ดวงตาวูบไหวครู่หนึ่งก่อนองครักษ์พยุงขึ้นยืน คลุมผ้าเสร็จทั้งสองก็ออกไปจากห้องผ่านเส้นทางลับของโรงน้ำชาไม่ให้ผู้อื่นเห็น
“เท่านี้ก็สำเร็จไปอีกขั้นแล้ว ง่ายดายเสียจริง” เซียวเกาถิงยิ้มพอใจหันมองออกไปนอกหน้าต่าง ด้านล่างนั้นเฟยฮวาเพิ่งกลับออกมาจากร้านตำรา ใบหน้าของนางยังยิ้มแย้ม เกาถิงมองพลางเบ้ปาก เพิ่งเข้าใจแม่ค้าในตลาดที่เกลียดนักแสดงนางร้ายจนโยนทุเรียนใส่ก็วันนี้
“ว่าแต่คุณหนูรู้ได้เช่นไรหรือเจ้าคะว่าคุณหนูใหญ่ชุนจะหลับนอนกับคนอื่นทั้งยังรู้ว่าคนผู้นั้นคือพ่อค้า หรือเรามีสายในตระกูลชุนเจ้าคะ” ทันทีที่คนออกไปแล้วบ่าวข้างกายก็รีบเข้ามาถามคุณหนูด้วยความใคร่รู้
“หากข้าส่งคนเข้าตระกูลชุนได้คงเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อ”
“จริงด้วยเจ้าค่ะ ว่าแล้วก็สงสารองค์ชายรอง ผู้ใดบ้างไม่รู้ว่าฝ่าบาทให้แต่งกับบุตรอนุเพราะอยากหยามเกียรติบุตรชายตนเอง ในจวนมีบุตรฮูหยินเอกอยู่เหตุใดไม่จับนางมาหมั้นหมาย”
เกาถิงมิได้ตอบ มือขาวเนียนโคลงถ้วยชาไปมายิ้มมุมปากกับคำพูดของบ่าวข้างกาย ผู้ใดเล่าจะดูไม่ออก ยิ่งนางที่ได้อ่านนิยายมาจนจบยิ่งรู้ทุกอย่างที่ฝ่าบาทหน้าเหม็นผู้นั้นกำลังทำอยู่ แต่ดูออกแล้วอย่างไร กระทั่งขุนนางยังไม่กล้าพูดว่าฝ่าบาทกำลังทำสิ่งใดอยู่
อีกฝ่ายดูเหมือนจะมีเรื่องบาดหมางกับญาติที่เป็นอ๋อง ตนเองขึ้นเป็นฮ่องเต้ส่งลูกพี่ลูกน้องไปเมืองแร้นแค้น บุตรชายแท้ ๆ ของตนเองผู้นี้เพียงเพราะมารดามาจากตระกูลเดียวกับมารดาของจวิ้นอ๋องแม้จะเป็นสายเลือดห่าง ๆ ก็ไม่ได้ลดความเกลียดชังลงเลย
คงได้ยินคำว่า มีสายเลือดตระกูลเฉียนราวกับมีคำว่าไร้พ่ายตามมาเกิดด้วย แล้วรับไม่ได้กระมัง แม้คนผู้นั้นจะเป็นบุตรชายและแข่งกับรัชทายาทมิใช่ตนเอง เมื่อก่อนคงถูกน้องชายอ๋องกดหัวเอาไว้จนเกิดอาการหลอน เกาถิงก่นด่าอยู่ในใจอย่างไม่กลัว
ยามนี้องค์ชายรองตาบอดก็ยังจับเขาหมั้นหมายกับบุตรอนุตระกูลใหญ่ให้ยกขึ้นเป็นชายาเอกทั้งที่ในจวนมีคุณหนูเล็กที่เกิดจากอดีตฮูหยินอยู่ แล้วให้นางจากตระกูลเซียวที่เป็นบุตรฮูหยินแต่งเป็นชายารองเสียอย่างนั้น
