โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

สวาท ธีระรัตนนุกูลชัย ปั้นอุดรธานี ฮับโลจิสติกส์ มุ่งเป้าธุรกิจ "ลาว-จีน"

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 25 พ.ย. 2567 เวลา 08.24 น. • เผยแพร่ 25 พ.ย. 2567 เวลา 01.53 น.
สวาท ธีระรัตนนุกูลชัย (ภาพพื้นหลังจาก มติชน)

ใครที่เดินทางไปจังหวัดอุดรธานีในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ชัดถึงการพัฒนาของเมืองและการเติบโตทางเศรษฐกิจ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ศูนย์ประชุมระดับชาติ ร้านอาหาร ร้านกาแฟชิก ๆ โรงแรมร่วมสมัย ตั้งกระจายอยู่ทั่วทุกมุมเมือง อีกทั้งคลินิกเสริมความงามที่ผุดขึ้นราวดอกเห็ด เพื่อรองรับประชากรจากนครเวียงจันทน์

ภาพเหล่านี้ทำให้อุดรธานีจึงไม่ใช่เพียงจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทุกสารทิศ แต่ยังเป็นที่จับตาของนักธุรกิจและนักลงทุน นอกจากสนามบินนานาชาติอุดรธานีจะเป็นศูนย์กลางแห่งภาคอีสานแล้ว จังหวัดอุดรธานี ยังเป็นประตูสู่ สปป.ลาว เวียดนามตอนเหนือ และภาคใต้ของจีนอีกด้วย

บุคคลผู้หนึ่งพื้นเพเป็นคนอุดรฯ บรรพบุรุษลงหลักปักฐานทำมาหากินในตัวเมือง เริ่มจากร้านขายอาหารธรรมดา ๆ จนสร้างกิจการรุ่งเรืองกระทั่งกลายมาเป็นธุรกิจสื่อสารที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัด “สวาท ธีระรัตนนุกูลชัย” ประธานกรรมการบริหารบริษัท เฮ็งจุ่งฮวด (กรุ๊ป) จำกัด ผู้แทนจำหน่ายและบริการเทเลวิซใน 6 จังหวัดอีสานเหนือ อดีตประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี ปัจจุบันได้รับเลือกเป็น “ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หอการค้าไทย” ดูแลหอการค้าจังหวัด 20 จังหวัดในภาคอีสาน

ก่อนหน้านี้สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา “สวาท” ได้ยื่นหนังสือต่อ “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” รองนายกรัฐมนตรี ขอรับการสนับสนุนการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของจังหวัดอุดรธานี เพื่อเชื่อมต่อโครงข่ายคมนาคมรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจอีสาน และการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการขนส่งและโลจิสติกส์ของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ในฐานะเป็นคนอุดรฯโดยกำเนิด และเป็นผู้ดูแลหอการค้า 20 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

“สวาท” กล่าวถึงสภาพโดยรวมของอุดรธานีในปัจจุบันว่า อย่างแรกต้องมองตัวตนของเมืองอุดรฯก่อน จะเห็นว่าอุดรฯเป็นเมืองการค้ามาแต่ไหนแต่ไร ที่ผ่านมาอุดรฯเป็นจังหวัดที่พึ่งตนเองไม่เคยพึ่งรัฐ ความเป็นเมืองของอุดรฯมีขึ้นช่วงสงครามเวียดนาม มีฐานทัพอเมริกันมาสร้างผังเมืองให้ สร้างถนน 26 เส้น ซึ่งถือเป็นถนนคอนกรีตแห่งแรกของประเทศไทย มีบาร์ โรงหนัง มีทุกอย่าง จึงทำให้เศรษฐกิจเฟื่องฟูมาก

