โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

บันทึกหน้า 4

ไทยโพสต์

อัพเดต 29 ก.ค. เวลา 19.27 น. • เผยแพร่ 29 ก.ค. เวลา 17.01 น.

ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด เป็นไปตามคาดหมายสำหรับการเจรจาระหว่างตัวแทนรัฐบาลไทย-กัมพูชา นำโดย นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย และ นายฮุน มาเนต นายกฯ กัมพูชา ภายใต้การอำนวยความสะดวกของ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกฯ มาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้หยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไขตั้งแต่เวลา 00.00 น.ของคืนวันที่ 29 ก.ค. แต่การสู้รบยังเดือดระอุ ในพื้นที่ภูมะเขือถูกก่อกวนโดยฝ่ายกัมพูชา พื้นที่ซำแต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พื้นที่ปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ มีการยิงปะทะกันจนถึงเช้า ทหารไทยเสียชีวิตเพิ่ม 3 นาย รวมสู้รบ 5 วัน พลีชีพ 14 นาย

พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัด แต่ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธโจมตีเข้ามาในเขตแดนของไทยหลายจุด ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างจงใจ ส่วนการหารือระหว่าง ผบช.หน่วยทหาร 3 พื้นที่ ไทย-กัมพูชา เมื่อเวลา 10.00 น. เห็นชอบร่วมกันให้หยุดยิง ห้ามเคลื่อนย้ายกำลังตลอดแนว ระหว่างรอการประชุม GBC วันที่ 4 ส.ค.นี้ แต่ก็อย่าวางใจ เขมรอาจลอบกัดอีกก็ได้0

การเจรจาหยุดยิงถูกวิจารณ์ยับว่าไทยอ่อนหัด เสียเหลี่ยมเขมร รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงและต่างประเทศ ระบุว่า ฝ่ายเราดูเหมือนจะเสียเปรียบ เพราะ 1.เรายังจัดระเบียบความมั่นคงตามแนวชายแดนไม่เสร็จเรียบร้อย 2.กัมพูชากำลังเพลี่ยงพล้ำทั้งในพื้นที่สู้รบและเวทีนานาชาติ และไทยกำลังจัดระเบียบตามแนวชายแดน แต่กลับต้องหยุดยิงก่อน หมายถึงหยุดปฏิบัติการทางทหารและการเคลื่อนกำลังทั้งหมดด้วย 3.ในเวทีนานาชาติ รวมทั้งที่ UN ที่มีหลายประเทศเข้าข้างกัมพูชา ประเทศเหล่านั้นเพิ่งชะงักจากการนำเสนอข้อมูลของไทยที่ UNSC ว่ากัมพูชาเป็นผู้จุดชนวนความขัดแย้ง และยังโจมตีเป้าหมายพลเรือนอย่างไม่เลือกหน้า 4.จากสถานการณ์ที่เสียเปรียบ กัมพูชาพลิกเกมดึงจีนกับสหรัฐเข้ามาประกบเวทีเจรจาที่มาเลเซีย ส่วนมาเลเซียมีนักลงทุนจำนวนมากอยู่ในกัมพูชา ทำให้ไทยเหมือนถูกจำกัดบทบาทและการรุกคืบไปโดยปริยาย0

ด้าน นายภูมิธรรม ชี้แจงว่า "การหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไขเพราะอยากให้จบ แต่ในรายละเอียดคงต้องพูดคุยกันอีก หลังจากนี้ไปเราจะพูดคุยผ่านกลไก RBC และ GBC เพื่อให้ได้ข้อสรุป" เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หลักการทั่วไปของการเจรจาหยุดยิง เราต้องให้เขาถอนอาวุธ หรือยื่นเงื่อนไขในการเจรจา แต่มีการตั้งข้อสังเกตว่านายภูมิธรรมไปรับเงื่อนไขเขามา? นายภูมิธรรม ตอบว่า "หากเราไปคุยเงื่อนไขทั้งหมดก็ไม่จบ แต่ในขณะที่ยิงกันก็เกิดความเสียหายกับชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ดังนั้น ก่อนอื่นต้องหยุดยิงเพื่อระงับความเสียหายที่จะเกิดขึ้น" งานนี้ สหายใหญ่ เจอกับแรงกดดันหนัก เพราะเป็นคนใกล้ชิด นายทักษิณ ชินวัตร พ่อนายกฯ ที่ปรึกษานายอันวาร์ และเป็นเพื่อนซี้ สมเด็จฮุน เซน ผู้นำกัมพูชา การเจรจาตกลงอันใดจึงมีข้อสงสัยเป็นธรรมดา เพราะตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชารุกราน แต่รัฐบาลไทยไม่ทันเกมเขมรที่ใช้การโฆษณาชวนเชื่อใส่ร้ายไทยตลอดเวลา นอกจากไทยประท้วงไปยังประธานอาเซียน สหรัฐอเมริกาและจีนแล้ว ยังต้องรีบยื่นฟ้องฮุน เซน-กัมพูชา ต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ฐานเป็นอาชญากรสงครามที่สั่งยิงใส่ชุมชน โรงพยาบาล โรงเรียน ทำให้พลเรือน-เด็กเสียชีวิตด้วย และต้องปรับปรุงการสื่อสารในเชิงรุกมากกว่านี้0

การสู้รบครั้งนี้ทหารไทยพลีชีพ 14 นาย แต่ พรรคส้ม ตายทั้งเป็น 3 ราย คนแรก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล หนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ พูดไว้ว่า "คุณจะไปรบกับใคร สมมุติมีคนมารุกราน ผมก็ไม่เชื่อว่าคุณจะรบชนะด้วย ประเทศที่เคยอยู่ใกล้ๆ กัน ที่มันเคยทะเลาะกัน วันนี้มันไม่ทะเลาะกันแล้ว บางประเทศไม่ต้องมีกองทัพด้วยซ้ำไป ถ้าผู้นำฉลาดพอ นี่คือเรื่องกฎกติกาสากล เรื่องระเบียบโลก" คนที่ 2 นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคประชาชน ที่หนีทหาร พูดว่า "ถ้ามีสงครามจริงๆ รบกับใครไม่ได้หรอก ผมมั่นใจ 100% เขารบร่วมกันยังไม่ได้เลย กองทัพเรือ กองทัพบก กองทัพอากาศ มีสงครามไม่ต้องห่วง รบกับใครไม่มีทางชนะ" คนล่าสุด นายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรคประชาชน โพสเฟซบุ๊กว่า"สิ่งแรกที่ถูกฆ่าในสงครามคือ ความจริงและทหารไทย แม่งทำแบบนี้มาตลอด ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาสถานการณ์แบบนี้ ไม่ใช่ว่ากองทัพส้นตีนนี่ จะไม่ใช่โอกาสนี้ สร้างความชอบธรรมให้ตัวเอง อย่าเชื่อทุกอย่างที่ออกจากกองทัพ" การด้อยค่า เหยียดหยามกองทัพ จะด้วยความไร้เดียงสาหรือมีวาระซ่อนเร้น แต่ได้ทำลายความไว้วางใจจากประชาชนหมดสิ้น เช่นเดียวกับพรรคเพื่อไทยที่หัวหน้าพรรคไปไหนก็ถูกชาวบ้านด่า ขายชาติ!…0.

แซมซาย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...