โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ยานยนต์

รู้แล้วอย่าหาทำ! เปิดไฟกระพริบ เวลาฝนตกหนัก ส่งผลร้ายกว่าที่คิด

sanook.com

เผยแพร่ 15 ก.ค. เวลา 02.16 น. • Sanook
กสถานการณ์ที่คนยังเข้าใจผิด นั่นคือ เหตุฝนตกหนักจนทำให้ไม่สามารถมองทางได้เห็น ด้วยความหวังดีและสัญชาตญาณที่อยากให้เพื่อนร่วมทางมองเห็นรถของตนเอง ผู้ขับขี่จำนวนมากมักเลือกที่จะกดปุ่ม

นอกจากเรื่องการเปิดไฟกระพริบ หรือ ไฟผ่าหมาก ข้ามแยกที่ว่าอันตรายแล้ว มีอีกสถานการณ์ที่คนยังเข้าใจผิด นั่นคือ เหตุฝนตกหนักจนทำให้ไม่สามารถมองทางได้เห็น ด้วยความหวังดีและสัญชาตญาณที่อยากให้เพื่อนร่วมทางมองเห็นรถของตนเอง ผู้ขับขี่จำนวนมากมักเลือกที่จะกดปุ่ม "ไฟฉุกเฉิน" หรือ "ไฟผ่าหมาก" ให้กระพริบทั่วคัน แต่คุณทราบหรือไม่ว่า การทำแบบนี้ไม่ปลอดภัยและอาจจะทำให้เกิดการเข้าใจผิด วันนี้ Sanook Auto จะมาบอกว่าทำไมถึงไม่ควรเปิด หากเกิดฝนตกหนักขึ้น

เข้าใจความหมายที่แท้จริงของ ไฟกระพริบ หรือ "ไฟผ่าหมาก"

ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจตรงกันว่า สัญญาณไฟฉุกเฉินหรือไฟผ่าหมากนั้น ถูกออกแบบมาเพื่อความหมายเดียวที่เป็นสากล คือ "การจอดฉุกเฉิน" สัญญาณไฟกระพริบทั่วคันนี้กำลังบอกเพื่อนร่วมทางว่า "รถของฉันจอดนิ่งอยู่กับที่ และอาจเป็นอุปสรรคหรือมีเหตุอันตราย" เช่น รถเสีย, เกิดอุบัติเหตุ หรือจอดในที่อันตราย

การนำมาใช้ในขณะที่รถกำลังเคลื่อนที่ จึงเป็นการสื่อสารที่ผิดเพี้ยนและสร้างความสับสนอย่างมหาศาล และอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุแบบไม่ทันคาดคิด

gettyimages-940070688-170667a

4 หายนะที่อาจเกิดขึ้นจากการเปิดไฟผ่าหมากขณะขับรถ

  • สร้างความสับสน ตัดสินใจผิดพลาด: ลองจินตนาการว่าคุณขับตามหลังรถที่เปิดไฟผ่าหมาก คุณจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าคนขับกำลังจะจอด, รถเสีย, หรือแค่ขับช้าๆ ความลังเลนี้ทำให้การตัดสินใจเบรกหรือเปลี่ยนเลนของคุณผิดพลาดได้ง่าย และอาจนำไปสู่การชนท้ายในที่สุด

  • เป็น "ใบ้" บอกทิศทางไม่ได้: เมื่อไฟฉุกเฉินทำงาน ไฟเลี้ยวซ้าย-ขวาจะถูกปิดการใช้งานโดยปริยาย นั่นหมายความว่าคุณจะสูญเสียความสามารถในการให้สัญญาณเมื่อต้องการเปลี่ยนเลนหรือเลี้ยว ซึ่งอันตรายอย่างยิ่งในสภาวะที่การมองเห็นจำกัดอยู่แล้ว

  • "แย่งซีน" ไฟเบรก: แสงสีเหลืองที่กระพริบตลอดเวลาจะรบกวนสายตาและลดความโดดเด่นของไฟเบรกสีแดง ทำให้ผู้ขับขี่คันหลังสังเกตเห็นการเบรกของคุณได้ช้าลง ซึ่งในสถานการณ์ที่ถนนลื่น การตอบสนองที่ช้าลงเพียงเสี้ยววินาทีก็อาจไม่ทันการณ์

  • เสี่ยงผิดกฎหมายโดยไม่ตั้งใจ: ตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ. 2522 การใช้ไฟฉุกเฉินถูกกำหนดไว้สำหรับกรณีรถเสียหรือจอดเท่านั้น การเปิดไฟฉุกเฉินพร่ำเพรื่อขณะขับขี่จึงถือเป็นการใช้งานผิดประเภทและมีโทษปรับตามกฎหมาย

gettyimages-1296047527-170667

วิธีที่ถูกต้องและปลอดภัยที่สุด เมื่อขับรถกลางสายฝน

เมื่อรู้ถึงอันตรายแล้ว เราควรทำอย่างไรเพื่อให้การขับขี่ปลอดภัยที่สุด? คำตอบนั้นง่ายกว่าที่คิด

  • 1. เปิดไฟหน้ารถ (ไฟต่ำ): นี่คือหัวใจสำคัญที่สุด การเปิดไฟหน้ารถจะช่วยให้รถคันอื่นมองเห็นคุณได้จากระยะไกล ทั้งรถที่สวนมาและรถที่ตามหลังมาผ่านกระจกมองข้าง โดยไม่สร้างความสับสน

  • 2. ลดความเร็ว: ปรับลดความเร็วลงจากปกติ เพื่อให้สามารถควบคุมรถได้ดีขึ้นและมีเวลาในการตัดสินใจมากขึ้น

  • 3. เว้นระยะห่างให้มากขึ้น: ถนนที่เปียกลื่นต้องใช้ระยะเบรกที่ยาวขึ้น ควรทิ้งระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติอย่างน้อย 2-3 เท่า

  • 4. "จอด" แล้วค่อย "เปิด": หากฝนตกหนักจนมองไม่เห็นทางข้างหน้าจริงๆ (ทัศนวิสัยต่ำกว่า 10 เมตร) วิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือการหาที่ปลอดภัยจอดพัก เช่น ปั๊มน้ำมัน, จุดพักรถริมทาง และเมื่อจอดรถสนิทแล้ว จึงค่อยเปิดไฟฉุกเฉิน เพื่อเตือนให้รถคันอื่นทราบว่าคุณจอดอยู่

สุดท้ายเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนเป็นความรับผิดชอบร่วมกัน การใช้สัญญาณไฟต่างๆ ให้ถูกต้องตามความหมายของมันคือสิ่งจำเป็นพื้นฐาน จำไว้ว่า "ไฟหน้า" มีไว้เพื่อให้คนอื่นเห็นขณะ "วิ่ง" ส่วน "ไฟฉุกเฉิน" มีไว้เพื่อให้คนอื่นเห็นขณะ "จอด" มาช่วยกันสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องและส่งต่อข้อมูลนี้ เพื่อให้ทุกการเดินทางในหน้าฝน ปลอดภัยทั้งสำหรับตัวเราและเพื่อนร่วมทางทุกคน อย่าให้เรื่องเข้าใจผิดนี้เกิดเป็นเหตุใหญ่ ดีกว่า

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...