โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

เปิดชีวิตนักร้อง 500 ล้านวิว จากเด็กต่างจังหวัด สู่นักร้องแถวหน้า

The Bangkok Insight

อัพเดต 09 พ.ค. เวลา 02.30 น. • เผยแพร่ 09 พ.ค. เวลา 01.59 น. • The Bangkok Insight

เปิดชีวิต โจอี้ ภูวศิษฐ์ จากเด็กต่างจังหวัดสู่นักร้องแถวหน้า มูหนักเปลี่ยนทั้งชื่อ-นามสกุล

นักร้อง 500 ล้านวิว โจอี้ ภูวศิษฐ์ ที่วันนี้จะมาย้อนเล่าเส้นทางชีวิตจากเด็กต่างจังหวัดสู่ศิลปินแถวหน้าของเมืองไทย เกือบถอดใจกับวงการเพลง พร้อมกับการมูเตลูขั้นสุดเปลี่ยนทั้งชื่อ นาทสกุล อีกทั้งยังเปิดเส้นทางความรักกับแฟนสาว เจน เนลินญาน์ นางเอกเอ็มวีนะหน้าทอง เข้าตำรา นักร้องหนุ่มหน้าหล่อกับนางเอกเอ็มวีคนสวย ผ่านทาง รายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มี เบนซ์ พรชิตา และ ชมพู่ ธัณย์สิตา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

เปิดชีวิต โจอี้ ภูวศิษฐ์ จากเด็กต่างจังหวัดสู่นักร้องแถวหน้า

เรียกว่าหนุ่ม 500 ล้านวิวได้ไหม?

โจอี้ : ครับ

แต่กว่าจะมาเป็นหนุ่ม 500 ล้านวิวมันไม่ง่าย เรียกว่าชีวิตวัยเด็กลำบากเหมือนกัน?

โจอี้ : ครับ ฐานะทางครอบครัวถือว่าลำบาก แต่เราไม่รู้สึกลำบาก พออยู่ได้ แฮปปี้ในความเป็นครอบครัวเกษตรตกร ลูกชาวนา

คุณพ่อเสียตั้งแต่โจอี้เด็ก ๆ เหรอ?

โจอี้ : ตั้งแต่ 5 ขวบ ก็อยู่กับแม่ ตา ยาย ได้ความช่วยเหลือจากครอบครัวทางฝั่งพ่อด้วย ผมก็เหมือนเด๋กไทบ้านทั่วไปเลยครับ อยู่ง่ายๆ กับทุ่งนา เล่นกับเพื่อนโดดน้ำเล่น เหมือนเด็กอีสานทั่วไป

ที่บ้านไม่ได้มีแค่เรา?

โจอี้ : ไม่ได้มีแค่เรา มีลูกของลุง 2 คน แล้วก็พี่สาว ครอบครัวผมจะเป็นหลานสาวหมด ผมจะเป็นหลานชายคนเดียว อยู่ที่จังหวัดร้อยเอ็ด

ช่วงชีวิตตอนเด็กไม่ได้คิดว่าลำบาก เพราะเด็กสนุกสนาน แล้วช่วงนึงรู้สึกว่าขาดอะไรไหม เพราะคุณแม่ก็เข้ามาทำงานในกรุงเทพ?

โจอี้ : ไม่นะรรับ ตัวผมไม่รู้สึกว่าจะต้องเรียกร้องอะไร ยายก็เลี้ยงดูเรามาดี ตาก็เลี้ยงดูเรามาดี แม่ก็ดูแลเราดี เราก็รู้สึกว่าครอบครัวเราก็อบอุ่นดี ก็รู้สึกมีความสุขดี เพื่อนก็น่ารัก ชีวิตวัยเด็กตอนนั้นมันก็มีความสุขมาก ๆ คือตั้งแต่พ่อเสีย จำได้ว่าแม่ก็ต้องมาทำงานที่กรุงเทพเลย เพราะว่าแม่เป็นคนหาเงินเพื่อจุนเจือครอบครัว คือเป็นเสาหลัก

แม่มาทำอะไรพอจะทราบไหม?

โจอี้ : นวดแผนโบราณครับ นวดไทย ถ้าผมปิดเทอมก็จะมาอยู่กับแม่ที่กรุงเทพ หรือบางเทศกาลแม่ก็จะกลับมาหา

แม่ใจดีมาก?