ตระกูลชุนเป็นตระกูลขุนนางขั้นสอง บิดานางเป็นขุนนางขั้นสี่ ให้อนุตระกูลแม่ทัพดูแลบ้านและให้บุตรสาวภรรยาเอกเช่นนางเดินตามเพียงเพราะตำแหน่งบิดาต่ำกว่า มองอย่างไรก็มิใช่ความหวังดี มีหรือจะไม่เกิดปัญหาขึ้นในภายหน้า
โดยเฉพาะครอบครัวของนาง ในนิยายบรรยายว่าตระกูลเซียวโกรธเกรี้ยวราวกับถูกตบหน้า บุตรสาวเกิดจากฮูหยินยังต่ำกว่าบุตรอนุจวนแม่ทัพ ทั้งนางเข้าตำหนักไปยังถูกเฟยฮวากลั่นแกล้งอีก เรียกได้ว่าเฟยฮวาคือเชื้อไฟชั้นดีเพราะนิสัยส่วนตัวของนาง หากเป็นชุนเยว่เล่อแต่แรกคงไม่แย่เท่านี้กระมัง
นี่คือความตั้งใจของฝ่าบาททั้งนั้น สุดท้ายแล้วต่อให้กีดกันบุตรชายเช่นไรสุดท้ายองค์ชายรองก็ได้ขึ้นครองราชย์เพราะพระองค์แกล้งตาบอด และนางเอกเช่นนางก็มีส่วนสำคัญในการผลักดันอีกฝ่ายขึ้นไปนั่งบนนั้น แต่กว่าจะจบเซียวเกาถิงตกบ่อโคลนไปร้อยรอบเพราะมีชุนเฟยฮวาเป็นตัวน่ารำคาญวนเวียนอยู่ในชีวิต
นางเข้ามาอยู่ในร่างนี้ย่อมต้องการเปลี่ยนเนื้อเรื่อง อย่างไรเสียชุนเฟยฮวาก็ไม่มีบทบาทในการช่วยพระเอกนักเช่นนั้นก็ไม่ต้องเข้าตำหนักตั้งแต่แรก ให้มีเพียงนางและพระเอกทุกอย่างคงราบรื่น เท่านี้ชีวิตของนางก็สงบสุขแล้ว
เฟยฮวา เจ้าคงไม่ว่าอันใดหากชีวิตนี้ของเจ้าข้าขอเป็นคนเลือกให้เอง
มาแล้ว สวัสดีค่ะทุกคน เรื่องนี้ไรท์ตั้งใจจะแต่งเรื่องสั้น (พูดทุกเรื่อง) สักไม่เกินสี่สิบบทจบค่ะ ไม่รู้จะทำได้ไหม อาจจะสามสิบบทแบบ บทที่ 1 (1/8) บทที่ 1 (2/8) งี้ 55555555
ช่วงแรกเกริ่นเรื่องของเยว่เล่อมากหน่อยนะคะ ไม่งั้นมันต่อเรื่องเฟยฮวาไม่ได้ค่ะ
มีคำผิดแจ้งได้น้า
บทที่ 1 บิดารักบุตรอนุมีสิ่งใดน่าตกใจ ขนาดเจ้าหยางหรงบิดาเจ้ายังรักราวกับพี่น้องคลอดตามกันมา (1/2)
บทที่ 1
บิดารักบุตรอนุมีสิ่งใดน่าตกใจ
ขนาดเจ้าหยางหรงบิดาเจ้ายังรักราวกับพี่น้องคลอดตามกันมา
1/2
รุ่งเช้าผันผ่าน วันเดินทางของคุณหนูใหญ่ตระกูลชุนมาถึงแล้ว ในจวนสงบกว่าเมื่อวาน ยามเช้าเพียงแต่งตัวออกมาส่งบุตรสาวไปบ้านสามี พิธีการมิได้มากมายนัก สิ่งที่ฮูหยินเอกตระกูลชุนทำออกจะมากกว่าบ้านอื่นเสียด้วยซ้ำ
ที่เรือนคุณหนูรองยังเงียบสงัด ชุนเฟยฮวารู้สึกหนักที่ช่วงเอวจึงตื่นจากฝันลืมตามองต้นเหตุไม่นานก็เห็นแขนน้องสาวที่คุ้นหน้าและชินชากอดนางอยู่ หนิงอันมานอนกับนางอีกแล้ว
