โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

SMEs เสี่ยงปิดกิจการต่อเนื่อง เฉลี่ยปิดตัวเพิ่มปีละ 7%

Positioningmag

อัพเดต 12 ก.ค. เวลา 02.55 น. • เผยแพร่ 12 ก.ค. เวลา 02.53 น. • my_bb

ธุรกิจ SMEs ของไทย มีมูลค่าทางเศรษฐกิจราว 1 ใน 3 หรือประมาณ 35% ของ GDP หรือประมาณ 6.5 ล้านล้านบาท กำลังเผชิญหลายปัจจัยกดดัน โดยเฉพาะผลของสงครามการค้ารอบใหม่ และการแข่งขันกับสินค้านำเข้าท่ามกลางตลาดในประเทศที่เติบโตต่ำ

ส่งผลให้ ยังเสี่ยงขาดทุนหรือปิดตัวต่อ จากที่ก่อนหน้านี้ ถูกกระทบจากปัญหาโครงสร้างที่มีอยู่เดิม ทำให้มีการปิดตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 7% ต่อปี (อ้างอิงศูนย์วิจัยกสิกรไทย) ดังนี้

  • ปี 2564 ปิดกิจการ 19,237 ราย

  • ปี 2565 ปิดกิจการ 21,765 ราย

  • ปี 2566 ปิดกิจการ 23,280 ราย

  • ปี 2567 ปิดกิจการ 23,551 ราย

สำหรับสถานการณ์ปัจจุบันของ SMEs โดย 26% ของธุรกิจรายเล็กและรายย่อยขาดทุนต่อเนื่องในช่วง 3 ปี (พ.ศ. 2563 - 2566) มีจำนวนสูงถึง 106,595 ราย

ส่วนกลุ่มที่มีทั้งกำไรและขาดทุนสลับกันไป มีจำนวน 143,097 ราย และกลุ่มที่ทำกำไรตลอด 3 ปี มีจำนวน 164,019 ราย

ธุรกิจ SMEs ที่ยังคงยากลำบากในการแข่งขัน และเสี่ยงขาดทุน/ปิดกิจการต่อ แบ่งออกเป็น 2 ภาคหลัก ได้แก่

ภาคการค้าและบริการ

  • ก่อสร้าง

  • ร้านอาหารและเครื่องดื่ม

  • ขนส่งสินค้า/คน

  • ร้านค้าปลีกอินเทอร์เน็ต

  • ร้านค้าปลีกทั่วไป

ภาคการผลิต

  • เครื่องใช้ไฟฟ้า

  • เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก

  • ผลิตภัณฑ์พลาสติก

  • อิเล็กทรอนิกส์

  • เครื่องจักรและส่วนประกอบ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ในอนาคต ธุรกิจ SMEs มีแนวโน้มขาดทุนหรือปิดกิจการต่อเนื่องในแทบทุกอุตสาหกรรม

โดย ภาคการผลิต ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้ารอบใหม่ และต้องเผชิญการแข่งขันกับสินค้านำเข้า

ส่วน ภาคการค้าและบริการ รับแรงกดดันจากกำลังซื้อในประเทศลดลง การแข่งขันกับธุรกิจรายใหญ่ และการลดลงของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...