โจอี้ : ใช่ครับ แม่จะหามาให้ แต่ผมเป็นคนไม่ค่อยเรียกร้องอะไร ก็รู้ว่าแม่ลำบาก กว่าจะหาเงินได้ในแต่ละวัน แต่พอเข้าสู่วัยรุ่นก็บอกแม่ผมอยากฟังเพลง อยากได้มือถือที่มันเปิดเพลงฟังได้ แม่ก็หามาให้ แต่แม่เรากว่าจะหาเงินมาได้แต่ละบาท ตอนนั้นเรายังไม่ได้คิด คิดว่าแม่คงหาเงินได้

แล้วมารู้ความจริงตอนไหน?

โจอี้ : ตอนโตครับ ตอนที่เราเริ่มที่จะทำงาน เริ่มโตขึ้น เริ่มคิดว่าบ้านเราน่าจะดีกว่านี้ น่าจะซ่อมบ้านให้ดีกว่านี้ ก็เลยคิดว่าแม่น่าจะหาเงินยาก เพราะว่าแม่ผมไปหลายที่มาก บางทีไปต่างประเทศ ต้องดิ้นรนไปอยู่ไกลบ้านตั้งหลายปี ส่งลูกเรียน2คน ผมก็เลยคิดกับตัวเองว่าไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ผมจะเป็นเสาหลักของครอบครัวนี้ ดูแลครอบครัวนี้ให้ดีที่สุด เท่าที่อยู่ได้

เห็นแม่เหนื่อย ที่ผ่านมาแม่ไปกู้หนี้ ยืมสิน ก็เลยคิดว่าแม่นี่แหละเป็นไอดอลในการใช้ชีวิตของเรา?

โจอี้ : ใช่ครับ แม่เป็นฮีโร่ของผม เรามีเป้าหมายเดียว คืออยากให้ครอบครัว อยู่ดีกินดี แต่ไม่รู้ทำได้หรือเปล่า เพราะตอนนั้นยังไม่ได้เป็นนักร้อง ยังไม่ได้ไปเรียนครูเลย ตอนนั้นก็คิดเลยเป้าหมายแรกให้ครอบครัวสบาย

แสดงว่าที่เราเลือกเรียนครู คืออยากทำให้ครอบครัวดีขึ้น?

โจอี้ : ใช่ครับ ตอนแรกผมจบ ม.6 ตอนแรกคิดว่าจะเรียนอะไรดี ก็ตัดสินใจลองสอบครู เรียน 5 ปี จบมาเผื่อได้บรรจุ รับราชการ สวัสดิการดี ได้ดูแลตายาย แม่ คิดแค่นั้นเลยครับ

เกือบได้เป็นครูหนุ่ม แต่เส้นทางพลิกผัน จากครูมาสู่เดอะวอยซ์?

โจอี้ : ครับตอนนั้นอยู่ในช่วงผมเรียนมหาวิทยาลัยใกล้จบแล้ว อยากทำอะไรที่มันท้าทายตัวเอง สิ่งที่เราชอบคือ การร้องเพลง เดอะวอยซ์มันไกลตัวมากเลย ถ้าเราได้เข้าไปมันเกินที่เราฝัน เกินที่เราคิด

ใครพาไป?

โจอี้ : ผมสมัครเองเลยครับ ตอนนั้นผมอยู่ปี4 กำลังฝึกสอนอยู่ ใกล้จบแล้ว ส่งคลิปไปเลย เขาบอกผ่านเข้ารอบ ต้องมาคัดตัวที่กรุงเทพประมาณ 2 รอบ ก็นั่งรถบัสมา แล้วแม่ก็พามาทีนึง ขอเงินพี่สาว คือซัพพอร์ตกัน

เป็นการประกวดครั้งแรก แต่ทำผลงานได้ประจักษ์สายตาโค้ชมาก ๆ จนจบรายการไม่เป็นแล้วครู มาอยู่บ้านพี่โปรดิวเซอร์?

โจอี้ : ครับ พอจบรายการ เรารู้สึกว่าอารมณ์มันค้าง มันยังไม่สุด ยังอยากทำอะไรที่มันเกี่ยวกับเส้นทางนี้อีกที แล้วพอดีพี่โปรดิวเซอร์มาชวนทำเพลง แล้วไปอยู่บ้านกับเขา สัก 3 ปี ถ้ามันไม่สำเร็จ โจอี้ค่อยกลับไปสอบครู ผมก็ไปอยู่กับพี่เขา และอยู่กับพี่ป๊อบ เพราะผมอยู่ทีมพี่ป๊อบ อยู่ด้วยกัน ไปทำบุญ ช่วงโควิดก็อยู่แต่บ้านพี่ป๊อบ

พอเราเข้ามาตรงนี้ เรารู้สึกว่าเป็นสิ่งที่เราอยากทำ?