เด็กคนนี้อายุสิบสามสิบสี่หนาวแล้วก็ยังชอบมานอนกับนางเวลากลับจากเรือนฝึกของท่านตา ร่างบางขยับมองหน้าต่างที่อันเอ๋อร์คงเผลอเปิดเอาไว้พบว่าฟ้ายังไม่สว่างดี แต่เช้าวันนี้พวกเราต้องส่งคนเดินทาง สมควรตื่นได้แล้ว
“น้องเล็ก”
“อื้อ ข้าขอนอนอีกสองเค่อเจ้าค่ะ”
“วันนี้ต้องส่งพี่หญิงใหญ่เดินทาง ลืมแล้วหรือ” สิ้นคำพูดบรรยากาศพลันเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด คุณหนูเล็กของบ้านตื่นเต็มตาลุกขึ้นผมเผ้ายุ่งเหยิงนั่งเหม่อลอย
“พูดถึงเรื่องนี้แล้วข้าโมโหนัก”
“พี่หญิงใหญ่ตัดสินใจแล้ว”
“ตัดสินใจรับเคราะห์ที่มารดาสร้าง หากอนุไม่ก่อเรื่องพี่หญิงใหญ่ก็ไม่ต้องตบแต่งออกไปไวเช่นนี้มิใช่หรือเจ้าคะ พวกท่านเพิ่งสิบเจ็ดหนาวเอง” เฟยฮวาเงียบไร้คำตอบ หลายเดือนก่อนนั้นฝ่าบาทโยนสัญญาหมั้นหมายเข้ามาในรั้วตระกูลชุน
ความว่าให้คุณหนูตระกูลชุนที่พ้นวัยปักปิ่นแล้วหมั้นหมายกับองค์ชายรอง แม้จะเป็นบุตรอนุก็ไม่เป็นไร ซึ่งผู้ที่ถูกเลือกคือพี่หญิงใหญ่ชุนเยว่เล่อที่เกิดก่อนนางไม่กี่เดือน
ทว่าใจความสำคัญของเรื่องนี้คือ องค์ชายรองตาบอด
เช่นนี้แล้วจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีได้อย่างไร โดยเฉพาะมารดาของพี่สาวและมารดาของนาง ดูก็รู้ว่าฝ่าบาทต้องการตัดองค์ชายรองออกจากบัลลังก์ คิดจะลดอำนาจองค์ชายรองแล้วยังหยามเกียรติอีกฝ่ายโดยใช้พวกเราเป็นเครื่องมือ นอกจากนี้ยังถือโอกาสลดอำนาจตระกูลชุนอีกด้วย
“นินทาพี่สาวอยู่หรือ” เสียงดังมาจากด้านนอกพร้อมประตูเปิดออก ย่อมเป็นพี่สาวคนโตอย่างชุนเยว่เล่อที่มาตามน้องสาวทั้งสองในวันสำคัญของตัวนางเอง
วันนี้นางแต่งตัวงดงาม ต้องเดินทางไปบ้านสามีที่อยู่ต่างแคว้นจึงมิได้แต่งชุดแดงคลุมผ้า เยว่เล่อสวมชุดสีม่วงที่เฟยฮวาและหนิงอันตัดและปักลายให้เมื่อปีที่แล้ว
ผู้เป็นน้องสาวมองแล้วเผลอยิ้มก่อนจะรีบหุบยิ้มลืมว่ากำลังเง้างอนอยู่ นอกจากชุดแล้วหนิงอันจำได้ว่าเครื่องประดับบนตัวพี่สาวเป็นนางซื้อให้เสียส่วนมากเพราะพี่หญิงใหญ่ไม่ค่อยซื้อเครื่องประดับ แต่ตัวนางออกท่องเที่ยวไปทั่วทุกสารทิศ ไปประลองก็บ่อยครั้ง ได้ของมานอกจากมารดาแล้วก็นำมาแบ่งพี่สาวทั้งสองอยู่เสมอ
