โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

“ กรุณพล ” ซัดกรมข้าว ละลายงบปีละหลายหมื่นล้านบาท

The Better

อัพเดต 29 พ.ค. เวลา 09.08 น. • เผยแพร่ 29 พ.ค. เวลา 09.03 น. • THE BETTER
“กรุณพล” แฉ สส.นำเมล็ดพันธุ์เก่ามาสีแจกจ่ายในนามตัวเอง - งบหมื่นล้าน แก้ปัญหาชาวนา ไม่ตรงจุด

นายกรุณพล เทียนสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายว่าจากการใช้งบประมาณที่ผิดทิศผิดทางมาตลอด 2 ปีของรัฐบาลนี้ ตนขอเป็นตัวช่วยรัฐบาลหาเงินในโอกาสสุดท้าย ก่อนที่เศรษฐกิจไทยจะพังแบบจริงๆจังๆ โดยเฉพาะกับเกษตรกรไทยกว่า 60% เป็นเกษตรกรผู้ปลูกข้าว และหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงเกี่ยวกับข้าวในประเทศนี้คือ กรมการข้าว ที่ผ่านมาจะเห็นชาวนาเรียกร้องปัญหาราคาข้าวทุกปี เราใช้งบประมาณปีละเป็นหมื่นเป็นแสนล้านในการแก้ปัญหาให้กับชาวนา แต่ไม่สามารถแก้ไขได้อย่างเด็ดขาด ทุกวันนี้ตลาดข้าวของประเทศไทยถูกเวียดนามและอินเดียทุบจนแทบไม่เหลือเค้าโครง เพราะไม่มีพันธุ์ข้าวชั้นดีที่สามารถให้ผลผลิตได้มากเทียบเท่ากับประเทศคู่แข่ง

นายกรุณพล กล่าวว่า มีเกษตรกรตกหล่นจากการได้เมล็ดพันธุ์ชั้นดีกว่า 90% ของเกษตรกรทั้งประเทศ ซึ่งงานวิจัยของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ และ ศูนย์นโยบายข้าวแห่งจุฬา มีความเห็นว่าโครงการลักษณะนี้ ไม่สามารถสร้างพฤติกรรมให้เกษตรกรไทยเปลี่ยนมาผลิตและเก็บเมล็ดพันธุ์ชั้นดีด้วยตัวเองในระยะยาวได้ เพราะขาดการติดตามผล ไม่มีการสร้างตลาดเมล็ดพันธุ์ที่ยั่งยืน และที่สำคัญไม่มีแผนส่งเสริมให้เกษตรกร ผลิตเมล็ดพันธุ์ใช้เองอย่างมีระบบ เพราะคุ้นชินกับการได้รับแจกในราคาถูกแทนที่จะพัฒนาสายพันธุ์ข้าวใหม่ ที่ผลผลิตสูง ต้านทานโรค ระยะเวลาเก็บเกี่ยวสั้น แต่ดันเลือกการใช้งบประมาณที่ได้ปีละ 4,400 ล้านบาท ในการจัดซื้อครุภัณฑ์ ฝึกอบรมและแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์แทน การลงทุนในการพัฒนาสายพันธุ์เพื่อสู้กับคู่แข่ง ประเทศเวียดนามใช้เงินลงทุนในการพัฒนาสายพันธุ์ปีละ 1,000 กว่าล้านบาท แต่ของไทยปีละ 100 กว่าล้านบาท จึงถือว่ากรมการข้าวล้มเหลวในภารกิจหลักและเป็นตัวสร้างปัญหาให้กับชาวนาไทย อย่างแท้จริง

สิ่งที่น่ากังวลใจอีกอย่างคือความโปร่งใสตามระเบียบผู้ที่จะได้รับแลกเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ต้องลงทะเบียนและรับเมล็ดพันธุ์จากกรมการข้าวเท่านั้น ซึ่งเมล็ดพันธุ์เก่าที่นำมาแลก กรมการข้าวจะนำไปทำอะไรก็ได้ แต่มีการแลกเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ที่ดูน่าสงสัยว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับนักการเมืองและพรรคการเมืองฝั่งรัฐบาลหรือไม่ เพราะมี สส.นำข้าวไปสีแล้วแจกจ่ายประชาชนในนามตัวเอง

“อยากตั้งคำถามไปที่กรมการข้าวว่า สส.ใช้สิทธิอะไรในการกระทำการแลกเปลี่ยนข้าวแทนกรมการข้าว ใช้สิทธิอะไรในการนำข้าวเก่าที่เกษตรกรเอามาแลก ไปสีและแจกจ่ายในนามของตัวเอง และใช้สิทธิอะไรถึงนำข้าวจากกรมการข้าวมาแลกเปลี่ยนที่ทำการที่มีชื่อและสัญลักษณ์ของพรรคเพื่อไทย” นายกรุณพล กล่าว

นายกรุณพล กล่าวว่า ตามระเบียบของกรมการข้าว ผู้สามารถรับพันธุ์ข้าวต้องเป็นสมาชิกข้าวชุมชน หรือเป็นครัวเรือนเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้ และจะได้รับข้าวไม่เกิน 450 กิโลกรัมต่อครัวเรือน

สำหรับโครงการแปลงนาสาธิตในแต่ละภูมิภาค ที่ให้เกษตรกรมาดูเป็นตัวอย่าง และนำกลับไปใช้ในพื้นที่นานั้น ลงทุนอยู่ที่แปลงละ 2.5 ล้านบาท ประกอบด้วย โดรนพ่นยาเซ็นเซอร์ ตรวจวัดคุณภาพดิน เครื่องปรับพื้นนาด้วยเลเซอร์ เซ็นเซอร์การวัดน้ำอัตโนมัติ เครื่องตรวจวัดการปล่อยคาร์บอน สถานีตรวจวัดอากาศ เครื่องวิเคราะห์ธาตุอาหารในใบพืช โดรนบินสำรวจกล้องละเอียดขนาด 4k

นายกรุณพล กล่าวว่า ทั้งหมดนี้ไม่มีตัวชี้วัดว่าเกษตรกรในพื้นที่สามารถนำไปต่อยอดได้กี่ราย หากลงทุนจะคืนทุนภายในระยะเวลาเท่าไหร่มีความจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีไหน สุดท้ายแล้วงบประมาณ 200 กว่าล้านบาทที่ลงไป ก็จะเป็นได้แค่ “โชว์รูมอัจฉริยะที่มีไว้เผางบประมาณและหาเงินเงินทอน”

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...