โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

กรมควบคุมโรค รับ โควิด 19 หลังสงกรานต์ พุ่งสูงถึง 7 หมื่นราย อัตราตายสูงกว่าไข้หวัดใหญ่

Khaosod

อัพเดต 14 พ.ค. เวลา 08.39 น. • เผยแพร่ 14 พ.ค. เวลา 08.19 น.
กรมควบคุมโรค รับ โควิด 19 หลังสงกรานต์ พุ่งสูงถึง 7 หมื่นราย อัตราตายสูงกว่าไข้หวัดใหญ่

กรมควบคุมโรค รับ โควิด 19 หลังสงกรานต์ พุ่งสูงถึง 7 หมื่นราย แต่อัตราป่วยตายยังไม่มาก อยู่ที่ 0.03 สูงกว่าไข้หวัดใหญ่ ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว

วันที่ 14 พ.ค.2568 ที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พญ.จุไร วงศ์สวัสดิ์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิและโฆษกกรมควบคุมโรค แถลงข่าวสถานการณ์โรคแอนแทรกซ์ โรคไข้หวัดใหญ่ และ โรคโควิด-19 ว่า สำหรับโรคแอนแทรกซ์ ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน ที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อแอนแทรกซ์ ตอนนี้ใน จ.มุกดารหาร มีผู้ป่วยสะสม 4 ราย เสียชีวิต 1 ราย ส่วนผู้สัมผัสใกล้ชิด 636 รายไม่พบผู้ป่วยเพิ่มเติม ค่อนข้างสบายใจได้และพ้นระยะฟักตัวที่เฝ้าระวังแล้ว

แต่ยังต้องมีการเฝ้าสังเกตการณ์แอนแทรกซ์ในปอด ที่มีระยะฟักตัวประมาณ 2 เดือน แต่ในขณะนี้ไม่มีผู้ที่แสดงอาการทางผิวหนังและในระบบทางเดินอาหาร ก็ค่อนข้างสบายใจได้ ค่อนข้างปลอดภัย ขณะที่ จังหวัดอื่นๆ พบผู้เข้าข่ายสงสัยป่วยแอนแทรกซ์ 15 ราย แต่ผลเป็นลบทั้งหมด

"มีแนวโน้มอาจพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากในปี 2567 ที่ผ่านมามีรายงานสถานการณ์โรคแอนแทรกซ์ในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว เวียดนาม และ อินโดนีเซีย เราจึงต้องเฝ้าระวัง เลี่ยงการทานเนื้อสัตว์ที่ไม่มีที่มา สัตว์ป่วยตาย และต้องปรุงสุกเท่านั้น ผู้ที่ชำแหละสัตว์ต้องป้องกันตัวเอง ใส่ถุงมือให้ดี หากมีประวัติสัมผัสสัตว์ที่ตาย แล้วเกิดอาการทางผิวหนังและระบบทางเดินอาหารให้พบแพทย์พร้อมแจ้งประวัติเสียง" พญ.จุไร กล่าว

พญ.จุไร กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์โรคไข้หวัดในปี 2568 ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับข้อมูลย้อนหลัง 5 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-14 พฤษภาคม พบผู้ป่วยสะสม 328,103 ราย เสียชีวิต 33 ราย ผู้ป่วยยังเป็นกลุ่มเด็กเล็กต่ำกว่า 5 ปี แต่พบการเสียชีวิตมากในผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี และผู้มีโรคประจำตัว เช่น โรคไต โรคหลอดเลือดหัวใจ ความดันโลหิตสูง วัณโรคปอด และภาวะบกพร่องทางสติปัญญา ไปจนถึงผู้ที่ไม่มีประวัติรับวัคซีน ซึ่งอัตราป่วยตายอยู่ที่ 0.01 เท่าเดิม

ส่วนสายพันธุ์ที่ตรวจพบมากคือ สายพันธุ์เอ H1N1 รองลงมาเป็น สายพันธุ์บี และสายพันธุ์เอ H3N2 อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ภายหลังสงกรานต์ มีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้นแต่ไม่มาก และดูเหมือนมีแนวโน้มลดลง

ทั้งนี้ขอให้ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี, ผู้สูงอายุที่อายุ 65 ปีขึ้นไป, ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้, ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค ได้แก่ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน, ผู้ที่เป็นโรคธาลัสซีเมียและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง, ผู้ที่ป่วยเป็นโรคอ้วน และ หญิงตั้งครรภ์ เข้ารับวัคซีนได้จนถึงเดือนสิงหาคมนี้

พญ.จุไร กล่าวต่อว่า สำหรับสถานโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-14 พฤษภาคม มีผู้ป่วยสะสม 71,067 ราย ผู้เสียชีวิต 19 ราย ต้องยอมรับว่าผู้ป่วยโควิดเพิ่มขึ้นอย่างมากชัดเจน แต่อัตราป่วยตายไม่ได้สูงขึ้น ข้อมูลก่อนสงกรานต์ วันที่ 1-10 เมษายน พบผู้ป่วยประมาณ 12,505 ราย พอหลังสงกรานต์พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 4-5 หมื่นราย และข้อมูลปัจจุบันก็อยู่ที่ประมาณ 7 หมื่นราย

ขณะที่ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มผู้มีโรคประจำตัว โดยร้อยละ 84 มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ร่วมกับอาการระบบทางเดินหายใจเช่น ปอดอักเสบ โดยสายพันธ์ที่พบมากที่สุดยังคงเป็น XEC เป็นสายพันธุ์ที่ไม่ได้ก่อโรครุนแรงแต่แพร่กระจายเชื้อได้ดี

ทั้งนี้ อัตราการป่วยตายอยู่ที่ 0.03 สูงกว่าไข้หวัดใหญ่ จึงเป็นโรคที่ต้องเฝ้าระวัง ผู้ที่มีอาการป่วยระบบทางเดินหายใจต้องสวมหน้ากากอนามัย และเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสังคม เพื่อลดการแพร่เชื้อ

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : กรมควบคุมโรค รับ โควิด 19 หลังสงกรานต์ พุ่งสูงถึง 7 หมื่นราย อัตราตายสูงกว่าไข้หวัดใหญ่

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...