สุดอาลัย คนบันเทิงร่วมส่ง คุณแม่งามทิพย์ ครั้งสุดท้าย พร้อมให้กำลังใจครอบครัว บอย ปกรณ์-หน่อง ธนา-ภัทร์-น้องวันใหม่

แม้จะเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเพียงใด แต่คนใน ครอบครัวฉัตรบริรักษ์ ยังคงได้รับกำลังใจจากคนรอบข้างเสมอมา ซึ่งอาจจะช่วยเยียวยาหัวใจ และทำให้เข้มแข็งขึ้นอีกครั้งได้ในวันที่แม่ไม่อยู่ โดยวันนี้ (14 มิ.ย. 68) เป็นวันประกอบพิธีฌาปนกิจของ คุณแม่งามทิพย์ ฉัตรบริรักษ์ หลังประกอบพิธีทางศาสนา-สวดอภิธรรม 7 คืน ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 68 ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัวและเพื่อนร่วมวงการ ซึ่งที่ผ่านมามีคนบันเทิงเดินทางไปร่วมงานอยู่เสมอ จนถึงวันสุดท้ายก็ได้มาร่วมส่ง คุณแม่งามทิพย์ กันอย่างมากมาย อาทิ อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ , โบว์ เมลดา , มิ้นต์ ชาลิดา, เป็ก เปรมณัช , นิว นภัสสร, ปราง กัญญ์ณรัณ , โอบ โอบนิธิ , อู๋ ธนากร , ติ๊ก กัญญารัตน์ , แท่ง ศักดิ์สิทธิ์ , ป๋อง กพล , กาละแมร์ พัชรศรี ฯลฯ เป็นต้น

หลังจากเคลื่อนร่าง คุณแม่งามทิพย์ ฉัตรบริรักษ์ จาก ศาลาเกสนี มายังเมรุ 2 ณ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน ก็เริ่มการแสดงโขนหน้าไฟ ตอน นางสุพรรณมัจฉาจากลาลูก และหนุมานพบกับมัจฉานุ ตามด้วยพิธีทอดผ้าบังสุกุล และกล่าวประวัติ คุณแม่งามทิพย์ โดยน้องวันใหม่ ก่อนที่ลูก ๆ ทั้ง 4 คน บอย ปกรณ์-หน่อง ธนา-ภัทร์-น้องวันใหม่ จะกล่าวคำอาลัยคุณแม่เป็นครั้งสุดท้าย โดยเริ่มต้นที่ลูกสาวคนเล็ก น้องวันใหม่ แต่ด้วยความเศร้าจึงไม่สามารถพูดต่อได้และให้พี่ชาย หน่อง ธนา ขึ้นมากล่าวแทน

หน่อง เริ่มกล่าวคำอำลาแม่ “ขอบคุณทุกคนนะครับ ขอบคุณแทนคุณแม่ที่ทุกคนมาร่วมส่งกันเยอะเลย ชีวิตของผมมีความสำเร็จอยู่หลายเรื่อง โดยที่ผมลงมือทำ แต่มีเรื่องที่ผมภาคภูมิใจมากที่สุดในชีวิต โดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย คือการได้เกิดเป็นลูกของแม่ และผมก็คิดว่าแม่คงภูมิใจที่ได้เห็นลูก ๆ ทั้ง 4 คน เติบโตขึ้นมาอย่างดี ส่วนลูกสาวของคุณแม่คนนี้ น้องวันใหม่ คนที่แม่รัก และเป็นห่วงมากที่สุด พวกเรา 3 คน อยากบอกแม่ว่า แม่ไม่ต้องห่วงเลยนะ พี่ชายทั้ง 3 คน ของเขาจะดูแลอย่างดีแน่นอน คอยมองจากข้างบนนะแม่ รักแม่มาก ๆ”

