โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

อาชญากรรม

ยิงเมียกับสาวคนสนิท สางปมแค้นรักสามเส้า ช็อกอยู่กิน 3 ผัวเมีย

ข่าวช่อง8

เผยแพร่ 21 ก.ค. 2567 เวลา 15.14 น. • RS PCL

จากกรณี ตำรวจ สภ.เด่นชัย รับแจ้งเหตุยิงกันภายในสวนทุเรียนบนเขาสูง ในพื้นที่ ต.ผามูบ อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ต่อมาเจ้าหน้าที่กู้ภัยและตำรวจได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ทราบว่าผู้ที่ถูกยิงบาดเจ็บ เป็นหญิงสาว 2 ราย คือ 1. นางสาวอุบลรัตน์ อายุ 28 ปี ถูกยิงเข้าบริเวณหัวเข่าทั้ง 2 ข้าง และ 2. นางสาววราภรณ์ อายุ 24 ปี ถูกยิงเข้าราวนมซ้ายบาดเจ็บสาหัส จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่าทั้งสองคนเป็นแฟนกัน ส่วนผู้ก่อเหตุ ต่อมาทราบว่า คือนายสงกานต์ อายุ 44 ปี เป็นอดีตสามีของนางสาวอุบลรัตน์ ซึ่งก่อนหน้านี้ นางอุบลรัตน์เคยเป็นแฟนสาวของนายสงกานต์มาก่อน ก่อนจะเลิกชอบผู้ชายและหันมาคบหาผู้หญิงเพศเดียวกับ คือ นางสาววราภรณ์

ส่วนชนวนเหตุที่นายสงกานต์ ได้ก่อเหตุยิงหญิงสาวทั้ง 2 ราย ยังไม่ทราบแน่ชัดแต่คาดว่า น่าจะเกิดจากอาการหลอนยาเสพติด ประกอบกับเกิดความหึงหวงที่ผู้ก่อเหตุพยายามง้อขอคืนดีนางสาวอุบลรัตน์แต่ไม่สำเร็จ จึงบุกมายิง ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีเข้าสวนทุเรียน ซึ่งจนถึงขณะนี้ตำรวจได้ส่งกำลังตำรวจกว่า 50 นาย ขึ้นไปบนสวนทุเรียน เพื่อติดตามไล่ล่าแต่จนถึงขณะนี้ยังไม่พบตัวผู้ก่อเหตุ

ล่าสุดวันนี้ทีมข่าวได้เดินทางขึ้นไปยังบ้านจุดที่เกิดเหตุซึ่งอยู่บนเขาสูง พบว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมามีกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองนำโดยนายภูริวัจน์ นายอำเภอลับแล ได้ขึ้นไปตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุเพื่อติดตามหาตัวคนร้ายเพิ่มเติม

นอกจากนี้ยังได้ขึ้นไปตรวจค้นบริเวณบ้านพักจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นจุดที่ผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธปืนลูกซองยิงอดีตแฟนสาวและสาวคนสนิทของแฟนสาวบาดเจ็บอีกด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่และทีมข่าวพบ คราบเลือดอยู่บนบ้านพักชั้น 2 นอกจากนี้ยังพบอุปกรณ์เสพยาเสพติดจำนวนมาก รวมไปถึง ถุงอาหารไม่ว่าจะเป็น เนื้อหมู เนื้อไก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และฟักทอง วางอยู่บนบ้าน ซึ่งจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นถุงอาหารของคนร้ายที่หลังจากก่อเหตุเมื่อคืนที่ผ่านมาได้เดินทางย้อนกลับมาบ้านหลังเกิดเหตุอีกครั้ง ซึ่งเป็นบ้านพักของตัวผู้ก่อเหตุเอง ก่อนจะหลบหนีไปอีกครั้งเมื่อช่วงเช้า

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ยังพาทีมข่าวไปตรวจสอบขนำอีก 1 หลัง ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 50 เมตร โดยเจ้าหน้าที่ได้ขึ้นไปตรวจพบว่า มีอุปกรณ์เสพยาจำนวนมากอยู่บนขนำเช่นเดียวกัน ส่วนบริเวณเต็นท์นอนใต้ขนำ เจ้าหน้าที่ยังไปพบกระดาษลังซึ่งมีข้อความที่ผู้ก่อเหตุเขียนทิ้งไว้เพิ่มเติมอีกด้วย ในข้อความมีการระบุไว้ว่า “อาจจะมองเป็นคนร้ายๆ แต่กับคนที่กูรักกูไม่เคยคิดทำร้ายหรือทรยศให้เสียใจแน่นอน“

ซึ่งคาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเดินทาง ย้อนกลับมาพักที่บ้านหลังเกิดเหตุและมาแอบนอนอยู่ที่ขนำใกล้บ้านของตัวเองเมื่อคืนนี้ ก่อนที่จะไหวตัวทัน หลบหนีไปในช่วงเช้าขณะเจ้าหน้าที่บุกเข้าตรวจค้น

ขณะเดียวกันทีมข่าวลงพื้นที่มาพูดคุยกับนายจรูญ อายุ 67 ปี พ่อของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า นายสงกานต์ ลูกชายของตนเองนั้น อาศัยอยู่บ้านคนละหลังกับตนเอง โดยลูกชายอาศัยอยู่กับภรรยา 2 คนก็คือ น.ส.อุบลรัตน์ กับ น.ส.วราภรณ์ ก็อยู่กันแบบ 3 สามีภรรยา

ส่วนตอนที่เกิดเหตุ น.ส.วราภรณ์ โทรศัพท์มาบอกพ่อว่า นายสงกรานต์ทำปืนลั่นใส่ น.ส.อุบลรัตน์ กับ น.ส.วราภรณ์ จนได้รับบาดเจ็บ หลังจากทราบเรื่องพ่อก็โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปยังที่เกิดเหตุ

ส่วนเรื่องที่ว่าลูกชายหลอนยาแล้วกลัวว่าคนในครอบครัวจะแจ้งตำรวจมาจับนั้น พ่อยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะลูกชายไม่ได้เดินทางมาที่บ้านของพ่อนานแล้ว และส่วนใหญ่ก็จะอาศัยอยู่กับภรรยาทั้ง 2 คนบนเขา

ส่วนประเด็นที่มีข้อมูลว่าลูกชายของตนเองนั้นขู่จะเอาชีวิตแม่ เพราะกลัวว่าแม่จะแจ้งตำรวจมาจับนั้น พ่อระบุว่า เป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น เพราะก่อนที่จะเกิดเหตุลูกชายไม่ได้เข้ามาหาหรือมาต่อว่าแม่แต่อย่างใด ตัวพ่อเองยอมรับว่าที่ผ่านมาลูกเคยเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและเคยไป บำบัดยาเสพติดมา 4 ครั้งแล้ว แต่ปัจจุบันพ่อไม่ทราบว่าลูกชายยังเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่ และคิดว่า ลูกชายน่าจะเมาเหล้ามากกว่า

หากลูกชายดูข่าวอยู่ก็อยากจะให้ลูกชายเข้ามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจซะ โทษหนักจะได้เป็นเบา

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...