โจอี้ : ใช่ครับ มันจะมีความรู้สึกแบบว่ากูต้องมาวะ พักการสอบครูไว้ก่อน ยังไงก็ต้องมาลุยสายนี้ พี่แบงค์ โปรดิวเซอร์เขาบอกว่าเสียงอย่างเอ็ง คือเสียงฟ้าประทานจะเสียดายมากถ้าเอ็งไม่ไปต่อ ผมก็ไปอยู่บ้านพี่แบงค์ 3-4 ปีเลยนะ อยู่ด้วยกันจนไปทัวร์คอนเสิร์ตกับพี่ป๊อบ ผมไปเป็นมือกีต้าร์ให้พี่ป๊อบ จนได้เซ็นสัญญาอยู่ค่ายแกรมมี่

กี่ปีถึงได้เซ็นสัญญา?

โจอี้ : ผมว่าน่าจะประมาณ 3 ปี พอปีสุดท้ายที่จะครบ 3 ปี ประมาณ 2-3 เดือน เพลง ดวงเดือนผมปล่อยมาแล้ว แต่มันไม่ประสบความสำเร็จตรงที่ว่า มันดังนะตอนช่วงโควิด แต่คนไม่ได้รู้จักว่าเพลงนี้เป็นของใคร ถ้าเป็นทุกวันนี้ เรายังไปถ่ายรายการ ทัวร์คอนเสิร์ตได้เพราะเพลงมันดัง ตอนนั้นเพลงดัง แต่คนไม่รู้จักเรา ไม่มีคอนเสิร์ต ไม่มีงานจ้าง เพลงดังแต่ตัวเรายังอยู่กับที่ มันก็มีความแบบว่าหรือมันจะถึงเวลาเราแล้ว เราไปสอบครูไว้ก่อน แต่ก็คิดว่าไปสอบไว้แหละ ถ้าผ่านก็เป็นทั้งครูทั้งทัวร์กับพี่ป๊อบ ผมก็คิดไป ชีวิตมันสนุกดีนะครับ อยู่ดีๆ พี่แบงค์แกทำเพลง นะหน้าทอง แล้วปล่อยเพลง สรุปดังก่อนที่ผมจะหมดเวลา ที่ผมให้เวลาตัวเอง 3 ปี

มันเป็นเวลา ต่อให้เพลงดัง แต่ตัวยังไม่ดัง ความรู้สึกเรา?

โจอี้ : มันยังไม่ประสบความสำเร็จ มันยังไม่สุด แต่ผมไม่ได้น้อยใจ ผมไม่ได้ท้อนะ แค่ผมจะกลับบ้านไปสอบครู แล้วผมจะใช้ชีวิตของผม ผมไม่ได้ติดว่าจะเป็นในรูปแบบไหน เรารักและศรัทธาในแต่ละอาชีพอยู่แล้ว ไม่เป็นนักร้องก็ได้ เป็นครูก็ดี ก็ไม่ได้ซีเรียสไปกดดันชีวิตขนาดนั้น

ตอนนั้นเพลง นะหน้าทอง ดังมาก แล้วตัวเราก็เริ่มมีคนรู้จัก รู้สึกยังไง สุดยัง?

โจอี้ : ผมได้ไปทัวร์คอนเสิร์ต ได้ร้องเพลงตัวเองที่คนรู้จัก มันก็คือที่สุดแล้ว เราได้มีเงินจ้างไปเล่นคอนเสิร์ตแล้วได้จุนเจือครอบครัว ผมรู้สึกว่าอย่างที่เราหวังไว้ก็โอเคแล้วครับ ตอนนั้นก็สุดแล้ว

วันที่เราไปกับพี่ป๊อบ เราไปตามเล่นกับพี่ป๊อบ กับวันที่เราร้อง นะหน้าทอง แล้วมีคนร้องเพลงเราได้ทุกคน ความรู้สึกเป็นยังไง มันต่างกันไหม?

โจอี้ : มันต่างในเชิง คนละโพซิชั่น ของพี่ป๊อบจะเป็นอีกแบบนึงที่เราเป็นมือกีต้าร์แล้วร้องเพลงกับแกไปด้วย แต่พอเป็นของเรา เราต้องกลายเป็นคนนำ อย่างที่พี่ป๊อบเป็น พี่ป๊อบเป็นต้นแบบผม

หลัง ๆ คือได้ขึ้นเวทีใหญ่ ๆ ทั้งนั้น จนชีวิตเปลี่ยน และสามารถเปลี่ยนชีวิตให้คุณตา คุณยายด้วย?

