การ ‘ปลดแอกศิลปะ’ ด้วย NFT โดย Prod. By NINO เพื่อส่งศิลปินไทยไปดังกระหึ่มระดับโลก

แม้จะเป็นโปรดิวเซอร์สุดร้อนแรงในวงการเพลงตอนนี้ และประสบความสำเร็จจนมีผลงานเพลงฮิตที่มีผู้ชมรวมแล้วหลายร้อยล้านวิว แต่ ‘นีโน่’ - เกริก ชาญกว้าง หรือ Prod. By NINO ก็ไม่เคยคิดจะหยุดพัฒนาตัวเอง และยังเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา

        หนึ่งในนั้นคือเรื่องของ NFT หรือ Non-Fungible Token ที่เจ้าตัวให้ความสนใจอย่างมาก เพราะมองว่าจะเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มในการสร้างรายได้ให้กับศิลปินทั้งในรูปแบบของงานศิลปะ เพลง หรือการร่วมมือกับศิลปินต่างชาติที่จะช่วยกันผลักดันให้ธุรกิจด้านวงการบันเทิงของประเทศไทยนั้นเติบโตยิ่งขึ้น

The Starting Point

        ความสนใจใน NFT และ Cryptocurrency ของเขาค่อยๆ ก่อตัวขึ้นเมื่อหนุ่มวัย 27 ปีคนนี้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหาร HYPE TRAIN ค่ายเพลงที่อยากผลักดันให้วงการศิลปะของไทยเป็นที่รู้จักในแวดวงประเทศมากขึ้น และมองเห็นว่า NFT คือเครื่องมือชั้นยอดในการสร้างงานศิลปะรูปแบบดิจิทัล จึงจับมือกับ Stephane Panyasiri ผู้ช่ำชองในวงการเกมและ Cryptocurrency มาทำ NFT1 โปรดักชันเฮาส์สมัยใหม่ที่ทำงานร่วมกับศิลปินและนักดนตรี เพื่อสร้างผลงานศิลปะแบบ NFT

        “ก่อนหน้าที่ผมจะมาทำค่ายเพลง ผมคิดแล้วคิดอีกว่ามีอะไรที่ตัวเองต้องข้ามขีดจำกัดบางอย่างไปให้ได้ เพราะชีวิตของผมมีความท้าทายมาตลอด เช่น ฃตอนทำเพลงก็ต้องลุ้นว่าผลงานของเราจะประสบความสำเร็จไหม” เขาเล่าถึงความกดดันอันเป็นผลจากการขยับจากตำแหน่งโปรดิวเซอร์เพลง ไปสวมหมวกอีกใบในตำแหน่งผู้บริหารค่าย ซึ่งทำให้เขาเริ่มมองว่าจะมีอะไรบ้างที่พอจะสามารถให้ความมั่นคงในการทำงานต่อไปในอนาคตได้

        “ที่ผ่านมา ผมพยายามมองอุตสาหกรรมของเพื่อนบ้านหรืออุตสาหกรรมที่อยู่ต่างประเทศอย่างอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี ซึ่งเมื่อมาทำค่ายเพลง ผมก็รู้แล้วว่าตรงไหนที่เราสามารถหาเงินได้ แต่กลายเป็นว่าเราไปเจออุปสรรค ซึ่งไม่เคยคิดมาก่อนว่าบางเรื่องที่เคยมองข้ามไปนั้นจะเป็นอุปสรรคในการทำธุรกิจที่ใหญ่มาก”

        เขากำลังอธิบายถึงสิ่งสำคัญของวงการเพลงในประเทศไทย ซึ่งปัญหานั้นไม่ได้อยู่ที่ผลงานไม่มีคุณภาพพอ แต่มีปัญหาตั้งแต่พื้นฐานของธุรกิจ

        “ผมคิดว่าจะทำอย่างไรได้บ้างให้อุตสาหกรรมบันเทิงของเรา สามารถสร้างเม็ดเงินกลับเข้ามาในประเทศได้แค่ 10% ก็พอแล้ว แต่การเป็นโปรดิวเซอร์ในบ้านเรานั้นก็แทบจะไม่มีใครให้ความสำคัญ ไม่เหมือนต่างประเทศที่อาชีพนี้มีความสำคัญอย่างสูง”

        นั่นจึงเป็นเหตุผลให้เขาตามหาเครื่องมือใหม่ในการสื่อสารกับผู้คนให้เข้าใจถึงคุณค่าของงานศิลปะได้มากขึ้น และนั่นก็คือ NFT

