ชาวไร่อ้อย บุกทวงเงินชดเชย ‘เอกนัฏ’ ชงครม.ขอ 5,000 ล้าน
ชาวไร่อ้อยเตรียมบุกยื่นหนังสือนายกฯอิ๊งค์ ทวงเงินชดเชยค่าตัดอ้อยสดลดการเผา “เอกนัฏ” เผยเสนอ ครม.แล้ว ขอ 5,000 ล้าน แต่ปรับจากให้เปล่ามาเป็นช่วยสนับสนุนซื้อเครื่องตัด อุปกรณ์สางใบ
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในวันที่ 10 มิถุนายน 2568 ชาวไร่อ้อยกำลังเตรียมยื่นหนังสือถึงนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อทวงเงินช่วยเหลือจากการตัดอ้อยสดแทนการเผา ซึ่งทางกระทรวงอุตสาหกรรมได้ส่งเรื่องเงินชดเชยไปแล้วให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบ และพิจารณาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา และหลายเดือนที่ผ่านมาอยู่ในระหว่างการเปิดหีบอ้อย ได้มีการพูดคุยและมีการทบทวนเรื่องดังกล่าวอยู่ตลอด คาดว่า ครม.จะเอาเข้าพิจารณากลั่นกรองอีกครั้งในเร็ววันนี้
“เรื่องเงินชดเชยการตัดอ้อยสดแทนการเผาอยู่ที่ ครม.แล้ว เราส่งเรื่องไปแล้ว วงเงินอาจไม่ถึง 7,000 ล้านบาท อยู่ที่ราว ๆ 5,000 ล้านบาทผมก็จะพยายามจัดแพ็กเกจให้มีความยั่งยืนที่สุดเพราะเราไม่อยากให้เป็นการให้เงินเปล่าไปเรื่อย ๆ มันต้องมีบางส่วนที่เขาต้องเริ่มทำอะไรใหม่ ๆ มันก็ต้องมีต้นทุน เราก็จะไปช่วยสนับสนุนตรงนี้ เหมือนโปรโมชั่นให้เขาทำก่อน ส่วนหนึ่งมันก็เป็นการลงทุนเพื่ออนาคตด้วย”
สำหรับมาตรการช่วยเหลือชาวไร่อ้อยในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการพลิกโฉมกระบวนการช่วยเหลือ ไม่ใช่ให้เปล่าเพียงอย่างเดียว มีทั้งในส่วนของการสนับสนุนอุปกรณ์ เครื่องจักร เครื่องตัดเครื่องสางใบ ชดเชยจากการขายใบอ้อยโดยปี 2567 ที่ผ่านมา พบว่ามีการขายใบเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว จาก 1 ล้านตัน เป็น 2 ล้านตัน และยังสร้างมูลค่าจากการผลิตไฟฟ้าได้เพิ่ม รวมถึงลด PM 2.5
ทั้งนี้ จากสถิติของสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) พบว่าการเผาอ้อยปี 2567 มีอ้อยเผาลดลงต่ำสุดเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศไทย จากเคยรับอ้อยเผามากกว่า 30% ลดลงมาเหลือเพียง 14% เท่านั้น
นอกจากนี้ ยังควบคุมและบังคับใช้กฎหมายกับโรงงานน้ำตาลทุกแห่งทั่วประเทศ โดย 4 สมาคมชาวไร่อ้อย ประกอบด้วย สหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย สถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสานสหสมาคมชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย ได้นัดรวมพลชาวไร่อ้อยกว่า 2,000 คน เพื่อยื่นหนังสือนายกรัฐมนตรีที่พรรคเพื่อไทย จากกรณีที่รัฐบาลได้มีนโยบายลดการเผาเพื่อแก้ปัญหามลพิษฝุ่น PM 2.5 ด้วยการส่งเสริมให้ชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดเพื่อลดปัญหามลพิษในฤดูการผลิตปี 2567/2568 ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ได้สิ้นสุดฤดูเก็บเกี่ยวอ้อยแล้ว
สำหรับผลการให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสดในฤดูกาลนี้ ปรากฏว่าจากเป้าหมายลดการเผาอ้อย 25% เมื่อปิดหีบอ้อยสามารถลดการเผาลงเหลือเพียง 14.86% หรือเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) ได้มีมติให้ปรับเปลี่ยนแนวทางและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่เก็บเกี่ยวอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 (งบประมาณ 7,000 ล้านบาท) เพื่อสร้างแรงจูงใจในการเก็บเกี่ยวอ้อยสด 100% โดยจะจ่ายเงินให้ชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสด และเพิ่มราคารับซื้อใบอ้อยและยอดอ้อยที่ใช้เป็นวัตถุดิบป้อนเข้าโรงงานไฟฟ้าชีวมวล เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับชาวไร่อ้อยส่วนหนึ่ง
แต่จนถึงขณะนี้โรงงานน้ำตาลทั่วประเทศได้ปิดหีบอ้อยไปตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2568 แล้ว แต่นโยบายการจ่ายเงินให้กับชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดและเพิ่มราคารับซื้อใบอ้อยและยอดอ้อยที่ส่งเข้าโรงไฟฟ้าชีวมวล (ประมาณ 120 บาท/ตัน) ยังไม่ได้นำเข้าพิจารณาใน ครม.แต่อย่างใด ดังนั้น ชาวไร่อ้อยกว่า 2,000 คนทั่วประเทศจะมีการนัดรวมตัวเพื่อยื่นหนังสือขอให้ ครม.เร่งพิจารณาช่วยเหลือตามนโยบายรัฐโดยด่วน
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ชาวไร่อ้อย บุกทวงเงินชดเชย ‘เอกนัฏ’ ชงครม.ขอ 5,000 ล้าน
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net