โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

แค่อาหารเสริมไม่พอ “PANANCHITA” บุก 3 น่านน้ำใหม่

การเงินธนาคาร

อัพเดต 11 มิ.ย. 2567 เวลา 14.11 น. • เผยแพร่ 11 มิ.ย. 2567 เวลา 06.42 น.

ปนันท์ชิตา ไม่เสี่ยงพึ่งธุรกิจเดียวแม้ตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโตไม่หยุด เตรียมแตกไลน์ธุรกิจใหม่ เปิดโรงเรียนอนุบาล หอพัก โรงพยาบาลสัตว์ กระจายความเสี่ยง

โลดแล่นในแวดวงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมูลค่า 7.42 หมื่นล้านบาท มานานกว่า 9 ปี สร้างแบรนด์จนติดตลาดจากการทำตลาดออนไลน์สำหรับ “ปนันท์ชิตา อัครทรัพย์ธาดา” นักธุรกิจเจ้าของแบรนด์ PANANCHITA โดยมี Fiber เป็นโพรดักซ์เรือธง พร้อมกับคว้าซุปเปอร์สตาร์เบอร์ใหญ่อย่าง ‘อั้ม-พัชราภา’ ควงคู่มาพร้อมกับ‘เอ-ศุภชัย’ มานั่งแท่นพรีเซ็นเตอร์สร้างยอดขยายถล่มทยานในระยะเวลาสั้นๆ

ซึ่ง “ปนันท์ชิตา” เปิดเผยถึงเบื้องหลังความสำเร็จนี้ว่า ปัจจุบัน “ปนันท์ชิตา” มีสินค้าในพอร์ตประมาณ 20 sku โดยมี Per Fiber เป็นโพรดักซ์ฮีโร่ การเติบโตที่ก้าวกระโดดเกิดจากการเปลี่ยนบิสิเนสโมเดลจากเดิมที่เน้นการทำตัวแทนจำหน่าย หันมาทำ e-commerce ในหลาย ๆ ผลิตภัณฑ์ทำให้ยอดขายปลีกเติบโตอย่างชัดเจนและในปีนี้จะเริ่มขยายช่องทางออฟไลน์มากขึ้นทั้งใน Modern Trade ร้านค้าสุขภาพความงามและร้านสะดวกซื้อ

หนึ่งในปัจจัยหนุนความสำเร็จ ก็คือ การมีดาราเป็นพรีเซ็นเตอร์ไม่ว่าจะเป็น เอกกี้, เป้ย ปานวาด, ธัญญ่า โดยเฉพาะการได้อั้ม-พัชราภา’ และ ‘เอ-ศุภชัย’ เข้ามาร่วมโปรเจกต์ซึ่งผลตอบรับดีมากในทุกโปรเจกต์ บวกกับการทำการตลาดออนไลน์มากขึ้นจากเดิมที่เน้นไปยังสื่อหลัก ทำให้สินค้า Mass ขึ้นและขายดีกว่าเดิม

ล่าสุด บริษัทยังร่วมกับ BUGABOO SHOP ในการทำตลาดออนไลน์เป็นหลัก ความท้าทายของการทำตลาดออนไลน์ คือ เทรนด์มาเร็วไปเร็ว นั่นหมายว่าแบรนด์ต้องดู Trend และอัพเดทแบบ Real Time เพื่อจัดโปรส่งเสริมการขายให้ทัน เนื่องจากตลาดผลิตภัณฑ์อาหารเสริมหลังโควิดเติบโตกว่าเดิมอย่างมากจากพฤติกรรมคนที่ดูแลสุขภาพมากขึ้น ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น

ทำให้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกลายเป็นปัจจัยหนึ่งของชีวิตที่จำเป็น เพราะร่างกายต้องการสารสำคัญที่ถูกใช้ไปทุกวัน หากไม่มีการเสริมเข้าไปก็จะมีแต่สึกหรอ