The Power of NFT

        เมื่อเล็งเห็นโอกาสบางอย่าง เขาจึงไม่รอช้า ยกมือเข้าร่วมงานกับ NFT1 โดยชวนศิลปินหลากหลายแขนงมาร่วมกันทำงานศิลปะดิจิทัลลงขายในรูปแบบ NFT เช่น YOUNGOHM, ‘น้าเน็ก’ - เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา, ‘แต้ว’ - ณฐพร เตมีรักษ์, วง 4EVE, ชาติฉกาจ ไวกวี เป็นต้น

        “เทคโนโลยีสามารถทำอะไรได้หลายอย่าง ประจวบเหมาะกับสิ่งที่ผมตั้งใจจะทำมาตั้งแต่แรกคือ ผมอยากจะเรียกว่าเป็นการ ‘ปลดแอกศิลปะ’ ก็ได้ พยายามทำให้เห็นว่ายังมีหนทางที่คุณสามารถมีโอกาสดีๆ ที่พัฒนาต่อไปได้”

        เขายกตัวอย่างให้เห็นภาพ สมัยที่มีเฟซบุ๊กในยุคแรก ตอนนั้นหากใครไปบอกเพื่อนว่ามาเล่นเฟซบุ๊กกัน จะมีคำถามกลับมาว่าเล่นไปเพื่ออะไร

        “ตอนนี้ NFT ก็เป็นแบบนั้น คนอาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่เทคโนโลยีนี้จะช่วยให้ไฟล์ผลงานของเราไปเข้ารหัส แล้วแปลงออกมาเป็นชิ้นงานที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลกที่เป็นต้นฉบับ ซึ่งสิ่งนี้สามารถเชื่อมกับงานศิลปะได้ ซึ่ง NFT นั้นไม่จำเป็นต้องเป็นงานภาพวาดเท่านั้น ผมอยากให้ทุกคนทำความรู้จักกับ NFT ว่ามันสามารถเป็นอะไรก็ได้ มันไม่ได้เป็นศิลปะแบบสมัยก่อน ไม่ได้เป็นอาร์ตแกลเลอรี แต่มันคือศิลปะสมัยใหม่จริงๆ แม้ว่าคุณจะเป็นใคร ก็สร้างผลงานออกมาได้ ถ้าเป็นคนดัง หรือนักกีฬา ก็จับเหตุการณ์บางอย่างมาสร้างเป็น NFT ได้ ไฟล์เพลงที่ผมทำก็สามารถเอาไปเป็น NFT ได้ โลกของ NFT นั้นมีอะไรอีกมากมายที่สามารถใช้เทคโนโลยีนี้เข้ามาช่วยได้

        “ผมมองว่าการทำงาน NFT ทำให้ผลงานนั้นเป็น ‘ครั้งเดียวในชีวิต’ (once in a lifetime) เช่น ถ้าเราจัดงานฉลองวันเกิดทุกปี เราจะเข้าใจว่า เราไม่สามารถหยุดอายุที่เพิ่มขึ้นไว้ได้ แต่สำหรับ NFT เราจะจับช่วงเวลานี้ไว้ และมันจะอยู่แบบนั้นไปตลอดกาล จนกว่าอินเทอร์เน็ตจะหายไปจากโลก และสำหรับคนที่เป็นศิลปินเอง ผมมองว่าอาชีพนี้มีอายุขัย เราไม่สามารถทำงานแบบเดิมให้ประสบความสำเร็จซ้ำอีกได้ เช่น ตัวผมเองก็ไม่สามารถทำเพลง ทน เวอร์ชันสองออกมาแล้วดังกระหึ่มแบบครั้งแรกได้ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นแค่ครั้งเดียวเหมือนกัน”

        ข้อดีของ NFT อย่างหนึ่งคือ เราไม่ต้องห่วงเรื่องการเก็บรักษาหรือการดูแล เพราะหากเป็นภาพวาดสีน้ำมันบนผืนบ้าใบขนาดใหญ่ แม้ว่าจะมีมูลค่าที่แน่นอน และสามารถจับต้องได้จริง แต่หากเกิดอุบัติเหตุหรือการเสื่อมสภาพไปตามวันเวลา ก็เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ผลงานมาสเตอร์พีชนั้นจะสูญหายไปตลอดกาล (นั่นรวมถึงมูลค่าที่เคยมีด้วย)