ภัทร์ กล่าวคำอำลา “อยากจะขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกคนที่มาร่วมงานและขอบคุณพยาบาลจากโรงพยาบาลรามาธิบดีที่คอยดูแลแม่มาตลอด 6 ปีก่อนหน้านี้ ตอนเด็ก ๆ ผมเคยได้ยินคำพูดมาตลอดว่า คนเราอยู่ให้คนรักจากไปให้คนคิดถึง ซึ่งแม่เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของประโยคนี้ แม่เป็นคนที่ใจดีมาก ๆ ไม่ว่าใครเดือดร้อนถ้ามาหาแม่ แม่ก็ยินดีช่วยเหลือเสมอ แม่ยอมเสียสละและยอมลำบากแทนได้ และแม่เป็นคนที่เข้มแข็งไม่ว่าจะเจออะไรแม่ก็จะผ่านไปได้ ผมกับแม่เคยคุยกันตอนคนเริ่มรู้จักแม่ มีหลายคำถามถามว่าแม่เลี้ยงลูกยังไง จริง ๆ มันไม่ได้มีความพิเศษอะไรบ้านเราเป็นครอบครัวธรรมดา แต่ถ้าต้องตอบคำถามนั้นในตอนนี้ พวกผมจะตอบเลยว่าผมมีแม่เป็นตัวอย่างที่ดีในทุก ๆ แนวทาง เวลามีคนมาชื่นชมว่าแม่เก่งนะเลี้ยงลูกสามคน แม่เลี้ยงลูกยังไง มีคนมาชมว่ามีแม่เป็นต้นแบบในการเลี้ยงลูก ผมภูมิใจมากที่ได้เกิดเป็นลูกแม่ และดีใจมากที่อย่างน้อยครอบครัวเราได้เป็นตัวอย่างให้กับครอบครัวคนอื่น แม่ยังคงเป็นห่วงพวกผมมาตลอดแม้แต่เวลาสุดท้ายของชีวิตของเขา เขาก็พยายามจะสร้างทุกอย่างไว้ให้ ผมก็จะบอกกับเขาว่าแม่ไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว พวกผมดูแลตัวเองได้ แต่สิ่งหนึ่งที่แม่สร้างไว้ได้ดีที่สุดคือ การที่ผมมีพี่น้องที่ดี ดังนั้นแม่ไม่ต้องห่วงเลย พวกผมไม่มีวันทิ้งกันแน่นอน สุดท้ายนี้ผมคงคิดถึงแม่มาก ๆ เพราะหลายหลายเรื่องราวก็คงไม่มีใครมารับฟังผมแล้ว ไม่มีใครที่จะเข้าใจผมได้เท่าแม่อีกแล้ว ขอให้การเดินทางครั้งใหม่ของแม่มีแต่ความสุขพบเจอแต่แสงสว่าง ให้แม่ได้ไปเจอกับป๊าตามที่แม่เคยบอกไว้และเชื่อว่า ไม่แม่ว่าจะมองพวกผมทั้ง 4 คน มาจากที่ไหนแม่จะต้องภูมิใจ แม่จะอยู่ในใจภัทร์ตลอดไป กลับบ้านเรานะแม่”

วันใหม่ กล่าวคำอำลาแม่ทั้งน้ำตา “หนูอยากจะขอบคุณคุณแม่ หนูขอบคุณคุณแม่นะคะที่ทำให้ชีวิตหนูดีขึ้นที่พาหนูมาอยู่ในบ้านดี ๆ หนูรักแม่นะคะ แม่เป็นคนที่เก่งที่สุดของหนูเลย แม่เป็นตัวอย่างที่ดีมาก ๆ หนูอยากขอบคุณคุณแม่มาก ๆ ที่ทำให้หนูมีวันนี้ได้แม่สอนทุกอย่าง ให้หนูรู้จักดูแลตัวเอง ตอนนี้แม่ไม่อยู่แล้วหนูจะทำให้แม่เห็นนะคะ แม่คอยดูอยู่บนฟ้าได้เลย หนูจะทำให้แม่เห็น ว่าหนูจะ เป็นคนเก่งเหมือนแม่ คุณแม่มาหาหนูบ่อย ๆ นะ หนูรักแม่ที่สุดเลยค่ะ หนูขอโทษคุณแม่นะถ้าหนูดื้อ หนูจะไม่ทำให้แม่ผิดหวังนะ รักแม่ที่สุดเลยค่ะ”