เยว่เล่อมองใบหน้าเง้างอนของน้องสาวทอดถอนใจ นางรู้ว่าวิธีของนางนั้นสิ้นคิด ทว่าคนเราจะคิดหาหนทางในยามคับขันเช่นนั้นได้ดีมากเท่าใดล้วนอาศัยประสบการณ์และการฝึกฝน แต่นางคือสตรีในห้องหอ สุดท้ายจึงเป็นเช่นนี้
นางหลับนอนกับบุรุษผู้หนึ่ง จากยาของมารดาที่ตั้งใจจะทำให้เฟยฮวาหลับนอนกับบ่าวไพร่ ให้เฟยฮวาชีวิตตกต่ำกว่าบุตรสาวที่ต้องหมั้นหมายกับองค์ชายรอง ยามนี้กลับเป็นนางรับแทน ตั้งแต่วันนั้นก็ไม่สามารถพบท่านแม่ได้อีกเลยเพราะนางทำแผนของอีกฝ่ายพังไม่เป็นท่า
มารดาก็เป็นเช่นนี้ ที่ยังอยู่ที่นี่ได้เพราะแม่ใหญ่เห็นแก่หน้านางทั้งนั้น
“อันเอ๋อร์โกรธพี่สาวมากหรือ” เสียงหวานไถ่ถามนั่งลงข้างเตียงของเด็ก ๆ มือก็ลูบจัดผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงให้เช่นทุกครั้งแม้ว่ายามนี้น้องสาวจะอายุสิบสี่หนาวแล้วก็ตาม
หนิงอันมุ่ยหน้าแต่ก็ขยับให้พี่สาวจัดผมให้ ตามองสำรวจใบหน้าของนางว่ามีร่องรอยความเสียใจหรือไม่กลับพบว่าไม่มีสักนิด
“ท่านไม่เสียใจหรือเจ้าคะ”
“ไม่เสียใจเลย พวกเจ้าไม่ต้องเป็นห่วงเข้าใจหรือไม่ พี่สาวเคยเจอเขาหลายครั้ง เขา เป็นคนดีไม่น้อย” เยว่เล่อพูดอึกอัก หนิงอันหันมองพี่หญิงรองเลิกคิ้วงุนงง เหตุใดจึงพูดติดขัดหน้าแดงเล่า
“ท่านชอบท่านพี่เขยหรือเจ้าคะ”
“มิใช่เสียหน่อย เพียงแต่คิดว่าหากเป็นเขาก็ไม่เป็นไรเพราะเคยพูดคุยกันหลายครั้ง โชคดีที่เป็นเขา แต่ช่างเรื่องของเจียเจี่ยเถิด เรื่องต่อไปคือเจ้าคงต้องหมั้นกับองค์ชายรอง เจ้าจะทำเช่นไรต่อ”
ร่างบางพยายามเปลี่ยนเรื่อง ทว่าสตรีทั้งสองกลับจดจ้องไม่วางตา เฟยฮวาจับมือพี่สาวเอาไว้วกกลับมาเรื่องเดิมอยู่ดี “ท่านจะไม่ทุกข์ใจใช่หรือไม่เจ้าคะ บอกให้ข้าสบายใจสักหน่อย”
“วางใจเถิด ตอนแรกย่อมเสียใจ ทว่าพอเห็นว่าในคืนนั้นเป็นผู้ใดก็ไม่เสียใจแล้ว หลังคืนนั้นก็ได้พูดคุยวางแผนชีวิตกัน เขามีความคิดที่ไม่แย่ แม้จะเป็นพ่อค้าเขาก็เป็นคนดีและยอมรับพี่สาวเป็นภรรยาทั้งยังตั้งใจจะมีภรรยาเพียงคนเดียว”
นางตอบตามที่คิดหาใช่โกหกเพื่อให้คนอื่นสบายใจ ตอนแรกคิดเพียงว่าสิ่งที่มารดาก่อให้ตนเองรับแทนผู้อื่นเสียดีกว่า ลึก ๆ แล้วย่อมเสียใจและน้อยเนื้อต่ำใจ ทว่าพอเห็นว่าคนที่นอนกับนางในคืนนั้นเป็นพ่อค้าที่เคยช่วยนางและเคยพูดคุยกันก็บังเกิดความโล่งใจ เรียกว่าใจชื้นกระมัง