        “ใช่ ยิ่งถ้าในอดีตเรามี NFT ตั้งแต่แรก เราคงไม่ต้องมานั่งเถียงกันว่าภาพโมนาลิซาที่แสดงอยู่ตอนนี้เป็นของจริงหรือของปลอมก็ได้” เขาหยอกขึ้นมาจนเราหัวเราะตาม

        “แต่ NFT เป็นเรื่องเสน่ห์ของงานดิจิทัลเป็นหลัก ซึ่งเสน่ห์นี้ก็จะแตกต่างกันไปตามยุคสมัย และในอนาคตจะมีเรื่องที่ตื่นเต้นตามมาอีกมากมายแน่ๆ โดยเฉพาะโลกเสมือนที่เขาเรียกว่า Metaverse ซึ่งตอนนี้ทาง Facebook เองก็เริ่มผลักดันเรื่องนี้อยู่ ผมคิดว่าถ้าใครรู้ก่อนศึกษาก่อนก็จะได้เปรียบกว่าคนอื่นด้วย”

Never Let Go of  Your Dream

        นีโน่นั้นเป็นคนที่เชื่อในจิตวิญญาณของตัวเองเสมอ ดังนั้น ในการทำงานร่วมกับศิลปิน ตัวเขาจะอาศัยความไว้วางใจต่อกัน เพราะการทำเพลงก็เหมือนการลุ้นรางวัล ไม่มีใครบอกได้ว่าคุณจะกลายเป็นศิลปินที่โด่งดังด้วยระยะเวลา 1 ปีหรือ 10 ปี แต่ระหว่างการเดินทางนั้นความสบายใจในการทำงานร่วมกันต้องมาก่อน ซึ่งวันนี้เขาก็เป็นแบบอย่างให้กับคนรุ่นใหม่หลายคนที่มีความมุ่งมั่นในการตามหาความสำเร็จของตัวเอง

        “ความขยันและวินัยเป็นสิ่งสำคัญมากๆ ที่ทำให้ผมเอาชนะความท้าทายในชีวิตมาได้ ที่สำคัญต้องซื่อสัตย์กับตัวเองด้วย ผมแนะนำว่านอกจากต้องขยันแล้ว ต้องเรียนรู้เรื่องรอบตัวให้มากๆ สรรหาความรู้ให้กับตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เพราะตอนนี้เราต่างต้องเจอกับการแข่งขันที่สูงขึ้นกว่าเดิม การเกิดโควิด-19 ระบาดนั้น เหมือนทำให้เรารีเซตทุกอย่างกลับมาที่จุดเริ่มต้นพร้อมกัน ดังนั้น ถ้าคุณคิดอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองหรืออยากเข้ามาทำงานในวงการเพลงหรือศิลปะ ต้องยอมรับว่าไม่มีอะไรที่จะได้มาง่ายๆ ผมบอกกับตัวเองเสมอว่า ไม่มีอะไรสวยหรูในชีวิตจริงหรอก คนอื่นอาจจะคิดว่าผมมีชีวิตที่สนุกมากกับการทำงานเพลง แต่จริงๆ แล้วเบื้องหลังมีหลายมุมหลายเรื่องมากที่ทำให้ผมรู้สึกท้อแท้ ดังนั้น นอกจากจะต้องเอาชนะตัวเองให้ได้แล้ว เรายังต้องต่อสู้กับคนอื่นด้วย”

        การประสบความสำเร็จไม่ใช่สิ่งที่จะลอกเลียนแบบกันได้ ต้นแบบอย่างหนึ่ง เราอาจจะลงเอยเป็นอีกอย่าง เพราะชีวิตแต่ละคนก็มีสิ่งที่หล่อหลอมเป็นตัวเป็นตนขึ้นมาไม่เหมือนกัน

        “ใช่ครับ หลายอย่างไม่มีสูตรตายตัวที่จะทำให้เราเป็นแบบนั้นแบบนี้ได้ อยู่ที่ตัวคุณและความมุมานะเท่านั้นครับ”

        เรากับเขามีความเชื่อไม่ต่างกันตรงที่ว่า หากคนเรามีความพยายามและหมั่นเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ เข้าไว้ แม้จะยังไปไม่ถึงเป้าหมาย แต่อย่างน้อยเราก็ไม่ได้อยู่นิ่งๆ และนั่นก็คือความสำเร็จในขั้นต้นแล้ว