จับตา 6 หุ้นแบงก์ใหญ่ จ่ายปันผลครึ่งปีแรก

ประเมินการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลของ 6 หุ้นธนาคาร ช่วงครึ่งแรก ปี 2568

ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมของทุกปี หนึ่งในไฮไลต์สำคัญที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม คือการประกาศผลประกอบการครึ่งปีแรก ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ มักถูกใช้เป็นสัญญาณชี้ทิศทางเศรษฐกิจไทย และปี 2568 นี้ก็ไม่ต่างกัน ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและทิศทางดอกเบี้ยนโยบายที่ยังไม่แน่นอน หุ้นแบงก์ใหญ่ก็ยังคงเป็นหนึ่งในดัชนีชี้วัดของนักลงทุนไทย

ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของกำไรสุทธิเท่านั้น แต่ยังรวมถึง “เงินปันผลระหว่างกาล” เป็นผลตอบแทนที่นักลงทุนรอคอยเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะในหุ้นแบงก์ขนาดใหญ่ที่มีสถิติการจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอ บทความนี้เราได้รวบรวมข้อมูลคาดการณ์เงินปันผลและผลประกอบการของหุ้นแบงก์มาฝาก

บทวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินว่า ภาพรวมผลประกอบการกลุ่มธนาคารในไตรมาส 2 ปี 2568 จะมีกำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 53,044 ล้านบาท ทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่จะ ลดลง 9.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ปัจจัยกดดันหลักคือเรื่อง NIM (Net Interest Margin) ที่ปรับตัวลดลง รวมถึงสินเชื่อที่ชะลอตัว แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่าการตั้งสำรองและค่าใช้จ่ายดำเนินงานจะปรับตัวลดลง

โดยให้มุมมองการลงทุนหุ้นกลุ่มธนาคาร "เท่ากับตลาด" แม้ว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานจะชะลอตัวลงเล็กน้อย แต่ยังคงอยู่ในระดับที่ไม่น่ากังวล อีกทั้งคาดว่าเงินปันผลสำหรับทั้งปียังคงโดดเด่น พร้อมกันนี้ได้ประเมินเงินปันผลระหว่างกาลของแต่ละธนาคารไว้ดังนี้

1. TTB: ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) คาดอัตราเงินปันผลครึ่งปี 2568 ที่ระดับ 3%

2. KKP: ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) คาดอัตราเงินปันผลครึ่งปี 2568 ที่ระดับ 2.6%

3. TISCO: บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) คาดอัตราเงินปันผลครึ่งปี 2568 ที่ระดับ 4.) 2.0%

4. SCB: บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) คาดอัตราเงินปันผลครึ่งปี 2568 ที่ระดับ 1.7%

5. KBANK: ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) คาดอัตราเงินปันผลครึ่งปี 2568 ที่ระดับ 1.7%

6. BBL: ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) คาดอัตราเงินปันผลครึ่งปี 2568 ที่ระดับ 1.4%

ทั้งนี้ KTB หรือ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ไม่มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล แต่คาดว่าทั้งปีจะจ่ายปันผลที่ระดับ 7.4% โดยปกติแล้วธนาคารต่างๆ จะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไม่มากนัก จะไปเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในการจ่ายเงินปันผลประจำปี

ในขณะที่บทวิเคราะห์ บล. กรุงศรี พัฒนสิน ประเมินว่า หุ้นธนาคาร 7 แห่งที่ศึกษา ได้แก่ BBL, KBANK, KTB, SCB, TTB, KKP และ TISCO จะมีกำไรสุทธิรวมกันอยู่ที่ 51,510 ล้านบาท ลดลง 4% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน และลดลง 12% จากไตรมาสก่อน

กำไรที่ลดลงเพราะรายได้ดอกเบี้ย (NII) ลดลง 8% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน และลดลง 3% จากไตรมาสก่อน เนื่องจาก NIM ที่ 2.89% ลดลงจากไตรมาส 2/2567 ที่ 3.15% และไตรมาส 1/2568 ที่ 2.97% จากการปรับลดลงของ yield on loan ตามอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับลดลง ประกอบกับการขยายสินเชื่อไปยังกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำและการลดภาระดอกเบี้ยให้กับลูกหนี้ในโครงการ คุณสู้ เราช่วย

ส่วนรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (Non-NII) ลดลง 3% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากการลดลงของเงินลงทุน และรายได้ค่าธรรมเนียมด้านตลาดทุน แต่ค่าใช้จ่ายสำรอง (ECL) เพิ่มขึ้น 2% จากความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ทำให้ความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ลดลง

คาดว่า KKP เป็นธนาคารที่มีกำไรสุทธิเติบโตได้ดีที่ 1,080 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.5% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 1.7% จากไตรมาสก่อน สำหรับ SCB คาดว่าจะเป็นธนาคารที่รายงานกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีก่อน แต่ลดลงจากไตรมาสก่อน ส่วนธนาคารที่เหลือน่าจะมีการชะลอการเติบโต

ดังนั้น คงน้ำหนักการลงทุนเป็น Neutral สำหรับกลุ่มธนาคาร มองธีมการลงทุนเป็น Value Play เพราะมีจุดเด่นเรื่องปันผลระดับสูง Dividend Yield คาดที่ 6-9% ต่อปี และจะเห็นว่ามีการปรับเพิ่ม Dividend Payout Ratio อีกด้วย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

• TTW เดินเกมยาวด้วยพลังงานน้ำ ปันผลสูง
• จับตาหุ้นยั่งยืน ESG Rating ปันผลสูง
• กาง 5 หุ้นเด่นติดโผกองทุน Thai ESGX เข้าลงทุน!

ติดตามเราได้ที่

• เว็บไซต์ :https://www.thebangkokinsight.com/
• Facebook :https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
• X : https://twitter.com/BangkokInsight
• Instagram : https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
• Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg