Goldman Sachs เปิดตัว Devin โปรแกรมซอฟต์แวร์ AI คาดเพิ่มผลิตภาพ 3-4 เท่า
Goldman Sachs เปิดตัว Devin โปรแกรมซอฟต์แวร์ AI จากสตาร์ทอัป Cognition สามารถทำงานแบบ full-stack ได้โดยไม่ต้องพึ่งมนุษย์ คาดเพิ่มผลิตภาพ 3-4 เท่า
วันที่ 11 กรกฎาคม 2568 เวลา 16.30 น. สำนักข่าว CNBC รายงานว่า Marco Argenti หัวหน้าเทคโนโลยีของ Goldman Sachs ระบุว่าธนาคาร Goldman Sachs กำลังทดสอบโปรแกรมซอฟต์แวร์อัตโนมัติจากสตาร์ทอัปด้าน AI ชื่อ Cognition โดยคาดว่าจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของทีมวิศวกรมนุษย์จำนวน 12,000 คนของบริษัทในไม่ช้า
ซอฟต์แวร์นี้มีชื่อว่า Devin ซึ่งโด่งดังในวงการเทคโนโลยีเมื่อปีที่ผ่านมา หลังจาก Cognition อ้างว่าได้สร้างวิศวกรซอฟต์แวร์ AI คนแรกของโลก โดยวิดีโอสาธิตแสดงให้เห็นว่า Devin สามารถทำงานแบบ full-stack ได้เองเกือบทั้งหมด โดยไม่ต้องพึ่งพาการแทรกแซงจากมนุษย์มากนัก
“เรากำลังจะเริ่มเสริมทีมพนักงานของเราด้วยDevin ซึ่งจะเป็นเหมือนพนักงานใหม่ที่ทำงานแทนวิศวกรของเราในบางงาน …ในช่วงแรก เราจะมี Devin หลายร้อยตัว และอาจเพิ่มเป็นหลักพัน ขึ้นอยู่กับกรณีการใช้งาน”
นี่เป็นสัญญาณล่าสุดของความเร็วที่น่าตกใจในการนำ AI เข้ามาใช้ในโลกธุรกิจ เพียงปีที่แล้ว บริษัทการเงินในวอลล์สตรีทอย่าง JPMorgan Chase และ Morgan Stanley ยังเพิ่งเริ่มใช้ผู้ช่วย AI ที่ใช้โมเดลจาก OpenAI เพื่อให้พนักงานคุ้นชินกับเทคโนโลยี
แต่การมาถึงของ Agentic AI อย่างDevin ซึ่งไม่ใช่แค่ช่วยมนุษย์ในงานพื้นฐาน เช่น สรุปเอกสารหรือเขียนอีเมล แต่สามารถดำเนินงานหลายขั้นตอนที่ซับซ้อน เช่น การสร้างแอปทั้งระบบเองได้ บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่กว่ามาก โดยบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft และ Alphabet ระบุว่า AI ได้ช่วยเขียนโค้ดประมาณ 30% ในบางโปรเจกต์แล้ว ส่วน CEO ของ Salesforce อย่าง Marc Benioff กล่าวว่า AI ช่วยงานบริษัทมากถึง 50% แล้ว
สำหรับ Goldman Sachs ซึ่งเป็นหนึ่งในธนาคารลงทุนชั้นนำของโลก Argenti มองว่า AI รุ่นใหม่แบบนี้สามารถเพิ่มผลิตภาพของพนักงานได้มากถึง 3–4 เท่า เมื่อเทียบกับเครื่องมือ AI แบบเดิม โดย Devinจะอยู่ภายใต้การดูแลของพนักงานจริง และเน้นงานที่วิศวกรไม่ชอบ เช่น การอัปเดตโค้ดภายในให้เป็นภาษาโปรแกรมรุ่นใหม่
Cognition ระบุว่า Goldman เป็นธนาคารรายใหญ่รายแรกที่ใช้ Devin โดย Cognition ก่อตั้งขึ้นปลายปี 2566 โดยวิศวกร 3 คน และทีมงานส่วนใหญ่ประกอบด้วยผู้ชนะการแข่งขันเขียนโปรแกรมระดับโลก บริษัทมีนักลงทุนรายใหญ่อย่าง Peter Thiel และ Joe Lonsdale ผู้ร่วมก่อตั้ง Palantir หนุนหลังอยู่
การเคลื่อนไหวนี้อาจสร้างความวิตกครั้งใหม่ในวอลล์สตรีทและภาคธุรกิจอื่น ๆ เกี่ยวกับการลดตำแหน่งงานจากการใช้ AI ผู้บริหารบริษัทใหญ่ ๆ ตั้งแต่ Amazon ไปจนถึง Ford เริ่มพูดชัดเจนขึ้นว่า AI จะส่งผลต่อแผนการจ้างงานในอนาคต
หน่วยวิจัยของ Bloomberg คาดว่าธนาคารทั่วโลกอาจลดพนักงานได้ถึง 200,000 คน ภายใน 3–5 ปีข้างหน้า เนื่องจากการนำ AI เข้ามาใช้
อย่างไรก็ตาม Argenti ซึ่งย้ายมาจาก Amazon ในปี 2562 ได้วาดภาพอนาคตว่าโลกของการทำงานจะกลายเป็นแรงงานแบบผสมผสานที่มนุษย์และ AI ทำงานร่วมกัน
“มันคือการทำงานร่วมกันของคนกับ AI โดยวิศวกรต้องสามารถอธิบายปัญหาได้อย่างชัดเจน และเปลี่ยนมันให้เป็นคำสั่ง (prompts) ที่ AI เข้าใจได้ และต้องสามารถตรวจสอบงานที่ AI ทำได้ด้วย”
แม้ว่าหน้าที่ของนักพัฒนาซอฟต์แวร์จะเหมาะกับการฝึก AI ด้วยวิธี reinforcement learning มากที่สุด แต่ Argenti มองว่า ตำแหน่งอื่น ๆ ในธนาคารก็ใกล้จะถูกแทนที่เช่นกัน
อ้างอิง : cnbc.com