ด้านพี่ชายคนโต บอย ปกรณ์ กล่าวคำอำลาคุณแม่เป็นคนสุดท้าย “สำหรับผมไม่ต้องบอกแม่คงจะรู้ว่าแม่คือทุกอย่างในชีวิตของบอย แม่คือนักสู้ตั้งแต่ที่ผมโตมา แม่สู้ให้ผมเห็นมาตลอด ภาพจำที่ผมเห็นก็คือแม่ออกจากบ้านไปตอนเช้ากลับมาตอนดึก ๆ ทุกครั้งที่แม่กลับมาแม่ไม่เคยแสดงอาการเหนื่อยให้ผมเห็นเลย จนผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแม่ออกไปทำอะไร แม่เหนื่อยแค่ไหน จนวันนึงผมได้มาช่วยงานแม่ ผมถึงได้รู้ว่าสิ่งที่แม่ทำอยู่ทุก ๆ วัน มันโคตรเหนื่อยเลย แต่แม่เป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนเดียวแม่ทำได้ยังไง ผมเคยถามแม่ว่าแม่ทำไหวได้ยังไง ตอนนั้นยังไม่มีวันใหม่ แม่บอกว่าแม่ต้องเลี้ยงดูพวกแก 3 คนไง สิ่งที่แม่กลัวที่สุด คือ แม่กลัวตาย แม่กลัวว่าลูกสามคนจะอยู่ยังไง แต่ว่าต่อให้แม่จะเหนื่อยแค่ไหนพอผมโตขึ้นมาพวกผม 3 คนต่างมีชีวิตออกไปทำงานข้างนอก แม่ก็ยังเป็นแม่ที่ทำงานหนักอยู่เหมือนเดิม ไม่ว่าพวกผมจะดูแลตัวเองได้มากแค่ไหนแม่ก็ยังไม่เคยที่จะเพลาการทำงานของตัวเองลงเลย แต่ต่อให้แม่จะทำงานแค่ไหนแม่ไม่เคยลืมที่จะดูแลความรู้สึกของผม 3 คนรวมถึงวันใหม่ด้วย ในวันที่มีวันใหม่เข้ามาอยู่กับพวกเรา ทุกครั้งที่ผมกลับมาจากถ่ายละครดึก ๆ แม่จะรอ ถามว่าเหนื่อยไหมกินอะไรมาหรือยัง กินสาลี่ไหมเดี๋ยวแม่ปลอกให้ ผมไม่เคยกินสาสี่ที่ไหนอร่อยเท่าที่แม่ปลอกให้กินเลย สำหรับผมแล้วแม่เป็นเหมือนเข็มทิศนำทางในชีวิตผมมาตลอดไม่ว่าผมจะทำอะไร ผมจะเจออุปสรรค ผมต้องการคำปรึกษา ถ้าผมหันมาจะเห็นแม่อยู่ข้าง ๆ ตลอด ผมไม่เคยอายใครที่ต้องบอกเขาว่า ผมต้องถามแม่ก่อน ต้องปรึกษาแม่ก่อน เพราะผมมั่นใจตลอดว่าสิ่งที่แม่แนะนำมาคือสิ่งที่ดีที่สุด ถึงแม้วันนี้แม่จะไม่ได้อยู่เป็นเข็มทิศให้บอยแล้ว บอยก็อยากบอกแม่นะว่าไม่ต้องห่วง ไม่ต้องห่วงอะไรบอยอีก เพราะอะไรรู้ไหมแม่ เพราะว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาที่บอยเดินตามแม่มาตลอด บอยจดจำเส้นทางทุกอย่างที่แม่บอกไว้ให้หมดแล้ว ทุกสิ่งที่แม่สอนที่แม่เคยให้บอยเรียนรู้จากแม่บอยจำได้หมดแล้ว ถึงบอยจะไม่ได้เดินเก่งเท่าแม่ แต่บอยมั่นใจว่าสิ่งที่แม่สอนไว้ บอยจะไม่หลงทางแน่นอน สุดท้ายถ้าแม่ได้ยิน บอยอยากจะให้คำมั่นสัญญากับแม่ไว้ตรงนี้ว่าบอยจะดูแล หน่อง-ภัทร์-วันใหม่ ต่อให้พวกมันจะออกไปมีครอบครัวของตัวเอง บอยก็จะไม่ทิ้งพวกมัน เพราะว่าความรักที่แม่ทิ้งไว้ให้พวกบอยและคอยสอนให้พวกบอยรักกัน คือสิ่งที่มีค่าที่สุดที่แม่ทิ้งเอาไว้ กลับมาหาบ้างไป 7 วันแล้วยังไม่เข้าฝันเลยแม่ มันมีความสุขอยู่อย่างหนึ่งของแม่ เรียกว่าเป็นความสุขที่สุดอย่างหนึ่งเลย โดยเฉพาะตั้งแต่บ้านเรามีวันใหม่ คือ การที่แม่ได้นั่งถ่ายคลิปดูลูกสาวของตัวเองร้องเพลง พอได้คลิปมาแม่ก็จะเปิดวนดูอยู่คนเดียว ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ วันนี้ลูกสาวแม่จะร้องเพลงส่งแม่ขึ้นสวรรค์นะ แม่เปิดกล้องแล้วก็ไปดูข้างบนนั้นนะ”

จากนั้นน้องวันใหม่จึงได้ร้องเพลง “สวยงามเสมอ” ซึ่งเป็นเพลงที่คุณแม่ชอบที่สุด ก่อนจะเชิญแขกผู้มีเกียรติวางดอกไม้จันทน์ร่วมส่ง คุณแม่งามทิพย์ ฉัตรบริรักษ์ เป็นครั้งสุดท้าย.-ไนน์เอ็นเตอร์เทน