โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ส่องโอกาสทองคนซื้อบ้านปี 68 วางแผนเลือกบ้านใหม่อย่างไรให้คุ้มค่า

The Bangkok Insight

อัพเดต 22 พ.ค. เวลา 09.38 น. • เผยแพร่ 22 พ.ค. เวลา 09.38 น. • The Bangkok Insight

ส่องโอกาสทองคนซื้อบ้านปี 68 วางแผนเลือกบ้านใหม่อย่างไรให้คุ้มค่า แนวราบรับอานิสงส์แผ่นดินไหว คนต้องการซื้อคอนโดลดลง

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2568 ถือเป็นปีแห่งการปรับตัวทั้งในฝั่งผู้บริโภคและผู้ประกอบการ แม้จะมีความท้าทายแต่ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างน่าสนใจ

คนซื้อบ้าน

ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty) แพลตฟอร์มอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของไทย เผยข้อมูลเชิงลึกจากผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.DDproperty.com ในเดือนเมษายน 2568 สะท้อนเทรนด์ความต้องการซื้อและเช่าที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคชาวไทย

จากผลสำรวจพบว่า จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ในเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 7% จากเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้นถึง 25% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าจะเพิ่งผ่านเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศเมียนมาและเกิดแรงสั่นสะเทือนที่รับรู้ได้ในไทยเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568

อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ พบว่าความต้องการซื้อคอนโดมิเนียมลดลง 14% เนื่องจากผู้บริโภคกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของอาคารสูงเมื่อเกิดเหตุแผ่นดินไหว ส่งผลให้ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยแนวราบได้รับอานิสงส์ โดยความต้องการซื้อบ้านเดี่ยวในกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้น 8% และทาวน์โฮมเพิ่มขึ้น 6%

ทั้งนี้ ความต้องการซื้อส่วนใหญ่อยู่ที่ระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท มีสัดส่วนถึง 46% แต่ระดับราคาที่มีความต้องการซื้อเพิ่มขึ้นมากที่สุด ได้แก่ ระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6%

ขณะที่ความต้องการเช่าที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น 23% โดยเพิ่มขึ้นทุกรูปแบบที่อยู่อาศัย ทาวน์โฮมเพิ่มขึ้นมากที่สุด 31% ตามมาด้วยคอนโดฯ เพิ่มขึ้น 23% และบ้านเดี่ยวเพิ่มขึ้น 11%

ส่วนระดับค่าเช่าส่วนใหญ่อยู่ที่ 1-2 หมื่นบาท/เดือน มีสัดส่วน 36% โดยระดับค่าเช่าที่มีความต้องการเช่าเพิ่มขึ้นมากที่สุดคือ มากกว่า 3 หมื่นบาท/เดือน เพิ่มขึ้น 28% สะท้อนให้เห็นว่าความต้องการซื้อ/เช่าที่อยู่อาศัยยังคงเติบโต เป็นโอกาสของผู้ประกอบการที่จะทำโปรโมชั่นดึงดูดทั้งกลุ่มผู้ซื้อเพื่ออยู่เองและนักลงทุน

ส่องปัจจัยบวกสร้างโอกาสทองให้ผู้ซื้อบ้านปี 68

ตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2568 กำลังฉายแสงแห่งโอกาสให้กับคนหาบ้านอีกครั้ง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการอสังหาฯ ของภาครัฐ ประกอบกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นโอกาสทองของผู้ที่มีความพร้อมทางการเงินในการซื้อที่อยู่อาศัย โดยมี 3 ปัจจัยบวกที่น่าสนใจ ดังนี้

มาตรการสนับสนุนจากภาครัฐ แรงขับเคลื่อนสำคัญของตลาด ภาคอสังหาฯ ยังคงเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ผ่านมาตรการที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อให้คนหาบ้านเป็นเจ้าของที่อาศัยได้ง่ายขึ้น ดังนี้

