“ออม” อย่างเดียว อาจไม่พอ ต้อง “ลงทุน” ต่อยอดด้วย เปิด 6 เคล็ด (ไม่) ลับ สำหรับมือใหม่เริ่มลงทุน
ในยุคที่ค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้นทุกปี "การออม" อย่างเดียวอาจไม่เพียงพออีกต่อไป เงินที่เก็บไว้เฉย ๆ ในบัญชีออมทรัพย์นั้นแม้ว่าจะดูปลอดภัยและมั่นคงสำหรับใครหลายคน แต่รู้ไหมว่ามันกำลังถูกกัดกร่อนด้วย "เงินเฟ้อ" อย่างช้า ๆ โดยที่เราไม่ทันรู้ตัว แทนที่เราจะออมเพื่อให้เงินเติบโตได้ แต่ค่าเงินของเราอาจลดน้อยลงทุกวินาที ซึ่งหากเรายังใช้แนวคิดการเก็บเงินแบบเดิม ๆ อาจทำให้เป้าหมายทางการเงินในอนาคตกลายเป็นเพียงภาพเพ้อฝัน
ออมเงินอย่างเดียวอาจไม่พอ
ปัจจุบัน หลายคนตั้งเป้าที่จะออมเงินเพราะอยากให้ชีวิตวัยเกษียณมีความมั่นคงและสุขสบาย โดยให้เรื่องเงินเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก ๆ ในชีวิต เพราะปัจจัยหลายอย่าง เช่น เศรษฐกิจโลกมีความผันผวนและไม่สามารถคาดเดาสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ ดังนั้นหลายคนจึงเลือกที่จะเก็บเงินไว้เพื่อรักษาการเงินของตัวเองให้มั่นคง
สื่อต่างประเทศ รายงานว่า คู่รักหลายคู่ ประสบปัญหาด้านการเงิน เพราะใช้จ่ายเกินตัว ไลฟ์สไตล์หรูหรา จนทำให้พวกเขาหมดเงินก่อนจะถึงสิ้นเดือน บางคู่ถึงขั้นเงินติดลบและต้องเลิกลากันเพราะจัดการเรื่องเงินไม่ลงตัว
ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า "เงิน" เป็นตัวแปรสำคัญของความสัมพันธ์ของใครหลาย ๆ คน ไม่ใช่เพียงแค่คู่รักเท่านั้น แต่หลายคนเลือกที่จะพึ่งพาระบบ "การออมภาคบังคับ" เพื่อให้มีเงินพอใช้สำหรับการเกษียณอายุ และป้องกันการขาดวินัยในการออมของตน
แม้ว่าการมีแผนเก็บออมที่ดีและมีเป้าหมายที่แน่วแน่นั้น จะช่วยให้การเงินของเรามั่นคง แต่อีกหนึ่งอุปสรรคของการออมคือ "เงินเฟ้อ" ที่ส่งผลต่อค่าเงินที่เราถือไว้ ทำให้กำลังซื้อของเราลดน้อยลง และนั่นหมายถึงค่าเงินที่เราออมมาตลอดก็อาจลดลงตามกาลเวลา
ดังนั้น การออมอย่างเดียวอาจทำให้การเงินของเรามั่นคง แต่เสี่ยงที่เงินเหล่านั้นจะไม่เติบโตและมีค่าน้อยลงเรื่อย ๆ ดังนั้นการลงทุนจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะสามารถทำให้เงินเติบโตได้
ลงทุนยังไงให้เงินงอกเงย
เพื่อรักษาอำนาจซื้อของเงินออมก่อนที่เราจะจนลงเพราะตามไม่ทันค่าเงินที่เปลี่ยนแปลง นี่คือ 6 เรื่องที่ต้องรู้สำหรับมือใหม่หัดลงทุน จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยต้องเริ่มต้นจาก
- รู้จักตัวเอง - ต้องรู้ว่าเรามีเป้าหมายอะไรในการลงทุน และเรารับความเสี่ยงได้มากแค่ไหน
- รู้จักเลือกลงทุน - ต้องทำความรู้จักสิ่งที่เราจะลงทุนก่อน เช่น หุ้น, กองทุนรวม และตราสารหนี้
- วิเคราะห์ความเป็นไปได้ - เมื่อเรามีเป้าหมายและรู้จักเส้นทางในการลงทุนแล้ว ให้คำนวณว่ามันมีความเป็นไปได้ที่จะสร้างกำไรให้เราได้ไหม
- สร้างพอร์ตและจัดทำคัมภีร์ลงทุน - ก่อนจะลงทุนต้องมีแผนและพอร์ตที่ดี เพื่อให้กระจายความเสี่ยงได้อย่างสมดุล และไม่ใช้เงินลงทุนมากเกินไปจนหมดตัว
- ลงมือทำตามแผน - เปิดบัญชีเพื่อใช้ในการซื้อขายก่อนลงทุน เช่น ลงทุนหุ้น ETF ตราสารหนี้ DW หรืออนุพันธ์ ต้องเปิดบัญชีกับบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า "โบรกเกอร์"
- ติดตามและทบทวนแผนการลงทุนของตัวเองเสมอ - เมื่อลงทุนแล้วต้องตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอเพื่อดูว่าผลตอบแทนเป็นไปตามเป้าหมายของเราแล้วหรือยัง
อย่างไรก็ตาม การลงทุนนั้นล้วนแต่มีความเสี่ยง ดังนั้นจึงควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือหาความรู้ก่อนเทเงินไปจนหมดหน้าตัก เพราะหากรีบร้อนเกินไปอาจส่งผลเสียต่อการเงินของตัวเอง
อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money
เพื่อให้คุณ “การเงินดีชีวิตดี” ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney
ที่มา : The Economic Times, SET, ธนาคารกรุงศรี
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : “ออม” อย่างเดียว อาจไม่พอ ต้อง “ลงทุน” ต่อยอดด้วย เปิด 6 เคล็ด (ไม่) ลับ สำหรับมือใหม่เริ่มลงทุน
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
- “ออม” อย่างเดียว อาจไม่พอ ต้อง “ลงทุน” ต่อยอดด้วย เปิด 6 เคล็ด (ไม่) ลับ สำหรับมือใหม่เริ่มลงทุน
- “ไร้คู่” แต่ต้อง “ไม่ไร้เงิน” 6 วิธีคนโสดวางแผนเกษียณ ออม-ลงทุนให้ถูก รักเงินให้เหมือนเป็นคู่ชีวิต
- เปิดเคล็ดลับการออม ด้วยหลัก S.M.A.R.T ตั้งเป้าหมาย - จัดระเบียบ เก็บเงินแบบง่ายๆ มือใหม่ก็ทำได้
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : Thairath Money
- LINE Official : Thairath