“หากเขาทำไม่ดีกับท่านรีบส่งเหยี่ยวมาแจ้งข้านะเจ้าคะ” หนิงอันไม่วางใจอยู่ดี พี่หญิงใหญ่จิตใจดีกลัวนางจะถูกหลอกเอา
“แม้พี่สาวจะไม่หลักแหลมแต่ก็เคยร่ำเรียนวรยุทธ์พร้อมพวกเจ้า อย่าห่วงเลย ยามนี้สายแล้ว ลุกไปอาบน้ำได้แล้ว” สามพี่น้องสวมกอดกันไปมาก่อนจะลากกันไปอาบน้ำ ไม่จำเป็นต้องให้สาวใช้ของคุณหนูเล็กหอบเสื้อมาผ้ามาที่เรือนเพราะที่นี่มีเสื้อผ้าของนางติดตู้หลายชุดเชียว กระทั่งน้องสาวอาบน้ำเสร็จนางยังช่วยแต่งตัวให้เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะแยกบ้านออกไป
เฟยฮวายิ้มนั่งอยู่หน้ากระจกทองเหลืองบานใหญ่ที่หนิงอันไปประลองแล้วแบกมาให้นางกับพี่หญิงใหญ่คนละอัน ด้านหลังย่อมเป็นพี่สาวและน้องสาวที่ช่วยกันทำผมให้กับนาง ร่างบางยิ้มหยิบของในถุงผ้าออกมา เป็นกำไลถักที่นางทำเอง เฟยฮวาสวมไว้ที่ข้อมือเยว่เล่อตอนที่นางเอื้อมมาหยิบปิ่นไปปักผม
“อันใดหรือ”
“ข้าไม่รู้จะทำสิ่งใดให้ท่าน เลยถักสร้อยข้อมือให้เจ้าค่ะจะได้สวมใส่ง่ายและใส่ติดตัวตลอดได้” เฟยฮวาเอ่ยยิ้ม ๆ ความสามารถของนางที่เก่งที่สุดย่อมเป็นการปักผ้าและการถักสร้อยข้อมือ คิดว่าทำของชิ้นเล็ก ๆ ให้พี่สาวจะดีกว่าเพราะอย่างอื่นคนอื่นคงมอบให้นางแล้ว
เยว่เล่อมองสร้อยเส้นเล็กยิ้มดีใจ เป็นด้ายถักทอเป็นดอกไม้ ตรงกลางเป็นหยกเล็ก ๆ รอบเส้น งดงามยิ่ง “ขอบคุณมากนะฮวาเอ๋อร์”
“เจียเจี่ย พวกท่านแอบมาอยู่ด้วยกันไม่ชวนข้าอีกแล้ว”
บทที่ 1 บิดารักบุตรอนุมีสิ่งใดน่าตกใจ ขนาดเจ้าหยางหรงบิดาเจ้ายังรักราวกับพี่น้องคลอดตามกันมา (2/2)
บทที่ 1
บิดารักบุตรอนุมีสิ่งใดน่าตกใจ
ขนาดเจ้าหยางหรงบิดาเจ้ายังรักราวกับพี่น้องคลอดตามกันมา
2/2
“เจียเจี่ย พวกท่านแอบมาอยู่ด้วยกันไม่ชวนข้าอีกแล้ว” เสียงร้องโวยวายดังอยู่ด้านนอก ย่อมเป็นคุณชายที่เหลืออยู่คนเดียวของบ้านอย่างหนิงซานบุตรชายคนเดียวของฮูหยินเอก ยามนี้อายุเก้าหนาวแล้ว กำลังยืนท้าวสะเอวจ้องมองพวกเราอยู่
ใบหน้าที่ถอดแบบมาจากท่านพ่อพองแก้มน่าเอ็นดู เด็กคนนี้ถูกเลี้ยงดูโดยพี่สาวทั้งหลายมาตลอด มีบิดาและพี่ใหญ่ตามใจทุกครั้งที่กลับจากชายแดน แม้จะดูเอาแต่ใจไปบ้างทว่าหนิงซานรู้ความว่าเรื่องใดเอาแต่ใจได้และไม่ได้
