โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

Krungthai GLOBAL MARKETS เผยค่าบาทเปิดที่ 32.72-โมเมนตัมอ่อนค่ามีกำลังมากขึ้น

Manager Online

เผยแพร่ 09 มิ.ย. เวลา 00.58 น. • MGR Online

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 32.45-33.00 บาท/ดอลลาร์ และกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วงโมงข้างหน้า คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.65-32.85 บาท/ดอลลาร์ จากระดับเปิดเช้านี้(9มิ.ย.68)ที่ระดับ 32.72 บาทต่อดอลลาร์“อ่อนค่าลง”จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ณ ระดับ 32.60 บาทต่อดอลลาร์ โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) ทยอยอ่อนค่าลง (แกว่งตัวในกรอบ 32.58-32.80 บาทต่อดอลลาร์) หลังรายงานยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) ของสหรัฐฯ ในเดือนพฤษภาคม ออกมาที่ระดับ 139,000 ตำแหน่ง ดีกว่าที่ตลาดคาด และดีกว่ายอดการจ้างงานภาคเอกชน

โดย ADP ที่ออกมาช่วงต้นสัปดาห์ หนุนให้ผู้เล่นในตลาดทยอยปรับลดความคาดหวังแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด ส่งผลให้ ทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ต่างปรับตัวสูงขึ้น ขณะเดียวกัน ก็กดดันให้ ราคาทองคำ (XAUUSD) ย่อตัวลง ทว่า ราคาทองคำยังคงได้แรงหนุนจากแรงซื้อ Buy on Dip ของผู้เล่นในตลาด ส่วนเงินดอลลาร์ก็ย่อตัวลงบ้าง ในช่วงเช้าของตลาดการเงินเอเชีย วันจันทร์นี้ หลังผู้เล่นในตลาดต่างรอจับตาความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับ จีน

สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินดอลลาร์เคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ Sideways ตามรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาผสมผสาน ทั้งนี้ ยอดการจ้างงานล่าสุดที่ออกมาดีกว่าคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดคงเชื่อว่า เฟดจะไม่เร่งรีบลดดอกเบี้ย (โอกาส 80% ในการลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง ปีนี้)

สำหรับในสัปดาห์นี้ เรามองว่า ควรติดตาม รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ อีกทั้ง ควรรอติดตาม ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB)

สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า โมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทนั้นมีกำลังมากขึ้น หลังเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น พร้อมกับการย่อตัวลงของราคาทองคำ หลังรายงานข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ล่าสุด ออกมาดีกว่าคาด (แต่ในรายละเอียดเชิงลึก อาจยังสะท้อนภาพการชะลอตัวและความเปราะบางของตลาดแรงงานสหรัฐฯ ) ทว่า เงินบาทก็อาจอ่อนค่าอย่างค่อยเป็นค่อยไป หรืออาจกล่าวได้ว่า เงินบาทอาจแกว่งตัวแบบ Sideways Up จนกว่า ผู้เล่นในตลาดจะมั่นใจมากขึ้นว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยไม่ถึง 2 ครั้งในปีนี้ (เช่น ปรับลดโอกาสการลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง ในปีนี้ จากล่าสุด 80%) ซึ่งอาจต้องเห็นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ดีกว่าคาด เพิ่มเติม หรือความชัดเจนของการดำเนินนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลสหรัฐฯ โดยเฉพาะนโยบายการค้า โดยเงินบาท (USDTHB) จะยังมีโซนแนวต้านแถว 32.95-33.00 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่โซนแนวรับจะอยู่แถว 32.50 บาทต่อดอลลาร์ ทั้งนี้ เราขอย้ำมุมมองเดิมว่า ควรจับตา ทิศทางราคาทองคำอย่างใกล้ชิด เนื่องจากราคาทองคำยังเป็นปัจจัยเสี่ยง Two-Way Risk ที่อาจทำให้เงินบาทแข็งค่า หรือ อ่อนค่า กว่าที่ประเมินไว้ ตามทิศทางราคาทองคำ อนึ่งเงินบาทอาจเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าจากแรงขายสินทรัพย์ไทยเพิ่มเติมได้บ้าง และเมื่อประเมินด้วยกลยุทธ์ Trend-Following เงินบาทจะกลับมาอยู่ในแนวโน้มอ่อนค่าลงอีกครั้ง หากสามารถอ่อนค่าทะลุโซน 33.00-33.10 บาทต่อดอลลาร์ ได้อย่างชัดเจน

ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น เรามองว่า เงินดอลลาร์อาจแกว่งตัว Sideways จนกว่าผู้เล่นในตลาดจะกลับมาเชื่อมั่นในแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชัดเจน พร้อมปรับลดความคาดหวังการลดดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งจะช่วยหนุนการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ได้

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...