โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

มท.ถกวอร์รูม 'พายุวิภา' ห่วงเหนือ-อีสาน เสี่ยงท่วม กังวล จ.น่าน

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 23 ก.ค. เวลา 00.48 น. • เผยแพร่ 23 ก.ค. เวลา 07.45 น.

เมื่อวันที่ 23 ก.ค.2568 ที่กระทรวงมหาดไทย กองบัญชาการป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) ประชุมตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์พายุวิภา โดย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ร่วมรับฟัง ซึ่งมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ เข้าร่วมประชุมติดตามสถานการณ์ ได้ติดตามภาพรวมสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทั้งจังหวัดแถบภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องในหลายจังหวัดจากอิทธิพลพายุวิภา

โดยในที่ประชุมมีการรายงานสถานการณ์เป็นรายพื้นที่ ประกอบด้วยพื้นที่ติดภูเขา ที่ราบเชิงเขา โดยให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และการตรวจสอบสภาพดินที่ได้รับการสะสมของปริมาณฝนที่ตกลงมา ซึ่งมีลักษณะอุ้มน้ำ และความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำป่าไหลหลาก และเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน ขณะที่หลายพื้นที่ปริมาณน้ำฝนไปเพิ่มระดับน้ำในแม่น้ำสายหลัก หลายจุดใกล้ล้นตลิ่ง และบางจุดเสี่ยงเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนที่อาศัยบริเวณริมแม่น้ำ

น.ส.ธีรรัตน์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ว่า หลังการติดตามสถานการณ์พายุวิภาที่เกิดขึ้น เป็นที่คาดการณ์จากที่บอกก่อนหน้านี้ว่าจะมีความรุนแรงอยู่ในระดับที่ประชาชนได้รับผลกระทบในวงกว้าง โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ จากการประชุมและได้รับรายงานโดยตรงจากพื้นที่ในหลายๆจังหวัดด้วยกัน เช่นพื้นที่จ.น่าน ที่ตอนนี้ให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ เตรียมความพร้อมรับมือขนของขึ้นที่สูงเพื่อที่จะไม่ให้ได้รับความเสียหาย รวมถึงพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต้องอพยพไปอยู่ในศูนย์ที่ทางหน่วยงานราชการจัดเตรียมไว้ให้ โดยเป็นการขอความร่วมมือเพื่อให้ทุกคนได้รับความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน

ในส่วนของ จ.น่าน ขณะนี้มณฑลทหารบกที่ 38 ได้นำกำลังลงพื้นที่จ.น่าน เพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้จัดเตรียมเรื่องระบบการทำงานทุกระบบเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชน และย้ำเตือนว่าขณะนี้น้ำที่กำลังจะเข้าสู่พื้นที่เศรษฐกิจ จ. น่านมีปริมาณ ที่ 1 ชั่วโมง 30 ซม. ถือว่าเป็นปริมาณที่สูง โดยตนได้สั่งการให้ ปภ. นำเครื่องสูบน้ำลงพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อบรรเทาน้ำที่จะเข้าสู่ในพื้นที่ส่วนกลางให้มีระดับน้อยลงมากที่สุด แต่อย่างไรก็ตามน้ำมาแน่นอน จึงอยากให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือ

ส่วน จ. พะเยา ได้มีการประชุมผ่าน Zoom ในพื้นที่จริง พบว่า ในบางอำเภอยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง และน้ำอยู่ในระดับที่ต้องเฝ้าระวัง แม้จะยังไม่สูงแต่ก็ต้องเตรียมพร้อม และมีความเป็นไปได้หากมีฝนตกต่อเนื่องก็จะมีปริมาณน้ำที่สูงขึ้นได้อีก ส่วนจ.เชียงใหม่และเชียงรายทางพื้นที่ได้มีการเตรียมความพร้อมรับมือไว้อยู่แล้ว และอย่างน้อยการเตรียมการที่ดีขึ้น เชื่อว่า อาจจะมีการระบายน้ำได้อย่างรวดเร็ว โดยทางกรมชลประทานได้มีการเตรียมพร้อมในเรื่องของเขื่อนเพื่อให้เหมาะสมกับน้ำที่กำลังจะมา และมั่นใจว่าประชาชนจะได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