และเด็กคนนี้เป็นสหายกับหนิงอันพี่สาวคนที่สามของบ้านเวลาถูกทำโทษเพราะหนิงอันมักจะหิ้วน้องชายออกไปก่อเรื่องเสมอ ชักชวนกันปีนกำแพงบ้าง ปีนบ้านปีนต้นไม้บ้างจนชำนาญแล้ว
“คิกคิก ซานซานถูกแม่ใหญ่ลงโทษเสร็จแล้วหรือ”
“ท่านไม่บอกข้าก่อนว่าจะแอบมานอนกับพี่หญิงรอง ข้าแอบเข้าห้องถูกท่านแม่คว้าคอเสื้อจนไอหน้าดำหน้าแดง” หนุ่มน้อยเข้ามานั่งบนเตียงนอนของเจ้าของห้องอย่างเคยชินทำหน้าเง้างอน เมื่อวานนี้เขาและพี่หญิงเล็กไปตาม แค่ก ๆ ไปเยี่ยมท่านพี่เขยโดยที่ไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัวเพราะกลัวพี่เขยจะนิสัยไม่ดีทำพี่หญิงใหญ่ของพวกเราเสียใจ
แน่นอนว่าอันเจียเจี่ยหิ้วคอเขาปีนขึ้นไปบนต้นไม้จากนั้นก็ขึ้นไปนอนอยู่บนหลังคา เหนื่อยแต่ก็คุ้มค่า เพราะตามอยู่ค่อนคืนก็ไม่เห็นพี่เขยทำสิ่งใดนอกจากนั่งทำบัญชี เตรียมข้าวของที่จะนำไปขาย พูดกับคนของตนเองเรื่องเตรียมบ้านต้อนรับภรรยาหลังจากนั้นก็นอน พวกเราจึงกลับมามือเปล่าไม่พอเขายังถูกท่านแม่จับได้อีก
พี่สาวทั้งสามได้ยินก็ส่งสายตาเวทนามาให้ เด็กน้อยฮึดฮัดไม่นานก็ไปนั่งแทนที่พี่หญิงรองแก้ผมที่บ่าวข้างกายทำให้เรียบร้อยเพื่อให้ทั้งสามทำผมให้ใหม่อย่างเอาแต่ใจ นอกจากพี่สาวจะไม่ว่ายังทำให้แต่โดยดี เรื่องการออกเรือนของพี่หญิงใหญ่จึงไม่มีคนเศร้าโศกอย่างที่คิดเมื่อเห็นว่านางไม่ได้เสียใจ
บุตรรักใคร่กลมเกลียวคิดหาทางออกชีวิตของกันและกันด้วยความรัก ทว่ามารดาที่มาจากต่างบ้านต่างแซ่จะรักใคร่กันได้เช่นไร ใช้สามีร่วมกันก็หาทางญาติดีกันได้ยากอยู่แล้ว
ก่อนจะถึงกำหนดการณ์เดินทางชุนเยว่เล่อขอเข้าไปร่ำลาท่านแม่ที่เรือนของนาง ฮูหยินให้สาวใช้ที่มีวรยุทธตามนางมาด้วย กระทั่งกับบุตรสาวยังไม่ไว้วางใจกลัวอนุหลี่จะทำร้ายตบตีนาง ดูเอาเถิด มารดาเลี้ยงยังห่วงนางมากกว่ามารดาแท้ ๆ
ร่างบางเดินไปตามทางเดิน นางจะแต่งออกแล้วท่านแม่ยังเงียบอยู่ไม่แม้แต่ขอฮูหยินออกมาส่งบุตรสาว กลับเป็นนางที่ขอมาเจอเอง กระทั่งว่าที่สามีก็ยังไม่เคยได้คารวะท่านแม่ยายแท้ ๆ สักครั้ง
“ท่านแม่ ข้าเข้าไปนะเจ้าคะ” สาวใช้เปิดประตูให้บุตรสาวอนุหลี่เข้าไป เรือนขังท่านแม่ก็คือเรือนเดิมของนาง กว้างขวางและมีข้ารับใช้ไม่ได้ลำบากเช่นบ้านอื่นขังคนทำผิดเลย เยว่เล่อเดินตามบ่าวไปก็เห็นว่าท่านแม่นั่งรออยู่ด้วยสายตาอ่านยาก
