โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

ทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีญี่ปุ่น โวยญี่ปุ่นไม่ยอมซื้อข้าวสหรัฐ

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 01 ก.ค. เวลา 00.22 น. • เผยแพร่ 30 มิ.ย. เวลา 23.58 น.

บลูมเบิร์ก รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่ว่าจะขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นใหม่ ขณะที่ที่ปรึกษาเศรษฐกิจระดับสูงของเขาเผยว่าทำเนียบขาวตั้งเป้าที่จะสรุปข้อตกลงกับพันธมิตรหลังวันหยุด 4 กรกฎาคม

การเผชิญหน้าระหว่างทรัมป์กับโตเกียวรอบล่าสุดเมื่อวันจันทร์ (30 มิ.ย.68) มีขึ้นเพียงสัปดาห์เศษก่อนถึงเส้นตายวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 ซึ่งเป็นวันที่กำหนดให้เริ่มเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอีกครั้ง สำหรับพันธมิตรทางการค้าหลายสิบราย รวมทั้งญี่ปุ่น

ทรัมป์ อ้างถึงความไม่เต็มใจของญี่ปุ่นที่จะยอมเปิดตลาดรับซื้อข้าวของสหรัฐ

“พวกเขาจะไม่เอาข้าวของเราไป แต่พวกเขากลับขาดแคลนข้าวอย่างหนัก” ทรัมป์โพสต์บนโซเชียลมีเดีย “พูดอีกอย่างก็คือ เราจะส่งจดหมายไปหาพวกเขา และเรายินดีที่มีพวกเขาเป็นพันธมิตรทางการค้าอีกหลายปีข้างหน้า”

ทรัมป์พยายามใช้อิทธิพลกดดันพันธมิตรในการเจรจาก่อนถึงเส้นตายมาหลายสัปดาห์ โดยให้คำมั่นว่าจะยุติการเจรจากับผู้ที่เขามองว่า เจรจายากลำบาก และจะส่งจดหมายกำหนดอัตราภาษีนำเข้าฝ่ายเดียวแทน

ประธานาธิบดีได้ระงับการเรียกเก็บภาษีศุลกากรอัตราสูงสำหรับหลายประเทศในเดือนเมษายน เพื่อให้มีเวลาสำหรับการเจรจา ตั้งแต่นั้นมา เขา และทีมงานได้ให้คำมั่นว่าจะมีข้อตกลงต่างๆ อีกหลายสัปดาห์ข้างหน้า

แต่จนถึงปัจจุบัน มีเพียงสองข้อตกลงที่ประกาศออกมาเท่านั้น โดยเป็นข้อตกลงกรอบกว้างๆ กับจีน และสหราชอาณาจักร

ขณะเดียวกัน เควิน แฮสเซตต์ ประธานสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ ได้ส่งสัญญาณเมื่อวันจันทร์ว่าข้อตกลงกับรัฐบาลหลายประเทศจะประกาศหลังจากวันประกาศอิสรภาพของสหรัฐ 4 ก.ค.68 เขากล่าวว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการผ่านร่างกฎหมายภาษีและการใช้จ่ายครั้งใหญ่ของทรัมป์ในสภาก่อนวันหยุด

แฮสเซตต์ กล่าวทางรายการ Fox Business เมื่อวันจันทร์ว่า "ผู้คนอาจหยุดพักสักหนึ่งหรือสองชั่วโมงในวันที่ 4 กรกฎาคมเพื่อชมดอกไม้ไฟ จากนั้นเราจะกลับมา และเราจะเริ่มประกาศกรอบข้อตกลงดังกล่าว" "เราคาดว่าจะได้พบกับประธานาธิบดีและอธิบายกรอบที่เจรจากันไว้ และดูว่าเขาจะอนุมัติหรือไม่"

แฮสเซตต์ กล่าวว่า การเจรจาระหว่างสหรัฐ และญี่ปุ่นคาดว่าจะดำเนินต่อไป แม้ว่าทรัมป์จะขู่ก็ตาม

“ไม่มีอะไรจบสิ้นแล้ว ผมรู้ว่าเขาเพิ่งโพสต์อะไรไป แต่ยังคงมีการหารือกันจนกว่าจะถึงที่สุด” เขากล่าวกับนักข่าว

