ยอดขายนาฬิกาหรู Rolex และ Patek Philippe มือสองในเดือนเม.ย.พุ่ง คนแห่ซื้อก่อนโดนภาษีทรัมป์
นักสะสมนาฬิกาหรูรีบหาซื้อนาฬิกา Rolex และ Patek Philippe มือสองในช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยทุ่มเงินจำนวนมากก่อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ จะประกาศใช้มาตรการภาษีนำเข้าที่อาจเกิดขึ้น
Subdial ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายนาฬิกา พบว่า มักจะมีการซื้อขายที่มากขึ้นหลังจากวันเงินเดือนออกในแต่ละเดือน แต่ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ยอดการซื้อขายหลังวันเงินเดือนออกเพิ่มขึ้น 160% เมื่อเทียบกับระดับการซื้อขายปกติ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ย 112% ที่เกิดขึ้นในวันเงินเดือนออกอื่นๆ ตลอดปีที่ผ่านมา
คริสตี้ เดวิส ผู้ก่อตั้ง Subdial ในกรุงลอนดอน กล่าวว่า ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นมากเป็นพิเศษในสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร "ผู้คนได้ยินข่าวเรื่องภาษี และคิดว่า 'โอ้แย่แล้ว ซื้อตอนนี้เลยดีกว่า' พวกเขารอวันเงินเดือนออก แล้วยอดขายก็พุ่งกระฉูด"
ปรากฏการณ์นี้สะท้อนแนวโน้มอีกอย่างที่พบในสวิตเซอร์แลนด์ ที่พบว่าการส่งออกนาฬิกาพุ่งขึ้นเกือบหนึ่งในห้าในเดือนเมษายน โดยเฉพาะการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว ก่อนที่ทรัมป์จะขยายมาตรการภาษีตามที่ขู่ไว้ สหพันธ์อุตสาหกรรมนาฬิกาสวิส ระบุว่า นาฬิกาที่ทำจากโลหะมีค่า สเตนเลส และวัสดุสองชนิดผสมกัน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทรัมป์เล็งเป้าหมายไว้เช่นกัน มีอัตราการเติบโตมากที่สุด
ฌอง-ฟิลิปป์ เบิร์ตชี นักวิเคราะห์จาก Vontobel กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นของการส่งออกไปยังสหรัฐฯ อาจเป็นเพียงการตอบสนองครั้งเดียวของผู้ส่งออกที่ต้องการหลีกเลี่ยงภาษีที่สูงขึ้น มากกว่าจะเป็นการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์เชิงโครงสร้าง การส่งออกนาฬิกาสวิสไปยังส่วนอื่นๆ ของโลกลดลง 6.4% ในเดือนดังกล่าว ซึ่งยังคงเป็นการเริ่มต้นปีที่อ่อนแอ
ขณะที่ตลาดนาฬิกามือสองยังคงฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปจากจุดต่ำสุดหลังการแพร่ระบาด ในเดือนกุมภาพันธ์ ดัชนี Bloomberg Subdial Watch Index เพิ่มขึ้นประมาณ 5.3% จนถึงปลายเดือนพฤษภาคม กลับสู่ระดับที่เคยเห็นในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ราคาดังกล่าวยังห่างไกลจากระดับที่เคยพุ่งสูงขึ้นเมื่อสามปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่ราคาของนาฬิกาหรูมือสองทะยานขึ้นอย่างมากเมื่อการล็อกดาวน์จากโควิดสิ้นสุดลง
อ้างอิง : bloomberg.com