มารดาของนางยังงดงามไม่เปลี่ยน ติดที่ใบหน้าของนางดูใจร้ายให้ความรู้สึกน่ากลัวมาแต่ไหนแต่ไร ยามนี้นั่งจิบชาอยู่ที่โถงรับแขก สวมชุดไว้ทุกข์ราวกับคนในครอบครัวตกตาย
“ท่านแม่ ลูกมาลาเจ้าค่ะ” น้ำเสียงคุ้นหูดังขึ้น หลี่ฟางเล่อส่งเสียงเบา ๆ ในลำคอก่อนจะลดสายตามองถ้วยชาที่นางโคลงเคลงไปมาอยู่บนโต๊ะไม่คิดหันมองบุตรสาวที่หน้าเหมือนตนเองเลยสักนิด หน้าเหมือนมารดาแล้วโง่งมได้ผู้ใดกัน
“เฮอะ รับเคราะห์แทนน้องสาวที่รัก ยามนี้มันสนใจเจ้าหรือไม่ กระทั่งบิดาเจ้ายังไม่กลับมาส่งขบวนเจ้าสาวเลย”
“ท่านแม่ ยามนี้ที่ชายแดนร้อนดั่งไฟ ท่านยังจะให้ท่านพ่อกับพี่ใหญ่กลับมาเพื่อส่งข้าหรือเจ้าคะ แค่เลี้ยงดูข้าอย่างดีก็นับว่ามีบุญคุณมากแล้ว”
บุตรอนุที่ใดถูกเลี้ยงดูด้วยความรักจากฮูหยินเอกและคนอื่น ๆ เช่นที่ตระกูลชุน นางมั่นใจว่านับดูแล้วทั่วเมืองหลวงแทบไม่มี พี่ชายใหญ่รักนางเช่นน้องสาวแท้ ๆ ไม่ต่างจากอันเอ๋อร์เลย ท่านย่าและท่านพ่อก็รักใคร่นาง บุตรชายคนเดียวของฮูหยินเอกอย่างหนิงซานก็เรียกนางพี่สาววิ่งตามต้อย ๆ จนตอนนี้จะสิบหนาวแล้ว
ชีวิตของบุตรอนุเป็นเช่นไรท่านแม่ย่อมรู้อยู่แล้ว แต่นางอยู่ที่นี่ไม่เคยถูกกลั่นแกล้งหรือทำให้น้อยเนื้อต่ำใจเลย และอีกอย่าง หากว่านางไม่หลับนอนกับพ่อค้าในวันนั้นก็คงได้แต่งเป็นพระชายาองค์ชายรอง มีบุตรอนุที่ใดได้ขนาดนี้หรือไม่
วันนี้เป็นวันสำคัญของนางก็จริงแต่จะให้ท่านพ่อและพี่ใหญ่ทิ้งชายแดนกลับมาออกจะเกินไปกระมัง
หลี่ฟางเล่ออยากถุยน้ำลายลงพื้นเสียจริงหลังจากได้ยินคำพูดไม่เข้าหูของบุตรสาว นางคลอดออกมาเลี้ยงมากับมือ เด็กสารเลวนี่กลับเอนเอียงยอมให้ฮูหยินและคนอื่น ๆ เป่าหูได้ง่ายดาย เอ่ยปากออกมาคนคงนึกว่านางเป็นบุตรสาวของฮูหยินไปแล้วกระมัง ไม่เหมือนมารดาแม้แต่น้อย
“รักบุตรอนุดีกับบุตรตนเองมีอันใดน่าตกใจ ขนาดบ่าวอย่างเจ้าหยางหรงบิดาเจ้ายังรักราวกับพี่ชายน้องชายแท้ ๆ มอบเด็กอี้หานให้ไปเลี้ยงง่าย ๆ เฮอะ เลี้ยงบุตรอนุเทียมบุตรฮูหยิน ปฏิบัติกับบ่าวราวกับสหายรักทั้งยังให้เจ้าไปอยู่กับพวกมันตั้งหลายเดือน กลับมาจึงโง่งมเช่นนี้อย่างไรเล่า”