สมัยก่อนถนนประจักษ์เป็นรันเวย์ ส่วนทุ่งศรีเมืองถูกออกแบบมาให้เป็นเขตกันชนเวลาเกิดเหตุฉุกเฉิน ตอนหลังไม่มีสงครามเลยใช้เป็นที่จัดงานประจำปีทุ่งศรีเมือง พออเมริกาถอนฐานทัพไปในปี 2518 เมืองที่เคยมีฐานทัพอเมริกาล่มสลายหมด ไม่ว่าอุบลฯ อู่ตะเภา โคราช มีอุดรธานีที่เดียวกลับผงาดขึ้นมาเพราะคนงานที่ทำงานในฐานทัพอเมริกันเรียกว่า “ไทยแอม” เป็นแรงงานมีฝีมือผ่านการฝึกมา เดินทางไปขายแรงงานในประเทศตะวันออกกลางแล้วขนเงินกลับบ้าน เกิดเศรษฐีใหม่ขึ้นมา เป็นที่มาของคำว่า “ซาอุดร”

จริง ๆ แล้วคนอุดรธานีไม่ได้ยากจน ปัจจุบันคนรุ่นใหม่เริ่มกลับมาอยู่อุดรฯมากขึ้น มาเปิดร้านอาหาร ร้านกาแฟ ทำธุรกิจ SMEs ตัวเมืองขยายออกไปทุกทิศทาง นักลงทุนรายใหญ่จากกรุงเทพฯ เข้ามาลงทุน และที่สำคัญยุทธศาสตร์ของการพัฒนาเมืองอุดรฯ คือเราหันหลังให้กรุงเทพฯ หันหน้าเข้าหาเวียงจันทน์ เรามองว่าถ้ามัวแต่รอเงินงบประมาณมันจบที่ขอนแก่น ไม่มีทางมาถึงอุดรฯ สู้เราสร้างของเราเองดีกว่า

สิ่งที่ทำให้อุดรฯพัฒนาคืออะไร ?

การพึ่งตัวเอง อุดรฯต้องขับเคลื่อนด้วยลักษณะธรรมชาติของตัวเอง ตอนมีปฏิวัติเราพัฒนาเมืองแบบหนึ่งโดยเปิดด่านค้าชายแดน พอเกิดโรคระบาดโควิดก็พัฒนาอีกแบบ ที่อื่นเขาปิดเมือง แต่เราเปิดแล้วบริหารจัดการให้ดี มีการป้องกันเข้มงวด พยายามจะให้ตัวเลขเศรษฐกิจอุดรฯกลับมา ต้องบอกว่าอุดรฯเป็นเมืองแห่งโอกาส มีความพร้อมสำหรับนักลงทุนที่จะเข้ามาทำกิจการต่าง ๆ ทุกคนมีโอกาสเข้ามาลงทุน มาค้าขาย ช่วง 4-5 ที่ผ่านมาเราเติบโตแบบก้าวกระโดด ราคาที่ดินสูงขึ้น นักลงทุนใหม่ ๆ จากส่วนกลางเข้ามาลงทุนมากขึ้น

สิ่งที่มองเห็นตอนนี้ เรื่องที่หนึ่ง-คือประเทศไทยโดยเฉพาะจังหวัดอุดรธานีเป็น “บ้านหลังที่สอง” ของคนลาว จึงเกิด “โครงการบ้านหลังที่ 2” ขึ้นมาเพื่อดึงกำลังซื้อกำลังใช้สอยของคนลาวมาที่อุดรธานี เรื่องที่สอง-เราจะไปตีตลาดการก่อสร้างใน สปป.ลาว โดยนำพวกไทยวัสดุเครื่องมืออุปกรณ์การก่อสร้างเข้าไปค้าขายในลาว คนลาวเชื่อถือสินค้าไทยและฝีมือคนไทย ถือเป็นจุดแข็งของเราที่จะนำเม็ดเงินเข้ามา โรงแรมที่ลาวเกือบครึ่งรวมไปถึงธุรกิจอสังหาฯ ใช้อุปกรณ์วัสดุและแรงงานจากไทยทั้งนั้น

ผมมองว่า 4 ปีหลังมานี้ อุดรฯยังขาดเม็ดเงินการลงทุน เงินลงทุนหายไปเยอะมาก การของบประมาณจากรัฐ ขอไปแล้วไม่ได้ งบประมาณจากที่เคยได้ปีละ 20,000 ล้านบาท เดี๋ยวนี้เหลือ 10,000 ล้านบาทหายไปครึ่งหนึ่ง แล้วส่วนมากเป็นงบฯบริหารจัดการ งบฯลงทุนไม่มี

ปัญหาของเมืองอุดรธานีตอนนี้คืออะไร ?

