โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

อดีตพยาบาล วัย 65 ปี ถูกหลอกให้รักสูญเงิน 12 ล้าน

ข่าวช่องวัน 31

อัพเดต 16 มิ.ย. เวลา 04.05 น. • เผยแพร่ 16 มิ.ย. เวลา 04.08 น.

เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 68 ที่สำนักงานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ถ.แจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 65 ปี อดีตพยาบาลเกษียณอายุราชการ ได้นำเอกสารหลักฐานต่างๆ เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม นางชฎาภรณ์ พงศ์ทองเมือง ที่ปรึกษามูลนิธิฯ เพื่อขอให้ช่วยเหลือ หลังถูกหญิงสาวรายหนึ่งทำทีเข้ามาพูดคุยสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาว ก่อนหลอกให้รัก ชักชวนร่วมลงทุนในระบบคริปโตฯ สูญเงินไปเกือบ 12 ล้านบาท

ผู้เสียหาย กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 67 มีหญิงสาวชื่อ น.ส.ดา อายุ 40 ปี ทักข้อความผ่าน Tiktok มาพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว บอกว่าเหงา อยากมีเพื่อนคุย โดยไม่เคยพบเจอตัวจริง ผ่านไป 1 สัปดาห์ ก็ชวนลงทุนร่วมกับป้าที่ทำงานในประเทศสิงคโปร์ อ้างว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน และถูกต้องตามกฎหมาย ให้มาลงทุนร่วมกัน นําเงินบาทไทยไปซื้อสกุลเงินดิจิทัล USDT ครั้งแรกที่โอนไป เมื่อวันที่ 10 มกราคม 68 จำนวน 5,000 บาท 1 เดือนต่อมาได้กำไรกลับมา 6,000 บาท จากนั้น ตนได้มีการโอนเงินไปอีก 14 ครั้ง ในระยะเวลา 3 เดือน (กุมภาพันธ์-เมษายน) เยอะสุดที่เคยโอนเงิน คือ จำนวน 1.6 ล้านบาท รวมทั้งสิ้นเป็นเงินเกือบ 12 ล้านบาท

พอถึงช่วงปลายเดือนเมษายน ตนต้องการถอนเงิน แต่ น.ส.ดา แจ้งว่าต้องโอนเงินเพิ่ม “ค่าภาษี” อีก 10% ของยอดเงินลงทุน คือจำนวนเงิน 5 ล้านบาท ถึงจะถอนเงินได้ ตนจึงบอกว่าไม่มีเงิน ทำให้ น.ส.ดา เงียบหายไป ตนเชื่อว่าน่าจะถูกหลอกแล้ว ส่วนสาเหตุที่ตนเชื่อใจเพราะเห็นรูป น.ส.ดา ดูมีไลฟ์สไตล์ดี เป็นคนปากหวาน ชอบบอกรัก บอกคิดถึง ตลอดเวลาที่คุยกัน น.ส.ดา ไม่เคยให้นัดเจอหรือแม้แต่กระทั่งวิดีโอคอล ตนพยายามโทรหาก็ไม่เคยรับสาย ทำได้เพียงแชทพูดคุยกันเท่านั้น แม้แต่ทุกวันนี้ก็ยังพูดคุยกันอยู่เพียงแต่น.ส.ดา เริ่มตีตัวออกห่างและพูดคุยน้อยลง หลังจากตนขอถอนเงินและบอกว่าไม่มีเงินลงทุนแล้ว

ซึ่งวันนี้ตนเดินทางมาร้องมูลนิธิฯ เพราะตนไม่มีที่ปรึกษา เบื้องต้นยังไม่ได้แจ้งความเพราะไม่รู้จะไปปรึกษาใคร หากสามารถทำตามกระบวนการตามกฎหมายได้ก็อยากจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ด้าน นายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิฯ กล่าวว่า คดีนี้มีมูลค่าความเสียหายมากเกือบ 12 ล้านบาท ซึ่งวันจันทร์ (16 มิ.ย.) ตนจะพาผู้เสียหายไปแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ เช็กว่าผู้หญิงในภาพมีตัวตนจริงหรือไม่ หากมีตัวตนจริงคงต้องให้ผู้เสียหายพูดคุยกันเอง แต่ตามกฎหมายคงต้องตรวจสอบว่าการลงทุนนี้มีจริงหรือไม่อย่างไร.

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...