โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

“ออม” อย่างเดียว อาจไม่พอ ต้อง “ลงทุน” ต่อยอดด้วย เปิด 6 เคล็ด (ไม่) ลับ สำหรับมือใหม่เริ่มลงทุน

Thairath Money

อัพเดต 18 มิ.ย. เวลา 10.58 น. • เผยแพร่ 18 มิ.ย. เวลา 10.27 น.
ภาพไฮไลต์

ในยุคที่ค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้นทุกปี "การออม" อย่างเดียวอาจไม่เพียงพออีกต่อไป เงินที่เก็บไว้เฉย ๆ ในบัญชีออมทรัพย์นั้นแม้ว่าจะดูปลอดภัยและมั่นคงสำหรับใครหลายคน แต่รู้ไหมว่ามันกำลังถูกกัดกร่อนด้วย "เงินเฟ้อ" อย่างช้า ๆ โดยที่เราไม่ทันรู้ตัว แทนที่เราจะออมเพื่อให้เงินเติบโตได้ แต่ค่าเงินของเราอาจลดน้อยลงทุกวินาที ซึ่งหากเรายังใช้แนวคิดการเก็บเงินแบบเดิม ๆ อาจทำให้เป้าหมายทางการเงินในอนาคตกลายเป็นเพียงภาพเพ้อฝัน

ออมเงินอย่างเดียวอาจไม่พอ

ปัจจุบัน หลายคนตั้งเป้าที่จะออมเงินเพราะอยากให้ชีวิตวัยเกษียณมีความมั่นคงและสุขสบาย โดยให้เรื่องเงินเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก ๆ ในชีวิต เพราะปัจจัยหลายอย่าง เช่น เศรษฐกิจโลกมีความผันผวนและไม่สามารถคาดเดาสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ ดังนั้นหลายคนจึงเลือกที่จะเก็บเงินไว้เพื่อรักษาการเงินของตัวเองให้มั่นคง

สื่อต่างประเทศ รายงานว่า คู่รักหลายคู่ ประสบปัญหาด้านการเงิน เพราะใช้จ่ายเกินตัว ไลฟ์สไตล์หรูหรา จนทำให้พวกเขาหมดเงินก่อนจะถึงสิ้นเดือน บางคู่ถึงขั้นเงินติดลบและต้องเลิกลากันเพราะจัดการเรื่องเงินไม่ลงตัว

ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า "เงิน" เป็นตัวแปรสำคัญของความสัมพันธ์ของใครหลาย ๆ คน ไม่ใช่เพียงแค่คู่รักเท่านั้น แต่หลายคนเลือกที่จะพึ่งพาระบบ "การออมภาคบังคับ" เพื่อให้มีเงินพอใช้สำหรับการเกษียณอายุ และป้องกันการขาดวินัยในการออมของตน

แม้ว่าการมีแผนเก็บออมที่ดีและมีเป้าหมายที่แน่วแน่นั้น จะช่วยให้การเงินของเรามั่นคง แต่อีกหนึ่งอุปสรรคของการออมคือ "เงินเฟ้อ" ที่ส่งผลต่อค่าเงินที่เราถือไว้ ทำให้กำลังซื้อของเราลดน้อยลง และนั่นหมายถึงค่าเงินที่เราออมมาตลอดก็อาจลดลงตามกาลเวลา

ดังนั้น การออมอย่างเดียวอาจทำให้การเงินของเรามั่นคง แต่เสี่ยงที่เงินเหล่านั้นจะไม่เติบโตและมีค่าน้อยลงเรื่อย ๆ ดังนั้นการลงทุนจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะสามารถทำให้เงินเติบโตได้

ลงทุนยังไงให้เงินงอกเงย

เพื่อรักษาอำนาจซื้อของเงินออมก่อนที่เราจะจนลงเพราะตามไม่ทันค่าเงินที่เปลี่ยนแปลง นี่คือ 6 เรื่องที่ต้องรู้สำหรับมือใหม่หัดลงทุน จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยต้องเริ่มต้นจาก

  • รู้จักตัวเอง - ต้องรู้ว่าเรามีเป้าหมายอะไรในการลงทุน และเรารับความเสี่ยงได้มากแค่ไหน
  • รู้จักเลือกลงทุน - ต้องทำความรู้จักสิ่งที่เราจะลงทุนก่อน เช่น หุ้น, กองทุนรวม และตราสารหนี้
  • วิเคราะห์ความเป็นไปได้ - เมื่อเรามีเป้าหมายและรู้จักเส้นทางในการลงทุนแล้ว ให้คำนวณว่ามันมีความเป็นไปได้ที่จะสร้างกำไรให้เราได้ไหม
  • สร้างพอร์ตและจัดทำคัมภีร์ลงทุน - ก่อนจะลงทุนต้องมีแผนและพอร์ตที่ดี เพื่อให้กระจายความเสี่ยงได้อย่างสมดุล และไม่ใช้เงินลงทุนมากเกินไปจนหมดตัว
  • ลงมือทำตามแผน - เปิดบัญชีเพื่อใช้ในการซื้อขายก่อนลงทุน เช่น ลงทุนหุ้น ETF ตราสารหนี้ DW หรืออนุพันธ์ ต้องเปิดบัญชีกับบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า "โบรกเกอร์"
  • ติดตามและทบทวนแผนการลงทุนของตัวเองเสมอ - เมื่อลงทุนแล้วต้องตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอเพื่อดูว่าผลตอบแทนเป็นไปตามเป้าหมายของเราแล้วหรือยัง

อย่างไรก็ตาม การลงทุนนั้นล้วนแต่มีความเสี่ยง ดังนั้นจึงควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือหาความรู้ก่อนเทเงินไปจนหมดหน้าตัก เพราะหากรีบร้อนเกินไปอาจส่งผลเสียต่อการเงินของตัวเอง

อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money

เพื่อให้คุณ “การเงินดีชีวิตดี” ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney

ที่มา : The Economic Times, SET, ธนาคารกรุงศรี

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : “ออม” อย่างเดียว อาจไม่พอ ต้อง “ลงทุน” ต่อยอดด้วย เปิด 6 เคล็ด (ไม่) ลับ สำหรับมือใหม่เริ่มลงทุน

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : Thairath Money
- LINE Official : Thairath

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...