โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

MASTER ร่วงหนัก 13% หลังผลงาน Q1/68 ต่ำคาด โบรกฯ ยังแนะ “ซื้อ” และ “Trading Buy” มองกำไรฟื้น-อุตสาหกรรมเติบโตระยะยาว

Wealthy Thai

อัพเดต 14 ต.ค. เวลา 04.56 น. • เผยแพร่ 14 พ.ค. เวลา 04.58 น.

MASTER ร่วงหนัก 13% หลังผลงานไตรมาส 1/68 ลดฮวบ ต่ำกว่าคาด ฟากโบรกฯ ปรับตัวแนะทั้ง “ซื้อ” และ “Trading Buy” มองกำไรฟื้นรายไตรมาส ขณะที่อุตสาหกรรมยังเติบโตได้ในระยะยาว
วันนี้ (14 พ.ค. 68) ราคาหุ้นของ บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER ปิดตลาดภาคเช้าอยู่ที่ระดับ 15.80 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ -13.66% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 68.80 ล้านบาท โดยปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลง คาดว่ามาจากผลการดำเนินงานไตรมาส 1/68 ที่ออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ คงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมาย 26.75 บาท โดย MASTER ประกาศกำไรสุทธิอยู่ที่ 56 ลบ. (-74.6% จากไตรมาสก่อน, -47.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน) และต่ำกว่าคาด 29%
ทั้งนี้ แม้ว่าผลประกอบการของ MASTER ค่อนข้างน่าผิดหวัง แต่ก็เป็นไตรมาสที่รับปัจจัยลบเต็มที่ทั้งผลของปัจจัยฤดูกาล การออกกฎของ สบส. ที่ทำให้การทำการตลาดยากขึ้น และต้องมีการลงทุนทางการตลาดซ้ำซ้อนจากค่าใช้จ่ายทางการตลาดเดิม และมีการจ้างที่ปรึกษาในการคำนวณมูลค่าตัดจำหน่าย PPA ของบริษัทร่วม
อย่างไรก็ดี คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวของกำไรรายไตรมาส โดยจะเด่นในช่วงครึ่งปีหลัง 2568 จึงมองว่าหากมีการ Panic sell จากงบที่ออกมาแย่กว่าคาด เป็นโอกาสในการถัวเฉี่ยสำหรับผู้มีต้นทุนสูง หรือซื้อลงทุนสำหรับผู้ไม่มีสถานะ เพราะการปรับประมาณการลงอย่างมีนัยสำคัญของบล.หยวนต้า ทำให้ได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 26.75 บาท ยังมี Upside gain 46.2% และที่ราคาตลาดปัจจุบัน ซื้อขายที่ PER2025 หลังปรับประมาณการลงแล้วที่ 13.7 เท่า สะท้อนว่าที่ราคาตลาดสะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว
นอกจากนี้ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ ราคาหุ้น MASTER -32% หลังมีประเด็นการเข้มงวดด้านโฆษณา และกระทบต่อโครงสร้างอุตสาหกรรม และผลประกอบการระยะสั้น แต่จุดดีคือช่วยลดผู้ประกอบการรายย่อยที่แบรนด์ไม่แข็งแกร่งและมีข้อจำกัดเงินทุนในระยะยาว และยังมองภาพอุตสาหกรรมยังเติบโตได้ในระยะยาว ทั้งนี้ หากราคาหุ้นอ่อนตัวจากงบต่ำคาด แนะนำ “Trading Buy” เชิงตั้งรับจากราคาเป้าหมายใหม่ที่ 21.20 บาท
ทั้งนี้ ปรับสมมติฐานกำไรปี 2568-69 ลงเฉลี่ย -15% จากปรับลดสมมติฐานรายได้, ลด Gross margin, เพิ่ม SG&A และลด ส่วนแบ่งกำไรจาก JV ปี 2568-69 เหลือ 58/83 ลบ. (เป้าบริษัทปี 2568 80-100 ลบ.) จากผลของมาตรฐานบัญชี PPA โดยกำไรใหม่ปี 2568 คาด 456 ล้านบาท -15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ประเมินบริษัทยังต้องใช้เวลาในการปรับโฆษณาอีก 3-6 เดือน โดยมองกำไรไตรมาส 2/68 ยังลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนหน้า

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...