MASTER ร่วงหนัก 13% หลังผลงาน Q1/68 ต่ำคาด โบรกฯ ยังแนะ “ซื้อ” และ “Trading Buy” มองกำไรฟื้น-อุตสาหกรรมเติบโตระยะยาว
MASTER ร่วงหนัก 13% หลังผลงานไตรมาส 1/68 ลดฮวบ ต่ำกว่าคาด ฟากโบรกฯ ปรับตัวแนะทั้ง “ซื้อ” และ “Trading Buy” มองกำไรฟื้นรายไตรมาส ขณะที่อุตสาหกรรมยังเติบโตได้ในระยะยาว
วันนี้ (14 พ.ค. 68) ราคาหุ้นของ บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER ปิดตลาดภาคเช้าอยู่ที่ระดับ 15.80 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ -13.66% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 68.80 ล้านบาท โดยปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลง คาดว่ามาจากผลการดำเนินงานไตรมาส 1/68 ที่ออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ คงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมาย 26.75 บาท โดย MASTER ประกาศกำไรสุทธิอยู่ที่ 56 ลบ. (-74.6% จากไตรมาสก่อน, -47.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน) และต่ำกว่าคาด 29%
ทั้งนี้ แม้ว่าผลประกอบการของ MASTER ค่อนข้างน่าผิดหวัง แต่ก็เป็นไตรมาสที่รับปัจจัยลบเต็มที่ทั้งผลของปัจจัยฤดูกาล การออกกฎของ สบส. ที่ทำให้การทำการตลาดยากขึ้น และต้องมีการลงทุนทางการตลาดซ้ำซ้อนจากค่าใช้จ่ายทางการตลาดเดิม และมีการจ้างที่ปรึกษาในการคำนวณมูลค่าตัดจำหน่าย PPA ของบริษัทร่วม
อย่างไรก็ดี คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวของกำไรรายไตรมาส โดยจะเด่นในช่วงครึ่งปีหลัง 2568 จึงมองว่าหากมีการ Panic sell จากงบที่ออกมาแย่กว่าคาด เป็นโอกาสในการถัวเฉี่ยสำหรับผู้มีต้นทุนสูง หรือซื้อลงทุนสำหรับผู้ไม่มีสถานะ เพราะการปรับประมาณการลงอย่างมีนัยสำคัญของบล.หยวนต้า ทำให้ได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 26.75 บาท ยังมี Upside gain 46.2% และที่ราคาตลาดปัจจุบัน ซื้อขายที่ PER2025 หลังปรับประมาณการลงแล้วที่ 13.7 เท่า สะท้อนว่าที่ราคาตลาดสะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว
นอกจากนี้ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ ราคาหุ้น MASTER -32% หลังมีประเด็นการเข้มงวดด้านโฆษณา และกระทบต่อโครงสร้างอุตสาหกรรม และผลประกอบการระยะสั้น แต่จุดดีคือช่วยลดผู้ประกอบการรายย่อยที่แบรนด์ไม่แข็งแกร่งและมีข้อจำกัดเงินทุนในระยะยาว และยังมองภาพอุตสาหกรรมยังเติบโตได้ในระยะยาว ทั้งนี้ หากราคาหุ้นอ่อนตัวจากงบต่ำคาด แนะนำ “Trading Buy” เชิงตั้งรับจากราคาเป้าหมายใหม่ที่ 21.20 บาท
ทั้งนี้ ปรับสมมติฐานกำไรปี 2568-69 ลงเฉลี่ย -15% จากปรับลดสมมติฐานรายได้, ลด Gross margin, เพิ่ม SG&A และลด ส่วนแบ่งกำไรจาก JV ปี 2568-69 เหลือ 58/83 ลบ. (เป้าบริษัทปี 2568 80-100 ลบ.) จากผลของมาตรฐานบัญชี PPA โดยกำไรใหม่ปี 2568 คาด 456 ล้านบาท -15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ประเมินบริษัทยังต้องใช้เวลาในการปรับโฆษณาอีก 3-6 เดือน โดยมองกำไรไตรมาส 2/68 ยังลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนหน้า