  • การขู่ของทรัมป์ได้ผลบางครั้ง

การขู่คุกคามของทรัมป์ที่จะตัดการเจรจากับประเทศต่างๆ บางครั้งทำให้คู่ค้ายอมยกเลิกนโยบายที่ทำให้เขาโกรธ ส่งผลให้การเจรจาต้องกลับมาดำเนินต่อไป ประธานาธิบดีกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่าเขาจะยุติการเจรจาการค้าทั้งหมดกับแคนาดาเพื่อตอบโต้ภาษีบริการดิจิทัล แต่หลังจากที่ออตตาวาถอนภาษีนั้น แฮสเซตต์กล่าวกับนักข่าวเมื่อวันจันทร์ว่า “มีความคืบหน้ามากมายในการหารือของเรากับแคนาดา”

ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในคู่ค้าที่สำคัญที่สุดของสหรัฐ โดยจัดอยู่ในกลุ่มเศรษฐกิจที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของทรัมป์ กล่าวว่า อยู่ในแนวทางที่จะทำข้อตกลงได้ แทนที่สหรัฐจะกำหนดอัตราภาษีฝ่ายเดียว

รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ฮาวเวิร์ด ลัทนิค กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า รัฐบาลจะสรุปข้อตกลงการค้ากับพันธมิตรรายใหญ่ของสหรัฐประมาณ 10 ราย ขณะที่พันธมิตรรายอื่นๆ จะได้รับจดหมายแจ้งการขึ้นอัตราภาษี

เจ้าหน้าที่สหรัฐ และญี่ปุ่นยังคงไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนเกี่ยวกับระดับภาษีศุลกากร และอุปสรรคทางการค้าได้ในการเจรจาที่ยืดเยื้อมานานหลายเดือน

ญี่ปุ่นกดดันให้ผ่อนปรนภาษีนำเข้ารถยนต์ 25% ของทรัมป์ โดยระบุว่าภาษีเหล่านี้กำลังทำลายอุตสาหกรรมสำคัญแห่งหนึ่ง แต่ประธานาธิบดีสหรัฐกลับไม่เห็นด้วยกับคำร้องขอดังกล่าว โดยกล่าวว่าญี่ปุ่นไม่ได้นำเข้ารถยนต์ที่ผลิตในอเมริกาจำนวนมาก ญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับการเก็บภาษีนำเข้าแยกต่างหาก 24% จากสินค้าส่งออกทั้งหมดไปยังสหรัฐ ซึ่งได้ลดลงเหลือ 10% ในระหว่างช่วงการเจรจา

ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ แคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า สหรัฐกำลังใกล้บรรลุข้อตกลงกับอินเดีย และประเทศอื่นๆ ก่อนถึงเส้นตายในการเรียกเก็บภาษีนำเข้าที่สูงขึ้นอีกครั้ง ซึ่งถูกระงับไว้เป็นเวลา 90 วันในเดือนเมษายน เพื่อดำเนินการเจรจา

“เขาจะกำหนดอัตราภาษีสำหรับหลายประเทศเหล่านี้หากพวกเขาไม่มาเจรจากันด้วยความจริงใจ และเขาจะพบกับทีมการค้าของเขาในสัปดาห์นี้เพื่อทำเช่นนั้น” ลีวิตต์ กล่าว

การประชุม และการโทรศัพท์อย่างคึกคักระหว่างรัฐบาลต่างประเทศ ภาคอุตสาหกรรม และฝ่ายบริหาร เป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงสัปดาห์ก่อนถึงกำหนดเส้นตาย โดยเจ้าหน้าที่ และผู้บริหารต่างล็อบบี้ให้ยกเว้นภาษีนำเข้าของทรัมป์

เมื่อถูกถามว่าควรมีการยกเว้นภาษีสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ปกติไม่สามารถปลูกได้ในสหรัฐ เช่น โกโก้ และกาแฟหรือไม่ บรูก โรลลินส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรสหรัฐ กล่าวในการให้สัมภาษณ์ว่า “ตอนนี้ทุกอย่างอยู่บนโต๊ะเจรจาแล้ว”

สำหรับ “ผลิตภัณฑ์บางอย่างที่เราไม่สามารถผลิตได้ที่นี่” โรลลินส์ กล่าวต่อว่า “สิ่งสำคัญคือ ต้องมีความเข้าใจอย่างสมบูรณ์และมีกลยุทธ์ที่ดี” ที่จะรักษาราคาสินค้าอุปโภคบริโภคให้อยู่ในระดับต่ำ และส่งเสริมการเกษตรของสหรัฐ

พิสูจน์อักษร….สุรีย์ ศิลาวงษ์

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...