โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

กัมพูชายืนยันให้ไทยร่วมยุติข้อพิพาทชายแดนผ่านศาลโลก

PostToday

อัพเดต 08 มิ.ย. เวลา 17.09 น. • เผยแพร่ 09 มิ.ย. เวลา 00.05 น.

ในจดหมายดังกล่าว รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศของกัมพูชา นายปรัก สุคน ระบุว่า ข้อพิพาทชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทยยังคงดำเนินมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ และเป็นต้นเหตุของความตึงเครียดและความเข้าใจผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนในการหาทางออกที่ยั่งยืนและสันติวิธี พร้อมเสนอให้ยื่นเรื่องให้ ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ)เป็นผู้ชี้ขาด

“ด้วยลักษณะที่ซับซ้อน รากฐานทางประวัติศาสตร์ และความอ่อนไหวของข้อพิพาทเหล่านี้ จึงเห็นได้ชัดว่าการเจรจาทวิภาคีเพียงลำพังอาจไม่เพียงพออีกต่อไป”

เขากล่าวว่าคำวินิจฉัยของ ICJ ซึ่งมีพื้นฐานบนกฎหมายระหว่างประเทศ จะให้ความยุติธรรม ความเป็นกลาง และความยั่งยืน อันจะช่วยชี้แจงเส้นเขตแดนระหว่างประเทศทั้งสอง และเสริมสร้างสันติภาพ เสถียรภาพ และความร่วมมือในภูมิภาค

ด้านนายกรัฐมนตรีฮุน มาแนต ระบุว่า กัมพูชาจะเดินหน้านำกรณีเข้าสู่ ICJ เนื่องจากกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ให้ผลลัพธ์น้อย พร้อมยืนยันว่าพื้นที่พิพาทอื่นจะดำเนินการเจรจาภายใต้บันทึกความเข้าใจปี 2000

ด้านสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภา อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า การปรับกำลังทหารในพื้นที่พิพาทซึ่งเกิดจากความตกลงร่วมกันของผู้บัญชาการทั้งสองประเทศ เป็นก้าวสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะรุนแรง

“ประชาชนของทั้งสองประเทศไม่ต้องการเห็นสงคราม แต่ต้องการสันติภาพที่ยั่งยืน”

เขากล่าวว่าการเจรจาหาทางออกได้ดำเนินในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับรัฐบาลถึงระดับแนวหน้า พร้อมเรียกร้องให้เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะหาทางออกอย่างสันติ

ในอีกด้านหนึ่ง นักวิชาการอาวุโส นายพู โสธิรัก ที่ปรึกษาอาวุโสแห่งศูนย์ศึกษาภูมิภาคกัมพูชา แสดงความกังวลต่อความตึงเครียดในปัจจุบัน โดยชี้ว่ามีรากเหง้ามาจากความขัดแย้งทางประวัติศาสตร์และกระแสชาตินิยมที่รุนแรงในทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะปัจจัยการเมืองภายในฝั่งไทยที่อาจทำให้สถานการณ์ซับซ้อนยิ่งขึ้น

“หากไม่มีมาตรการลดความตึงเครียด อาจนำไปสู่ความขัดแย้งเต็มรูปแบบได้”

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...