โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

สรุปให้ ใช้ CapCut ตัดต่อ แล้วสิทธิ์ในคลิปเป็นของใคร - CapCut ขอสิทธิ์อะไรบ้าง ?

SpringNews

อัพเดต 21 มิ.ย. เวลา 07.44 น. • เผยแพร่ 21 มิ.ย. เวลา 07.35 น.

ช่วงนี้หลายคนอาจตกใจกับกระแสที่บอกว่าCapCut จะ “ยึด” สิทธิ์ในคลิปที่เราสร้างขึ้น และอาจนำไปใช้หรือขายต่อโดยไม่บอกกล่าว ความกังวลนี้จึงทำให้เกิดกระแส “แบน CapCut” บนโซเชียลอย่างแพร่หลาย กระจายเร็วยิ่งกว่าเชื้อไวรัสซอมบี้

แต่เงื่อนไขใหม่ของ CapCut น่ากลัวอย่างที่วิตกกังวลจริงไหม ? …เราลองมาเจาะเงื่อนไขกัน

CapCut "ไม่ได้ขโมย" ลิขสิทธิ์ของผู้ใช้งาน

ตามเงื่อนไขการใช้งาน (Terms of Service) ที่อัปเดตล่าสุด CapCut ระบุว่า:

“ผู้ใช้งานยังคงเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในคลิป” แปลว่า CapCut ไม่ได้กลายเป็นเจ้าของคลิปเราแบบเบ็ดเสร็จ แต่ทว่า มีเงื่อนไขอะไรบางอย่างเพิ่มเติม

แล้ว CapCut ขอสิทธิ์อะไรบ้าง ?

เมื่อใช้ CapCut หมายความว่า “เราอนุญาตให้แพลตฟอร์มใช้คลิปของเราได้อย่างกว้างขวาง” อาทิ

• ปรับแต่ง แก้ไข ดัดแปลง หรือแสดงผลคลิป
• ใช้เพื่อให้บริการ รวมถึงแสดงผลบนอุปกรณ์ต่างๆ
•ใช้ชื่อ รูปภาพ หรือภาพลักษณ์ของคุณ เพื่อโปรโมท หรือทำ Sponsored Content

และที่สำคัญคือ “ตลอดไป” (perpetual) และ “ทั่วโลก” (worldwide)

แล้วเพราะเหตุใด CapCut ถึงเพิ่งเพิ่มเงื่อนไข จนกลายเป็นกระแส ?

CapCut จากเดิมที่เป็นแอปตัดต่อแบบออฟไลน์ ปัจจุบันกลายเป็นแพลตฟอร์มที่ผูกกับ Cloud และมีฟีเจอร์อัปโหลดคลิป เหมือนโซเชียลมีเดียมากขึ้น เช่น TikTok หรือ Instagram

จึงต้องปรับเงื่อนไขให้สอดคล้องกับการทำงานบนแพลตฟอร์มออนไลน์

บทสรุปตอนนี้แบบเคลียร์ชัดๆ

CapCut ขอสิทธิ์ใช้งานคลิปแบบกว้างมาก เหมือนแพลตฟอร์มอื่นๆ แต่ผู้ที่ใช้งานยังคงเป็น “เจ้าของลิขสิทธิ์” ในเนื้อหาของตัวเอง
ข้อมูลส่วนตัวหรือคลิปภายใน เช่น วิดีโอฝึกอบรมหรือประชุม อาจไม่เหมาะกับ CapCut เพราะเงื่อนไขเปิดทางให้ใช้งานคลิปได้หลากหลาย

ควรใช้ CapCut หรือไม่ ?

อันนี้แล้วแต่ดุลยพินิจของแต่ละคน - ถ้าใช้ CapCut เพื่อสร้างคอนเทนต์ลง TikTok / IG / Facebook - ใช้ได้ ไม่มีอะไรน่ากังวล เพราะแพลตฟอร์มเหล่านี้มีเงื่อนไขคล้ายกัน

แต่ถ้าใช้เพื่อทำวิดีโอภายใน /คลิปส่วนตัวที่ไม่ต้องการให้ใครเข้าถึง - แนะนำให้ใช้แอปตัดต่ออื่น เช่น Adobe Premiere, Final Cut Pro, หรือ DaVinci Resolve

ข้อคิดสำคัญสำหรับครีเอเตอร์

อ่าน Terms of Service ให้ครบ โดยเฉพาะเรื่อง “การให้สิทธิ์ใช้งาน”

สำรองไฟล์และลบงานเก่าที่ไม่อยากให้ CapCut เข้าถึง

หากยังต้องใช้ CapCut ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า “เนื้อหาของคุณอาจถูกใช้เพื่อโปรโมทได้”

CapCut ไม่ได้ร้าย แต่ก็ไม่ใช่พื้นที่ปลอดภัย 100% สำหรับคอนเทนต์ส่วนตัว

หากคุณเป็นครีเอเตอร์ทั่วไปที่อัปโหลดคอนเทนต์ลงโซเชียลอยู่แล้ว ไม่มีอะไรต้องวิตก แต่หากคุณต้องการความเป็นส่วนตัวสูง หรือหวงแหนทรัพย์สินทางปัญญา ลองพิจารณาเครื่องมือทางเลือกที่ให้คุณควบคุมสิทธิ์ได้มากกว่า

ที่มา : stmorocapcutmashable

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...