สำหรับภาพรวม และการพยากรณ์น้ำในช่วงของ 3-5 วัน ที่จะถึงนี้ได้ฟังรายงานจากกรมชลประทานในเรื่องของน้ำเหนือที่จะไหลสู่ลำน้ำต่างๆได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเตรียมพร้อมหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางที่อาจมีน้ำท่วมพื้นผิวจราจร อีกทั้งได้มีการเตรียมพร้อมช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยให้มีความรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์ตามแนวทาง

น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า สำหรับการเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยโดยเฉพาะพื้นที่มีฝนตกปริมาณมาก และพื้นที่สำคัญที่เคยเกิดน้ำท่วมขังอยู่แล้ว ขอให้ทางจังหวัดได้เข้าไปป้องกันไม่ให้น้ำท่วมเข้าสู่พื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพบว่ามีฝนตกต่อเนื่อง การที่มีฝนตกต่อเนื่องต้องป้องกันเรื่องของดินโคลนถล่มเพราะดินอุ้มน้ำหลายวันมีความชุ่มฉ่ำมาก อาจทำให้เกิดดินโคลนถล่มได้ และให้ทางจังหวัดที่มีความเสี่ยงอพยพประชาชนออกมาโดยเร็ว เพราะดินโคลนถล่มคาดการณ์ได้ยากแต่ถ้าหากรู้ว่ามีจุดไหนที่เสี่ยงอยู่แล้วทางเจ้าหน้าที่สามารถที่จะเข้าไปในจุดนั้นได้ทันที

และหากจะมีการปิดเส้นทางในเรื่องของถนนจะมีการแจ้งประชาชนก่อน เพื่อไม่ให้ประชาชนติดอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ซึ่งถ้าหากพบว่า บางพื้นที่มีความเสี่ยงที่น้ำจะเข้าสูงสามารถที่จะตัดไฟได้เลยเพื่อที่จะป้องกันปัญหาไฟรั่วหรือไฟดูด ในส่วนของพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปสำรวจความเสียหายและช่วยเหลือประชาชนในการทำความสะอาดบ้านเรือนเพื่อบรรเทาความเสียหายที่จะเกิดขึ้น

สำหรับการรายงานสถานการณ์ให้ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดรายงานสถานการณ์อุทกภัยและดินโคลถล่ม ผลกระทบและการช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติในทุกวัน เวลา 09:00 น. ซึ่งจะมีการประชุมสรุปสถานการณ์ในแต่ละวันเพื่อประเมินเพิ่มกำลังในแต่ละพื้นที่ให้ทันต่อสถานการณ์มากที่สุด

ส่วนทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้ส่งข้อความแจ้งเตือนภัยผ่านสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Cell Broadcast) ส่งข้อความผ่านศูนย์กระจายข่าวในระดับพื้นที่ และจังหวัดให้ประชาชนได้ทราบ และขอความร่วมมือสื่อมวลชนกระจายข่าวสาร ยอมรับว่า พื้นที่ที่กังวลคือจ.น่านที่มีน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากน้ำที่เสริมเข้ามา จึงอยากให้ประชาชนเฝ้าระวังสูงสุด