เราเจอปัญหาใหญ่คือจีนรุกเข้ามามาก เริ่มมาทำธุรกิจที่ สปป.ลาว ถ้าเราไม่ปรับเปลี่ยนอะไร ไม่ทำอะไรเลยจะกลายเป็นเศรษฐกิจถดถอย ไม่เดินหน้า เป็นประเด็นว่าในปี 2568 เราต้องแก้ไขให้ได้ ไม่ว่าการขับเคลื่อนเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ NEC (Northeastern Economic Corridor) ที่ครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัดอีสาน

พัฒนาให้เป็นฐานอุตสาหกรรมชีวภาพแห่งใหม่ของประเทศด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ตลอดห่วงโซ่การผลิต ต้องเร่งทำให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น ช้าไม่ได้ เพราะทาง สปป.ลาว เขามีเขตเศรษฐกิจพิเศษถึง 14 เขตแล้ว เวียดนามก็มีเยอะ

ประเด็นต่อมาเรื่องรถไฟความเร็วสูง สรุปคือเราไม่มีความรู้เรื่องโลจิสติกส์ ทำให้เสียโอกาสการขนส่งทางราง ปัญหาคือระบบรางของเราเป็นรางคู่แต่พอไปถึงเวียงจันทน์ระบบรางเป็นอีกแบบ ทำให้การเชื่อมต่อมีปัญหากลายเป็นว่าขนส่งสินค้าต้องยกขึ้นยกลงเพื่อเปลี่ยนขบวนรถ ทำให้ต้นทุนเพิ่ม ที่คิดว่าขนส่งทางรางจะถูกที่สุดกลายเป็นแพงที่สุด

อีกเรื่องคือโครงการสะพานมิตรภาพไทย-ลาว (หนองคาย-เวียงจันทน์) เฟส 2 ซึ่งจะเสร็จในปี 2471 แต่ต้องเลื่อนไปปี 2574-2575 เพราะเถียงกันปัญหาจะเอารถไฟวิ่งกับรถยนต์ หรือวิ่งรถไฟอย่างเดียว ที่สุดทางไทยขอไปศึกษาใหม่ใช้เงินอีก 30 ล้าน ศึกษาเสร็จต้องไปคุยกับจีนและลาวจะเอายังไงอีก อยู่ระหว่างนำเสนอผลการศึกษาให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา

นอกจากรายได้ทางธุรกิจแล้ว อุดรธานีมีรายได้จากไหนอีก ?

จริง ๆ แล้วรายได้หลักของอุดรฯ คือเงินจากต่างประเทศ คนอุดรฯไปทำงานต่างประเทศเยอะมาก ประมาณ 10,000 คน และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ คิดเป็นสัดส่วนมากที่สุดของทั้งประเทศ คนเหล่านี้ส่งเงินกลับมาบ้านมีรายได้เข้าสู่จังหวัดราว 1,000 ล้านบาทต่อเดือน

อีกอย่างที่อุดรฯมี “เขยฝรั่ง” เยอะมาก เป็นธรรมชาติของคนอีสานว่าผู้หญิงต้องมีผัวฝรั่ง ตอนที่เราทำสำรวจจำนวนเขยฝรั่งมีมาลงทะเบียนประมาณ 20,000 คน แต่จดทะเบียนสมรสมีประมาณ 7,000 คน นอกนั้นไม่ได้จดทะเบียนสมรส ฝรั่งเหล่านี้ขนเงินเข้ามาเฉลี่ยแล้วหัวละ 50,000 เป็นอย่างน้อย