“รถยนต์ยังมีอะไหล่เปลี่ยนแต่คนไม่มีอะไรเปลี่ยน ดังนั้น เราจะต้องดูแลตัวเองก่อนที่จะป่วย เดี๋ยวนี้คนเข้าถึงข้อมูลและรักตัวเองมากขึ้น เราจึงขายง่ายขึ้น ซึ่งเทรนด์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารตอนนี้เติบโตทั้งเพื่อสุขภาพและเพื่อความงามควบคู่กัน

*ปีนี้เราตั้งเป้าเติบโตแตะเกือบ ๆ พันล้านจากการส่งเสริมการขาย “สิ่งไหนที่ทำให้ขายดีและขายง่ายเราทำแน่นอน” นอกจากนี้ยังมีการทำตลาดต่างประเทศโดยจะเริ่มส่งออกไปประเทศจีน กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และลาว ทั้งในตลาดอีคอมเมิร์ซผ่านตัวแทนจำหน่ายด้วย”*

อย่างไรก็ตามแม้จะประสบความสำเร็จอย่างมากในธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แต่ปนันท์ชิตากลับมองว่าการมีธุรกิจเดียวในมือแม้จะมีโพรดักซ์ในพอร์ตหลายตัวแต่ก็เสี่ยงเกินไป นำมาซึ่งการตัดสินใจครั้งใหญ่ในการก้าวเท้าออกจาก Comfort zone ไปยังน่านน้ำใหม่ ทั้งโรงเรียนอนุบาล อพาร์ทเม้นท์ ขยายโรงงานผลิต ร้านสปา และโรงพยาบาลสัตว์เลี้ยง

ปนันท์ชิตา

“การแตกไลน์ไปยังธุรกิจใหม่ ๆ ก็คือการกระจายความเสี่ยง “การมีบ่อหลายบ่อมาช่วยกันเติมน้ำให้เต็ม” บ่อไหนแห้งเราก็จะยังมีน้ำเข้าไปเติมก็ดีกว่ามีบ่อเดียวอยู่แล้ว ปีนี้เรามีการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจอีกหลายธุรกิจเพื่อกระจายความเสี่ยง

ตามแผนคือ เปิดโรงเรียนอนุบาล เพราะโรงเรียนที่เราถูกใจในย่านคลอง 3 หรือคลองหลวงไม่มี ทำให้ลูกของเราต้องไปเรียนไกลมาก เรามีแพชชั่นแรกเริ่มคืออยากทำโรงเรียนให้ลูกได้เรียนในโรงเรียนที่เราสร้าง บวกกับแต่ละปีมีเด็กเกิดใหม่เยอะ พ่อแม่ยุคใหม่ต้องการความสะดวกสบาย และหาสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกเพราะฉะนั้นมีโอกาสเติบโตอยู่แล้ว

ส่วน อพาร์ทเมนต์ เรามองว่ายังมีโอกาสจากดีมานด์ที่ยังมีอยู่ต่อเนื่อง และสามารถส่งต่อเป็นสินทรัพย์ให้ลูกหลานในอนาคตได้ ส่วน โรงพยาบาลสัตว์ ยังมีโอกาสเติบโตอย่างมากจากการเพิ่มขึ้นของคนรักสัตว์เยอะ คนที่ไม่แต่งงานและไม่มีลูกหันมาเลี้ยงสัตว์เยอะขึ้น

ตามแผนคาดว่าโรงเรียนอนุบาลจะสามารถเปิดบริการได้ในปีนี้ อพาร์ทเมนต์น่าจะสร้างเสร็จในปี 2568 ส่วนโรงพยาบาลสัตว์ไม่เกิน 2 ปีเพราะตอนนี้เรากำลังรอสัตวแพทย์ที่จะเข้ามาร่วมงานกัน นอกจากนี้ยังมีธุรกิจสปาและการลงทุนขยายโรงงานอยู่ในแผนอีกด้วย”

📌 อ่านข่าว แวดวงธุรกิจ ที่น่าสนใจ ทั้งหมด ได้ที่นี่ 📌

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...