มหากาพย์คดีฉาว วัดไร่ขิง ‘ทิดแย้ม-สีกาเก็น’ สะเทือนวงการสงฆ์
The Bangkok Insight
อัพเดต 28 พ.ค. เวลา 02.01 น. • เผยแพร่ 28 พ.ค. เวลา 02.01 น. • The Bangkok Insightมหากาพย์คดีฉาว วัดไร่ขิง "ทิดแย้ม-สีกาเก็น-อดีตพระมหาเอกพจน์" กับเส้นทางเงินพนันออนไลน์ สะเทือนวงการสงฆ์
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา วงการสงฆ์และสาธารณชนต้องเผชิญกับข่าวฉาวระดับชาติที่เชื่อมโยงอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง "ทิดแย้ม" หรือ พระธรรมวชิรานุวัตร และ "สีกาเก็น" หรือ นางสาวอรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ ผู้เป็นคนสนิทของทิดแย้ม รวมถึง "อดีตพระมหาเอกพจน์" หรือ นายเอกพจน์ ผู้ที่เคยเป็นคนใกล้ชิดของทิดแย้ม หลังพบหลักฐานและเส้นทางการเงินที่บ่งชี้ว่ามีการยักยอกเงินวัดนับร้อยล้านบาท ไปเกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์
เหตุการณ์นี้เริ่มต้นจากการที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ออกหมายจับอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงในข้อหายักยอกเงินวัดกว่า 300 ล้านบาทเพื่อไปเล่นพนันออนไลน์ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการขยายผลคดีที่เผยให้เห็นความสัมพันธ์ซับซ้อนและเครือข่ายทางการเงินอันมหาศาล
ฉันทุ่มกับชีวิตเธอหมด
การสืบสวนสอบสวนของ CIB ได้ขยายผลและเปิดเผยหลักฐานสำคัญหลายชิ้น โดยเฉพาะคลิปเสียงการสนทนาระหว่าง "ทิดแย้ม" และ "สีกาเก็น" ที่สีกาเก็นได้อ้อนวอนขอเงินจากทิดแย้มเพื่อนำไปใช้หนี้พนันออนไลน์ถึง 2 ล้านบาท ซึ่งในคลิปเสียงดังกล่าว ทิดแย้มได้ระบุว่า "ฉันทุ่มไปกับชีวิตเธอหมด" ถ้อยคำนี้ไม่เพียงตอกย้ำถึงความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง แต่ยังชี้ให้เห็นถึงบทบาทของสีกาเก็นในเรื่องการเงินที่เกี่ยวข้องกับการพนันอย่างชัดเจน
เส้นทางเงินสีกาเก็น
ยิ่งไปกว่านั้น การตรวจสอบเส้นทางการเงินในบัญชีของ "สีกาเก็น" ตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา ได้เผยให้เห็นถึงเงินหมุนเวียนรวมกว่า 2,000 ล้านบาท เงินจำนวนมหาศาลนี้มาจาก 4 ช่องทางหลัก ได้แก่ การฝากเงินสดเข้าบัญชี, การรับโอนเงินโดยตรงจากอดีตเจ้าอาวาส, การโอนเงินจากอดีตพระมหาเอกพจน์ และช่องทางอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียด การพบเงินหมุนเวียนจำนวนมากเช่นนี้ ทำให้เจ้าหน้าที่เชื่อว่า นางสาวอรัญญาวรรณ เป็นเพียงบัญชีม้า หรือมีส่วนรู้เห็นกับขบวนการฟอกเงินขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์
"ทิดแย้ม" โอนเงินให้สีกาเก็นนับร้อยครั้ง
นอกจากสีกาเก็นแล้ว บทบาทของ "อดีตพระมหาเอกพจน์" ก็เป็นที่จับตาเช่นกัน แม้เบื้องต้นอดีตพระมหาเอกพจน์จะยังคงปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน แต่จากข้อมูลด้านการข่าว พบว่ามีการโอนเงินจากอดีตเจ้าอาวาสไปให้อดีตพระมหาเอกพจน์จำนวนมากถึงกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งเงินส่วนหนึ่งถูกนำไปซื้อรถหรูมาถวายทิดแย้ม การที่อดีตพระมหาเอกพจน์ชิงลาสึกหนีล่องหนไปในช่วงแรก ทำให้การสืบสวนค่อนข้างยากลำบาก แต่ในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็ได้ตัวมาสอบปากคำ
สอบสวนเบื้องต้น นายเอกพจน์ ให้การรับสารภาพว่า เมื่อช่วงกลางปี 2567 นายแย้ม เริ่มให้นำเงินไปฝากเข้าบัญชีธนาคารของ นางสาวอรัญญาวรรณ เป็นจำนวนนับร้อยครั้ง ซึ่งในแต่ละครั้งมียอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นจนไปถึงหลักหลายแสนบาท โดยไม่รู้ว่ายอดเงินที่นำไปฝากเข้าบัญชีนั้นจะเป็นบัญชีที่ไปเกี่ยวข้องกับเครื่อข่ายเว็บพนันออนไลน์
ตัวการใหญ่หลบหนีนอกประเทศ
ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงเดินหน้าสอบสวนและขยายผลไปยังผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ทั้งในส่วนของผู้ที่เกี่ยวข้องกับการยักยอกเงินวัด และตัวการใหญ่ในเครือข่ายพนันออนไลน์ที่คาดว่าหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง ได้ยืนยันว่าภายในสัปดาห์นี้จะมีความชัดเจนมากขึ้น และมีหลักฐานเพียงพอที่จะสามารถเอาผิด "ทิดแย้ม" พร้อมพวกได้ คดีนี้จึงยังคงเป็นที่จับตาของสังคมอย่างใกล้ชิด เพื่อรอติดตามความคืบหน้าและการดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไปอย่างไม่ลดละ
สะเทือนวงการสงฆ์ ความศรัทธา "หลวงพ่อไร่ขิง"
คดีนี้ไม่เพียงสร้างความสั่นสะเทือนในวงการสงฆ์เท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม แม้จะมีข่าวฉาวเกิดขึ้น แต่พุทธศาสนิกชนจำนวนมากยังคงหลั่งไหลเข้ากราบไหว้ "หลวงพ่อไร่ขิง" ด้วยความศรัทธา โดยเชื่อมั่นว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นเพียงพฤติกรรมส่วนบุคคลของผู้ที่อยู่ในผ้าเหลือง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความศักดิ์สิทธิ์ขององค์หลวงพ่อ หรือบารมีของวัดแต่อย่างใด
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เปิดประวัติ 'เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง' เจ้าคณะภาค 14
- จับเพิ่ม! สาวสนับสนุน ‘เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง’ ยักยอกเงินวัด
- เปิดเส้นเงินคดีเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ยักยอก 300 ล้าน เล่นพนันออนไลน์
ติดตามเราได้ที่