มาตรการลดค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์เหลือ 0.01% (จากปกติ 2%) และลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาฯ อันเนื่องมาจากการจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวในคราวเดียวกัน เหลือ 0.01% (จากปกติ 1%) สำหรับราคาซื้อขายและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 7 ล้านบาท มีผลใช้บังคับไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2569

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผ่อนคลายเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่ออื่นที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Loan-to-Value: LTV) เป็นการชั่วคราว โดยกำหนดให้เพดานอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกันเป็น 100% สำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ทั้งกรณี

  • มูลค่าหลักประกันต่ำกว่า 10 ล้านบาท ตั้งแต่สัญญากู้หลังที่ 2 เป็นต้นไป
  • มูลค่าหลักประกันตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ตั้งแต่สัญญากู้หลังที่ 1 เป็นต้นไป สำหรับสัญญาเงินกู้ที่ทำสัญญาตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2569

สินเชื่อที่อยู่อาศัยดอกเบี้ยต่ำจากสถาบันการเงินของรัฐ ประกอบด้วย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.), ธนาคารออมสิน และการเคหะแห่งชาติ ที่ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านที่มีอัตราดอกเบี้ยพิเศษ หรือมีเงื่อนไขผ่อนปรนอื่น ๆ เช่น ระยะเวลาผ่อนชำระที่ยาวนานขึ้น วงเงินกู้ที่สูงขึ้น หรือการผ่อนปรนหลักเกณฑ์ในการพิจารณาสินเชื่อ

สินเชื่อดังกล่าว จะช่วยให้ผู้บริโภคได้เป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยในราคาที่เอื้อมถึง
โครงการบ้านเพื่อคนไทย เน้นการพัฒนาที่อยู่อาศัยราคาประหยัด (Affordable Housing) ในพื้นที่ศักยภาพที่ใกล้ระบบขนส่งมวลชน ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถเช่าซื้อได้ในระยะเวลา 99 ปี โดยมีอัตราผ่อนเริ่มต้นประมาณ 4,000 บาท/เดือน ระยะเวลาผ่อนชำระ 30-50 ปี และยังมีการสนับสนุนสินเชื่อจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.5%

อัตราดอกเบี้ยลดลงต่อเนื่อง แบ่งเบาภาระคนซื้อบ้าน

คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่องจนมาอยู่ที่ 1.75% ต่อปี (ประกาศ ณ วันที่ 30 เม.ย. 2568) ถือเป็นสัญญาณบวกสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อบ้าน เนื่องจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มปรับตัวลดลงตามไปด้วย และช่วยลดภาระการผ่อนชำระหนี้ในแต่ละงวด ทำให้ผู้ซื้อมีสภาพคล่องทางการเงินมากขึ้นและสามารถนำเงินส่วนต่างไปใช้จ่ายอื่น ๆ ได้

ผู้พัฒนาอสังหาฯ จัดเต็มโปรโมชั่นสุดคุ้ม

บริษัทผู้พัฒนาอสังหาฯ ต่างแข่งขันนำเสนอโปรโมชั่นที่หลากหลายเพื่อกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการมอบส่วนลดพิเศษ ฟรีค่าส่วนกลาง ของแถมต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งโปรโมชั่นช่วยผ่อนดาวน์ และการเช่าออมบ้านเพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่

นอกจากนี้ผู้พัฒนาอสังหาฯ ยังได้จับมือกับธนาคารเพื่อนำเสนอโปรโมชั่นสินเชื่อที่มาพร้อมอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยได้ในราคาที่คุ้มค่า และช่วยลดค่าใช้จ่ายบางส่วนอีกด้วย

ยกระดับความพร้อมกับ 5 ขั้นตอนคนซื้อบ้านใหม่อย่างคุ้มค่า

ท่ามกลางปัจจัยบวกที่เอื้อต่อการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัย อย่างไรก็ดี ผู้บริโภคต้องไม่ลืมว่าหัวใจสำคัญของการซื้อที่อยู่อาศัยนั้นยังคงอยู่ที่การวางแผนและเตรียมความพร้อมอย่างรอบด้าน ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty) ขอแนะนำ 5 ขั้นตอนยกระดับความพร้อมเพื่อวางแผนซื้อบ้านใหม่ ช่วยให้คนหาบ้านเริ่มต้นก้าวแรกในการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยได้อย่างมั่นใจและคุ้มค่าในช่วงโอกาสทอง

