โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

สรุปดราม่า! "วัดภูม่านฟ้า" กับข้อกล่าวหาลอกเลียนแบบ "นครวัด"

คมชัดลึกออนไลน์

อัพเดต 23 มิ.ย. เวลา 20.06 น. • เผยแพร่ 24 มิ.ย. เวลา 03.03 น.

จากประเด็นร้อนแรงที่หลายคนจับตา! รัฐบาลกัมพูชาออกมาประณาม"วัดภูม่านฟ้า" จ.บุรีรัมย์ ว่าสร้างเลียนแบบ"ปราสาทนครวัด" มรดกโลกอันล้ำค่าของพวกเขา ทำเอาโลกโซเชียลของทั้งสองประเทศระอุ! เกิดอะไรขึ้น ใครพูดว่าอะไร และดราม่านี้มีที่มาที่ไปอย่างไร? ตามไปไขข้อข้องใจพร้อมกัน!

เมื่อรัฐบาลกัมพูชา โดยเฉพาะดร. เฟือง สกุณา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและวิจิตรศิลปะของกัมพูชา ได้ออกมาแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรงต่อการก่อสร้าง "วัดภูม่านฟ้า" ในอำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย โดยกล่าวหาว่าวัดดังกล่าวมีการสร้างสถาปัตยกรรมที่ "เลียนแบบ" ปราสาทนครวัด ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมและมรดกโลกอันเป็นเอกลักษณ์ของกัมพูชาอย่างร้ายแรง

จุดเริ่มต้นของข้อกล่าวหา: ประเด็นนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่เสียทีเดียว เพราะเคยมีกระแสจากชาวเน็ตกัมพูชาออกมาเรียกร้องให้ตรวจสอบ "วัดภูม่านฟ้า" มาตั้งแต่หลายปีก่อน แต่ล่าสุด ข้อกล่าวหาได้ถูกยกระดับขึ้นเป็นการประณามอย่างเป็นทางการจากระดับรัฐมนตรีของกัมพูชา โดยระบุว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการ "บ่อนทำลายคุณค่าสากลอันโดดเด่นและความแท้จริงของนครวัด" และยังเป็นการ "ละเมิดอัตลักษณ์และจิตวิญญาณของวัฒนธรรมชาติเขมร" รวมถึง "การละเมิดจริยธรรมด้านมรดกอย่างร้ายแรง" และผิดพันธกรณีในฐานะรัฐภาคีอนุสัญญามรดกโลกของยูเนสโกปี 1972

"วัดภูม่านฟ้า" กับการชี้แจงจากฝ่ายไทย: เมื่อ ปี พ.ศ. 2564 ทางกระทรวงวัฒนธรรมกัมพูชาออกแถลงการณ์หลังส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบวัดภูม่านฟ้า จ.บุรีรัมย์ ยืนยันว่า วัดไทยไม่ได้เลียนแบบนครวัด และทางเจ้าอาวาสไทยออกแบบเอง พร้อมให้ผู้เชี่ยวชาญกัมพูชาตรวจซ้ำได้ วัดภูม่านฟ้า ตั้งอยู่ที่ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมีสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นคือ "อาณาจักรสีหนคร" หรือ "ปราสาทหินทราย" ซึ่งมีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะขอมโบราณ แต่ทางฝ่ายวัดและชาวไทยได้ออกมาโต้แย้งว่า การสร้างปราสาทภายในวัดนั้นไม่ได้มีเจตนาลอกเลียนแบบนครวัดแต่อย่างใด แต่เป็นการสร้างขึ้นตามคติความเชื่อในพระพุทธศาสนา เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และเป็นการแสดงออกถึงภูมิปัญญาการแกะสลักลวดลาย สถาปัตยกรรม ซึ่งเป็นศิลปะที่มีรากฐานร่วมกันในภูมิภาคมาตั้งแต่โบราณ

เสียงสะท้อนจากโลกโซเชียล: ประเด็นนี้จุดประกายให้เกิดการถกเถียงอย่างเผ็ดร้อนบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ ทั้งในประเทศไทยและกัมพูชา

ฝั่งกัมพูชา: ชาวเน็ตจำนวนมากแสดงความเห็นด้วยกับรัฐมนตรี แสดงความกังวลว่านี่คือการบ่อนทำลายอัตลักษณ์และมรดกของชาติ พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการอย่างจริงจัง อาจถึงขั้นยื่นเรื่องต่อ UNESCO

ฝั่งไทย: มีทั้งผู้ที่แสดงความไม่พอใจกับการกล่าวหา "เคลมเก่ง" ของกัมพูชา โดยยืนยันว่าศิลปะแบบขอมมีรากฐานในดินแดนไทยมานาน และบางส่วนก็มองว่าการกล่าวหาเช่นนี้อาจเป็นความพยายามที่จะสร้างประเด็นในสถานการณ์ที่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศกำลังมีความละเอียดอ่อนในเรื่องอื่นๆ ด้วยเช่นกัน

ดราม่า "วัดภูม่านฟ้า vs นครวัด" ครั้งนี้ จึงไม่เพียงแต่เป็นเรื่องของสถาปัตยกรรม แต่ยังสะท้อนถึงความละเอียดอ่อนทางวัฒนธรรมและความรู้สึกในประวัติศาสตร์ของทั้งสองประเทศ ที่จำเป็นต้องมีการสื่อสารและความเข้าใจที่รอบด้านต่อไป

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...