เยว่เล่อถูกคำพูดเช่นนี้จนชินชาแล้ว ใบหน้างดงามเรียบนิ่ง หันมองดวงตาแข็งกร้าวของมารดาก็ท้อใจ สุดท้ายแล้วหากมารดาคิดไม่ได้ก็ปล่อยให้แม่ใหญ่จัดการตามสมควรเถิด
“ลูกต้องไปแล้ว ขอให้ท่านแม่รักษาสุขภาพด้วย”
//เพล้ง//
“สารเลว!! ประเสริฐนัก เป็นคนดีเข้าไปเถิด วันใดลำบากลำบนก็ขอให้กินน้ำตาของเจ้าไม่ต้องร้องกลับมาหาข้า” คำพูดถากถางพร้อมกับของบนโต๊ะถูกปัดลงพื้นไม่นานท่านแม่ก็กลับเข้าห้องนอนปิดประตูเสียงดัง ทิ้งบุตรสาวไว้ที่ห้องโถงกับข้ารับใช้ ชุนเยว่เล่อถอนหายใจเดินไปเก็บมันด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง
“คุณหนู ถึงเวลาแล้วเจ้าค่ะ ว่าที่สามีของคุณหนูเองก็มาถึงแล้ว”
“เช่นนั้นไปกันเถิด” มือละจากเศษจอกชาลุกขึ้น เยว่เล่อมองส่งมารดาครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินออกมาจากเรือนอนุหลี่ มารดาที่ให้กำเนิดนางในที่สุด ขณะที่ด้านในมีเสียงข้าวของตกมากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับเสียงหวีดร้องของนางราวกับรับความจริงบางอย่างไม่ได้
บุตรสาวแต่งออกไปก็เป็นการตัดขาดครอบครัวกลาย ๆ ปกติจะมีเพียงมารดาที่ยังห่วงหาคอยช่วยเหลืออยู่ลับ ๆ ทว่าตอนนี้คงไม่เป็นเช่นนั้น อนาคตหากพบเจอเรื่องลำบากจริง ๆ คงเป็นน้องสาวน้องชายมากกว่าที่คอยถามไถ่
“ด้านนอกมีข่าวอันใดน่าสนใจหรือไม่ พรุ่งนี้ต้องไปงานเลี้ยงแล้ว”
“นอกจากข่าวจากจวนเราแล้วก็ไม่มีเลยเจ้าค่ะ อ้อ มีเพียงคุณหนูเกาถิงบุตรสาวไต้เท้าเซียวที่โดดเด่นขึ้นมา ไม่รู้นางไปร่ำเรียนการแพทย์มาจากที่ใดองค์ชายรองถึงกับไปขอไต้เท้าเซียวด้วยตนเองให้นางรักษาดวงตาอยู่ข้างกายนับตั้งแต่นี้เจ้าค่ะ”
นี่น่าจะเป็นเรื่องแรกที่ตัวละครมีหลายมิติมากขึ้น ปกติหลายคนจะสังเกตได้ว่าตัวละครรอบตัวละครหลักของไรท์มักจะเป็นคนดี สภาพแวดล้อมตัวละครส่วนมากจะดีมาก ขนาดพ่อที่มีภรรยาหลายคนมีลูกหลายคนก็อยู่สงบเสงี่ยมนิสัยดี เรื่องนี้ไม่ได้ตั้งใจให้ร้ายแต่เหมือนบรรยายอีกมุมของชีวิตอันสงบสุขของตัวละครในเรื่องโจวเฟิ่งเจี๋ยมากกว่าว่าคนอื่นเขาคิดยังไงในมุมตัวเอง แต่ไม่ต้องกลัวจะเครียดทั้งเรื่องนะคะนิยายไรท์เน้นตลกไว้ก่อนเสมอ
นักอ่าน : เรื่องซีซวนกับซีห่าวก็บอกนิยายสุขนิยม ร้องไห้ตั้งแต่บทนำ