  • เลือกที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมกับรายได้

การวางแผนซื้อบ้านอย่างเป็นระบบถือเป็นก้าวสำคัญในเส้นทางอสังหาฯ ผู้บริโภคควรเลือกบ้าน/คอนโดฯ ในฝันที่เหมาะสมกับสถานภาพทางการเงินเป็นหลัก โดยนำรายรับหลังหักค่าใช้จ่ายแล้วในแต่ละเดือนมาคำนวณวงเงินกู้สูงสุดที่คาดว่าจะได้รับ เพื่อหางบประมาณที่เหมาะสมในการซื้อที่อยู่อาศัย จากนั้นจึงพิจารณาความต้องการและไลฟ์สไตล์ของสมาชิกในครอบครัวเพื่อเลือกประเภทที่อยู่อาศัยและทำเลที่ตอบโจทย์

  • เรียนรู้การสร้างรากฐานทางการเงินที่มั่นคง

การบริหารจัดการแผนการเงินอย่างเป็นระบบจะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเตรียมความพร้อมเพื่อซื้อบ้าน/คอนโดฯ ได้มีประสิทธิภาพ เนื่องจากอสังหาฯ ถือเป็นทรัพย์สินที่มีราคาสูงและผ่อนชำระยาวนาน จึงจำเป็นต้องมีแผนการเงินที่รอบคอบเพื่อช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาทางการเงินในอนาคต

ผู้บริโภคควรเก็บออมเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อบ้านทั้งในส่วนเงินดาวน์และค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมต่าง ๆ ทั้งนี้ ผู้กู้ควรมีรายจ่ายไม่เกิน 40% ของรายได้ รวมไปถึงมีการออมเงินเพื่อเป็นกองทุนสำรองในกรณีฉุกเฉิน โดยควรตั้งเป้าหมายในการออมเงินสำรองให้เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่าย 3-6 เดือน ก่อนที่จะซื้อที่อยู่อาศัย

  • เครดิตการเงินดี มีชัยไปกว่าครึ่ง

ประวัติการเงินที่ดีถือเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ได้รับการอนุมัติสินเชื่อง่ายขึ้น เนื่องจากเป็นตัวบ่งชี้ถึงความน่าเชื่อถือและความสามารถในการชำระหนี้ โดยผู้บริโภคควรเริ่มสร้างประวัติทางการเงินที่ดีโดยชำระหนี้ต่าง ๆ ให้ตรงเวลา และพยายามลดภาระหนี้ที่ไม่จำเป็นให้ได้มากที่สุด เพื่อเพิ่มความสามารถในการผ่อนชำระหนี้และลดความเสี่ยงในการถูกปฏิเสธสินเชื่อ

ทั้งนี้ ธนาคารส่วนใหญ่จะพิจารณาความสามารถในการจ่ายชำระหนี้คืนได้ตามระยะเวลาที่กำหนด ประกอบกับอัตราส่วนภาระหนี้ต่อรายได้ (Debt Service Ratio: DSR) รวมถึงความมั่นคงของรายได้ที่ผู้กู้จะนำมาชำระหนี้ในอนาคต เพื่อประเมินความเสี่ยงทางการเงินก่อนพิจารณาอนุมัติสินเชื่อตามหลักเกณฑ์ของธนาคารต่อไป

  • เช็กให้ชัวร์ก่อนยื่นกู้ด้วย Pre-approve

การทำ Pre-approve สินเชื่อบ้าน หรือการยื่นประเมินสินเชื่อที่อยู่อาศัยในเบื้องต้นกับธนาคาร เป็นการขอตรวจสอบสถานภาพทางการเงินและความสามารถในการชำระหนี้ ซึ่งจะพิจารณาจากราคาขายที่อยู่อาศัยที่ผู้ขอสินเชื่อแจ้งไว้ ประกอบกับรายได้-รายจ่าย รวมทั้งเครดิตหรือความน่าเชื่อถือในการชำระหนี้

