โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

‘ขจร RAiNMaker‘ แนะ ทำคอนเทนต์ ต้องเลือกแพลตฟอร์มให้ตรงกับเนื้อหา ชี้ ต้องมีจรรยาบรรณกลั่นกรองเนื้อหาก่อนเผยแพร่

The Reporters

อัพเดต 27 ม.ค. เวลา 12.08 น. • เผยแพร่ 27 ม.ค. เวลา 12.08 น.

‘ขจร RAiNMaker‘ แนะ ทำคอนเทนต์ ต้องเลือกแพลตฟอร์มให้ตรงกับเนื้อหา ยกตัวอย่างคนไทยเสพข่าวผ่านโซเชียล อ่านข่าวปลอมเยอะ ชี้ ต้องมีจรรยาบรรณกลั่นกรองเนื้อหาก่อนเผยแพร่

วันนี้ (27 ม.ค. 68) The Reporters จัดโครงการอบรม “Content Creator 101 คอนเทนต์สร้างสรรค์ … คุณก็ทำได้” ณ ศูนย์ประชุมบางกอกกรุ๊ป ตึกวรรณสรณ์ กรุงเทพมหานคร โดยมีนายขจร เจียรนัยพานิชย์ จาก RAiNMaker เข้าร่วมเสวนาในหัวข้อ “คอนเทนต์มีพลัง: ใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างมีความรับผิดชอบ” โดยเริ่มต้นเล่าถึงความหมายของ Content Creators ว่า เดี๋ยวนี้มีคำเยอะ ไม่ว่าจะเป็น Blogger, YouTuber, Influencer, TikToker โดยคำเหล่านี้ไม่ได้แยกกันชัดเจน แต่มีส่วนที่ซับซ้อนกันด้วย เช่น Influencer จะมีความสามารถในการชักจูง ให้คนมาเชื่อ มีความน่าเชื่อถือ และดึงดูดให้คนมาสนใจในสิ่งของหรือเรื่องนั้น ๆ ส่วน Content Creators จะมีความมาสามารถในความคิดสร้างสรรค์ และสร้างสิ่งหนึ่งขึ้นมาได้ ดังนั้น คน ๆ หนึ่งอาจเป็นได้ทั้ง Content creator และ Influencer

นายขจร ยกตัวอย่างงานวิจัยของถึงที่มาการเสพข่าวในประเทศต่าง ๆ ว่าเสพจากสื่อออนไลน์ เสพจากแอปกระจายข่าว หรืออื่น ๆ โดยประเทศไทยเสพข่าวจากโซเชียลเป็นอันดับหนึ่งของโลก ส่วนในเดนมาร์ก จะเข้าไปเสพข่าวทางตรง คืออ่านจากเว็บไซต์เนื่องจากไม่เชื่อข่าวในโซเชียล ต้องไปที่ต้นทาง และอย่างในเกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน จะเสพจากแอปที่รวมข่าว เช่น Yahoo News แต่ในประเทศไทยเสพจากโซเชียล ซึ่งมีข้อดีคือ เร็ว ได้รู้ไว แต่ข้อเสียคือเราเสพข่าวปลอมเยอะมาก ไม่ได้กรอง ไม่ผ่านการคิดถึงเรื่องจรรยาบรรณ และทำให้สำนักข่าวจริง ๆ อ่อนแอลง รายได้ลดลง เงินไปตกกับใครก็ไม่รู้ และยังส่งผลกับคอนเทนต์ครีเอเตอร์ในประเทศ

“ใครก็เป็นครีเอเตอร์ได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นครีเอเตอร์ ที่จะผ่านการกลั่นกรองการสอนเหมือนการเรียนนิเทศศาสตร์” นายขจร กล่าว

นายขจร ยังยกตัวอย่างอีกว่า อย่างในออฟฟิศตนเองคนที่เป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ มีทั้งจบจากนิเทศศาสตร์ และมีจากที่จบจากคณะอื่น ๆ ทั้งเรียนบัญชี วิศวะ โดยกลุ่มคนเหล่านี้ก็ต้องการเพิ่มทักษะ และการรับรู้ในส่วนนี้มากขึ้น

ส่วน Contents Creator ที่ดีต้องมีอะไรบ้างนั้น ตนเองมองว่าเป็นคำถามที่ยากมาก จึงขอยกตัวอย่างสถิติแอปที่คนไทยโหลดมากที่สุดเป็นอันดับ 2 คือ CapCut การที่คนไทยดาวน์โหลดตัดต่อมากกว่าแอพธนาคาร มากกว่าเกม แปลว่าสิ่งที่คนไทยมีร่วมกันคือสกลิการตัดต่อ เพราะมีคนทำเยอะ และเกิดคอนเทนต์มหาศาล ทักษะตอนนี้คือเรื่องการตัดต่อที่ทุกคนเป็นจากการสัมภาษณ์คนมาฝึกงาน 8 ใน 10 คน ตัดต่อเป็น อย่างตนเองไปสยาม ไม่มีใครกลัวกล้องเลย ทุกคนกล้าพูดหน้ากล้องมาก นี่ก็ถือเป็นทักษะที่ใครหลายคนมี