โจอี้ : เปลี่ยนเลย ผมได้เงินมาล้านต้นๆ แรกๆ ผมคิดเลย ผมจะสร้างบ้าน ตั้งแต่เงินในบัญชียังไม่ถึงล้าน ทุกวันนี้ก็ยังไม่ถึง ผมบอกตัวเองว่าผมจะสร้างบ้านให้ตา ให้ยายก่อน ผมตัดสินใจบอกพี่ช่าง ทุบบ้านแล้วทำใหม่เลย เพราะบ้านหลังเดิมมันเก่ามากและน้ำรั่ว หน้าฝนยายแทบจะว่ายน้ำนอน น้ำท่วมในบ้าน

ตอนเพลงดัง เรากลับไปบ้านครั้งแรก คุณตา คุณยายว่ายังไงบ้าง?

โจอี้ : เราเห็นความทุกข์ ความลำบากของตากับยายตั้งแต่เด็ก ทำนา เป็นหนี้ โดนดูถูก ผมเห็นแววตาแล้ว ยุคนี้เดี๋ยวผมจะดูแลเอง ผมจัดการเอง ยุคนี้เป็นยุคใหม่ของครอบครัวเรา

ไม่ใช่แค่ให้ตากับยายที่ต่างจังหวัดนะ ตอนนี้ก็ซื้อบ้านที่กรุงเทพ?

โจอี้ : ครับ แม่กับพี่สาวมาอยู่ด้วย มาดูแลผม ให้พี่สาวลาออกจากงานมาดูหลังบ้านให้ผม มันเหมือนชีวิตที่ฝันไว้ แต่บางทีก็มีอุปสรรคที่เราต้องผ่านไปให้ได้บ้าง แต่เราก็ผ่านมา ระหว่างทางก็โอเคอยู่

บางทีชีวิตก็ไม่ได้ราบรื่น ก็เลยมูเตลู?

โจอี้ : มูครับ แต่ว่ามูในพลังงานที่ดี สีขาว ขนาดเพลงผมชื่อ นะหน้าทอง ผมยังไม่เคยไปลงนะหน้าทองเลย เพราะว่า นะหน้าทองของผมคือการทำความดี ดึงดูดสิ่งที่ดี ผมก็มู มูกับทวดและหลวงพ่อที่เรานับถือ ส่วนใหญ่ท่านจะแนะนำให้เราทำบุญ ช่วยเหลือคน ช่วยเหลือสัตว์

แต่คุณก็ไปถึงขั้นเปลี่ยนชื่อ?

โจอี้ : ครับ ตอนแรกเปลี่ยนกับพระก่อน แต่ทีนี้มาดามเขาชอบหมอดู เขาชอบมูของเขา เขาก็แนะนำ ตอนนั้นผมไม่มีเงินสักบาทเขาก็ออกค่าหมอดูให้ เขาบอกว่าชื่อเดิมถ้าเรายังเป็นศิลปินอยู่มันจะไม่ดี มันต้องถือศีล ต้องไปบวช ถ้าผิดศีลมันจะไม่ดีต่อเรา จะป่วย จะตาย หรือจะอะไรก็แล้วแต่ เลยต้องเปลี่ยนชื่อ ให้ชื่อมันสมพงษ์กับอาชีพนี้ เพราะเราไปร้องเพลง คนมาดูก็ดื่มแอลกอฮอล์ เราอาจจะคิดว่าทำให้คนมีความสุขแล้วมันได้บุญ แต่มันไม่ใช่นะ เราอาจจะเป็นชนวนนึงที่ชักชวนคนดื่ม มันใช้บุญบารมีสูงมากในอาชีพของเรา เราต้องเปลี่ยนชื่อให้เข้ากันแล้วก็ต้องทำคู่กันกับการทำบุญ ห้ามนั้น ห้ามนี่ ผมเลยไม่กินเหล้ามาก่อนเปลี่ยนชื่อ 5 ปีแล้ว เหล้า บุหรี่ อบายมุขทั้งสิบก็เลิกหมด

ไม่ได้เปลี่ยนแค่ชื่อนะ เปลี่ยนนามสกุลด้วย?

โจอี้ : เงินไม่พอ ไปหาอาจารย์ ผมไม่มีเงิน งั้นผมเอานามสกุลพี่แบงค์ได้ไหม มันเข้ากันไหม เออ..มันเข้ากันก็ไปเปลี่ยนเป็นนามสกุลของพี่แบงค์

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...