หากทำ Pre-approve ผ่าน หมายความว่าผู้บริโภคมีโอกาสที่จะขอสินเชื่อผ่านสูง แต่ถ้าผลไม่ผ่านก็ยังไม่ควรที่จะซื้อในเวลานี้ นอกจากนี้ ข้อดีของการทำ Pre-approve คือทำให้ผู้บริโภคทราบว่ามีความสามารถเพียงพอที่จะขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยในวงเงินประมาณนี้หรือไม่ ช่วยให้สามารถตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้นในการวางแผนขอวงเงินสินเชื่อและการเลือกธนาคาร

หาก Pre-approve ไม่ผ่าน ก็ช่วยให้ทราบว่าต้องปรับปรุงส่วนใดเพื่อเพิ่มความสามารถในการชำระหนี้ และนำไปแก้ไขก่อนยื่นกู้จริงในอนาคต

  • เปรียบเทียบโปรโมชั่นเด็ด คว้าดีลที่ดีที่สุด

ในสภาวะที่ตลาดมีการแข่งขันสูง บริษัทผู้พัฒนาอสังหาฯ ต่างแข่งขันนำเสนอโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้าและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ ดังนั้น ผู้บริโภคจึงควรติดตามโปรโมชั่นของโครงการต่าง ๆ ตั้งแต่เริ่มวางแผนซื้อเพื่อไม่ให้พลาดข้อเสนอที่ดีที่สุด โดยเฉพาะโครงการที่ร่วมมือกับธนาคารต่าง ๆ ให้ดอกเบี้ยอัตราพิเศษซึ่งจะมีระยะเวลาโปรโมชั่นเพียงชั่วคราว

จากนั้นจึงนำมาเปรียบเทียบว่าโปรโมชั่นจากโครงการใดที่คุ้มค่าและตอบโจทย์ได้ครอบคลุมมากที่สุดทั้งด้านการเงิน ทำเล และไลฟ์สไตล์ ทั้งนี้ ผู้บริโภคควรทำความเข้าใจเงื่อนไขและรายละเอียดของโปรโมชั่นต่าง ๆ อย่างละเอียด หากมีข้อสงสัยควรสอบถามพนักงานก่อนตัดสินใจ เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดในภายหลัง

ปัจจัยบวกในตลาดอสังหาฯ ปี 2568 ยังคงดึงดูดให้ผู้บริโภคที่มีความพร้อมทางการเงินมองเห็นโอกาสทองในการซื้อบ้าน/คอนโดฯ ทั้งเพื่ออยู่อาศัยเองและเพื่อลงทุน แน่นอนว่าการเตรียมความพร้อมอย่างรอบด้านทั้งการวางแผนทางการเงิน การสร้างเครดิตที่ดี การศึกษาข้อมูลโครงการ และการพิจารณาโปรโมชั่นอย่างรอบคอบ ล้วนเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยต่อเติมให้การมีบ้านในฝันของทุกคนเป็นจริงได้ในเร็ววัน

ทั้งนี้ ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (https://www.ddproperty.com) ได้รวบรวมข้อมูลโปรโมชั่นที่น่าสนใจจากผู้พัฒนาอสังหาฯ ชั้นนำของไทย มาพร้อมข้อมูลประกาศซื้อ/ขาย/เช่าในหลากหลายทำเลทั่วประเทศ รวมทั้งอัปเดตข่าวสารความรู้ที่เป็นประโยชน์ในการซื้อ/ขาย/เช่า เพื่อให้คนซื้อบ้านเตรียมความพร้อมก่อนเลือกที่อยู่อาศัยในฝันได้อย่างมั่นใจและราบรื่นยิ่งขึ้น

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...