น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวต่อว่า Cell Broadcast ใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และส่งแจ้งเตือนประชาชนไปแล้วตั้งแต่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันจำนวน 56 ครั้ง แบ่งเป็นแผ่นดินไหว 2 ครั้ง อุทกภัย 45 ครั้ง ดินโคลนถล่ม 9 ครั้ง ในช่วงของวันที่ 20 ก.ค. สถานการณ์พายุวิพาส่งแจ้งเตือนไปแล้ว 24 ครั้ง อุทกภัย 15 ครั้ง ดินโคถล่ม 9 ครั้ง ส่วนวันที่ 22 ก.ค. ส่งแจ้งเตือนเพิ่มเติม 12 ครั้ง ในเรื่องของอุทกภัย

น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า ศูนย์เตือนภัยของกระทรวงมหาดไทย ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ส่งสัญญาณเตือนภัยรวมถึงส่งข้อความเตือน ในช่วงเวลาเกิดเหตุจริงทุกช่วงเวลา และมีการแจ้งเตือนเตรียมพร้อมเส้นทางน้ำที่จะมาถึงแต่ละพื้นที่ ส่วนดินโคลนถล่มจุดเสี่ยงต่างๆได้ประกาศออกไปตามพื้นที่ต่างๆก่อนหน้านี้ ได้มีการขนย้ายและอพยพประชาชนออกมาจากพื้นที่ที่มีความเสี่ยงแล้ว โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยทหารที่สนับสนุนการช่วยเหลือประชาชนพาไปอยู่ศูนย์อพยพ

เมื่อถามว่า เรื่องการเดินทางในจ.น่านเข้าตัวเมือง บางจุดเส้นทางเริ่มสัญจรลำบากทางกระทรวงมหาดไทยได้มีการประสานกับกระทรวงคมนาคมในเรื่องการเดินทางโดยเฉพาะสายการบินบ้างหรือไม่ น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า จากที่ได้รับรายงาน ผู้ว่าราชการจังหวัดน่านรายงานว่า ยังมีถนนบางส่วนที่กระทบ แต่ในเรื่องของการบินหรือการเดินทางยังสามารถที่จะดำเนินการได้ตามปกติ ซึ่งคาดการณ์ว่าถ้ามีถนนหลายเส้นที่เกิดผลกระทบกับเรื่องของผู้เดินทางอาจจะต้องแจ้งให้ทราบเพื่อที่จะได้มีการเตรียมการเผื่อเวลาในการเดินทาง และอยากให้ประชาชนในพื้นที่ได้มีการเตรียมความพร้อมติดตามข่าวสารจากหน่วยงานราชการและได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ให้เตรียมในเรื่องของยานพาหนะช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ถูกตัดขาด

เมื่อถามว่า สถานการ์ณวันที่ 23 -25 ก.ค. ตามกรมอุตุนิยมวิทยามีความกังวลในช่วงวันใดเป็นพิเศษหรือไม่ น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า วันนี้น่าจะหนักที่สุด มีความกังวลมากที่สุด ประกอบกับปริมาฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องตลอดในพื้นที่โดยเฉพาะจ.น่าน แม้ตอนนี้ระดับของพายุวิพา จะลดความรุนแรงลงแต่ในพื้นที่จะต้องมีการเตรียมความพร้อม และก็ต้องมีการเฝ้าระวังสูงสุด หากทิศทางหรือความรุนแรงของพายุเกิดการเปลี่ยนแปลง

น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวถึงเรื่องพื้นที่จ.เชียงรายที่ประชาชน มีความกังวลในเรื่องของสารปนเปื้อนในแม่น้ำกกและพื้นที่ในอ.แม่สาย ขอยืนยันว่า ตอนนี้อ.แม่สายได้รับผลกระทบน้อยมากเช่นเดียวกับเรื่องสารปนเปื้อนของแม่น้ำกที่ปริมาณฝนตกลงมาทำให้สารปนเปื้อนค่อนข้างเจือจาง ประชาชนในพื้นที่ไม่ได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ธีรรัตน์ เตรียมเดินทางลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์พายุวิภาในพื้นที่จ.เชียงรายและจ.น่าน เพื่อรับฟังรายงานเพิ่มเติมจากในพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ที่เดือดร้อน และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...