แต่เวลานี้กำลังเปลี่ยนไปและเป็นปัญหาที่ต้องแก้ คือเขยฝรั่งจะไม่หาผู้หญิงไทยแบบเดิม ๆ มาแต่งงาน แต่พุ่งเป้าไปที่ข้าราชการผู้หญิง เพราะเขาสามารถใช้สิทธิสวัสดิการแบบคนไทยได้ เบิกค่ารักษาพยาบาลฟรี ซึ่งกำลังคุยกันว่าจะมีวิธีจัดการปัญหานี้อย่างไร อย่างน้อยต้องมีกฎระเบียบออกมาป้องกัน เช่น ต้องกำหนดว่าแต่งงานกี่ปีจึงจะได้สิทธิ เป็นต้น เดี๋ยวนี้ฝรั่งเกษียณเต็มเมืองอุดรฯ มาเปิดร้านกินดื่มอยู่ข้างโรงแรมเซ็นทาราเป็นดงเลย

รายได้จากภาคการเกษตรเป็นอย่างไร ?

ไม่ได้มาก ภาคเกษตรกรรมอุดรธานี ปลูกข้าว อ้อย มันสำปะหลังและยางพารา แต่ปีนี้อ้อยหายไป 50% เนื่องจากมันสำปะหลังราคาดีกว่า ชาวไร่จึงหันไปปลูกมันกัน ส่วนข้าวไม่ต้องพูดถึงไม่ได้เลย เป็นการปลูกเพื่อบริโภคในครัวเรือนเท่านั้น เป็นเพราะแรงงานภาคเกษตรเราไม่มี ต้องพึ่งแรงงานจากลาว

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมต้องเอาอุดรฯไปเชื่อมกับเวียงจันทน์ เราต้องการแรงงานจากเขา กำลังดูว่าจะทำเหมือนที่อำเภอแม่สอด จ.ตาก ได้หรือไม่ โดยจะให้แรงงานจากลาวสามารถข้ามมาทำงานแบบเช้าไปเย็นกลับ เขาเองก็อยากมาเพราะค่าแรงบ้านเราแพงกว่าที่ลาว วันละ 400 บาท

เรื่องไหนที่คิดว่าจะต้องรีบพัฒนาให้อุดรธานีโตมากกว่านี้ ?

สร้างศักยภาพเมืองให้แข็งแกร่ง ไม่พึ่งรัฐแต่พึ่งตัวเอง เราหันหลังให้กับกรุงเทพฯ หันหน้าเข้าหาอนุภาคลุ่มน้ำโขง วันนี้อุดรฯจะเป็นหัวขบวนเรื่องของเศรษฐกิจ สร้างงานสร้างเงินให้กับคนในพื้นที่

ที่คิดว่าจะต้องพัฒนาโดยเร็ว

1.เศรษฐกิจ NEC เมื่อเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมจะเป็นเมืองออโตเมชั่น (Automation) ระบบควบคุมอัตโนมัติผ่านโปรแกรม ต้องใช้เครื่องมืออุปกรณ์จำนวนมาก สำหรับรองรับคนอีสานที่มีสกิลจะกลับมาบ้านเกิด ควรจะมีที่ยืนให้เขา

2.ทำเกษตรมูลค่าสูง เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร ทำให้อุดรฯเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมการแปรรูปทางการเกษตร โดยมีจังหวัดอื่น ๆ เป็นเหมือนก้างปลาในการผลิต ส่งมาที่เราเป็นอุตสาหกรรมแปรรูป

3.พัฒนาตลาดผ้านาข่าให้เป็นตลาดผ้านานาชาติ ทำให้เป็น “เมืองจีนที่ 2” ไม่ได้มีเฉพาะผ้าไทย ใครอยากได้ผ้าอะไรก็สามารถมาหาซื้อที่นี่ได้ ซึ่งจะต้องกำกับให้ดีและสร้างคนไทยให้แข็งแรงด้วย

ทั้งหมดนี้ ผมมองว่าเราจะรุกมากขึ้นในอนาคต ถ้าปรับเปลี่ยนในปีหน้า 2568 ได้เลยก็จะดี เรามีความมั่นใจว่าเราทำได้ ขยับนิดหนึ่งก็เดินหน้าได้แล้ว

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : สวาท ธีระรัตนนุกูลชัย ปั้นอุดรธานี ฮับโลจิสติกส์ มุ่งเป้าธุรกิจ “ลาว-จีน”

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...