สถิติคอนเทนต์ครีเอเตอร์ในไทยตอนนี้ คือไลฟ์สไตล์ บิวตี้ ท่องเที่ยว สนุกสนาน เกม อาหารและเครื่องดื่ม โดยทั้งหมดนี้กินพื้นที่ไปแล้ว 62% และเนื้อหาด้านข่าวก็ไม่ได้อยู่สูง และอีกเรื่องคือเรื่องยอดติดตาม ที่จะสร้างรายได้ หากมีคนติดตามเกิน 500,000 คน มียอดเอนเกจมาก อย่างใน Facebook เนื้อหาที่มียอดเข้าชมมากสุดคือข่าว เรื่องครอบครัว ภาพยนตร์ อื่น ๆ ส่วน Instagram เรื่องความสวยงาม การถ่ายภาพ และอสังหาริมทรัพย์ และ TikTok คอนเทนต์ที่มีเอนเกจมากสุดคือข่าว ซึ่งต้องดูที่กลุ่มเป้าหมายด้วย และแต่ละแพลตฟอร์มก็มีกลุ่มเป้าหมายที่ต่างกัน

คนอยากเป็นครีเอเตอร์ เพราะมีตัง ดัง มีแสงส่องและเรามีโอกาสมีชื่อมีเสียง โดยรายได้ของครีเอเตอร์ 90% ส่วนมาจากแบรนด์เลือกมาโฆษณา รีวิวสินค้า พร้อมยกตัวอย่างว่า ก่อนการเปิดตัวสินค้า จะมีงบกองกลางอยู่ จะไปจ้างเอเจนซี่ให้หาคอนเทนครีเอเตอร์ มาโฆษณาสินค้านั้น ๆ และสิ่งที่เอเจนซี่จะไม่เลือก คือเคยมีปัญหากับแบรนด์หรือไม่ นิสัยดีไหม คุณภาพงานดีไหม และราคาโอเคไหม

อีกมุมคือเรื่องแสง บางแพลตฟอร์มก็มีข้อจำกัด หากโพสต์แล้วจะโดนปิดกั้น ลดการมองเห็น จึงต้องดูว่าแพลตฟอร์มไหนเหมาะสมหรือไม่ และคอนเทนต์ไหนที่ไม่ดี สังคมจะลดทอนลงไปเองโดยอัตโนมัติ และสุดท้ายคือคนดูว่ายอมรับหรือไม่ หากคนดูเริ่มแบน ก็จะเป็นไปโดยอัตโนมัติ ทั้งนี้ ยังคงมีคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่ทำตัวแย่ ๆ แต่ยังได้แสงจากสังคม

นายขจร ยังกล่าวอีกว่า ในแพลตฟอร์มก็มีการคัดกรองคอนเทนต์ เช่น TikTok จะมีห้องดำ ไว้ดูเนื้อหาต่าง ๆ โดยจะคัดกรองชั้นแรกผ่านระบบ และให้คนช่วยดูในเรื่องของคอมเม้นต์ และเนื้อหา

นายขจร กล่าวอีกว่า อยากให้ทุกคนที่ทำคอนเทนต์แสดงความชัดเจนว่าเนื้อหาเหล่านี้มีการรับเงินหรือทำงานร่วมกับแบรนด์หรือไม่ หรือเป็นการโฆษณา เหมือนกับต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้ในประเทศไทยยังไม่มี และหลายหน่วยงานพยายามพูดคุยกัน เพื่อจะจัดตั้งกลุ่มหรือสมาคมคอนเทนต์ครีเอเตอร์แห่งประเทศไทย และอาจมีการจัดตั้งในเร็ววันนี้

นายขจร กล่าวทิ้งท้ายว่า ในประเทศที่การศึกษาดีที่สุดในโลก ได้ปรับหลักสูตรให้เรียนเรื่องการเท่าทันสื่อ ซึ่งเด็กทุกวันนี้แทบไม่ต้องสอนด้วย เพราะสามารถเรียนรู้เองได้ผ่านโลกออนไลน์ แต่การรู้เท่าทันสื่อ ว่าสิ่งนี้จริงหรือไม่ ถูกต้องหรือไม่ เป็นแกนหลักที่เราต้องเรียนรู้อย่างมาก

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...