พิพัฒน์ อำลา ขรก.แรงงาน ย้ำ! พร้อมกลับมาสานฝัน หากได้โอกาส
พิพัฒน์ อำลา ขรก.แรงงาน ย้ำ! พร้อมกลับมาสานฝัน หากได้โอกาส
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 19 มิถุนายน ที่กระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ พร้อมคณะผู้บริหาร เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงแรงงาน หลังลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และทำงานเป็นวันสุดท้าย จากกรณีพรรคภูมิใจไทยได้ประกาศถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งมีผลทันทีในวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ บริเวณโถงชั้น 1 อาคารกระทรวงแรงงาน พบว่า คณะผู้บริหารระดับสูง พร้อมด้วยข้าราชการทุกกรมภายใต้สังกัดกระทรวงแรงงาน อาทิ สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน, กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน, กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน, สำนักงานประกันสังคม (สปส.), สถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) สสปท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมอบดอกไม้และให้กำลังใจนายพิพัฒน์
นายพิพัฒน์กล่าวว่า รู้สึกปลื้มปีติและตื้นตันใจกับการต้อนรับจากพนักงานข้าราชการทุกภาคส่วน ตั้งแต่เข้าเริ่มการทำงาน แต่ที่สำคัญกระทรวงแรงงานก็มีวัฒนธรรมประเพณีที่ไม่เหมือนกับกระทรวงก่อนหน้านี้ที่ตนเคยกำกับดูแล เพราะฉะนั้นด้วยความที่ตนได้รับความอบอุ่นตั้งแต่ก้าวแรกที่เหยียบเข้ามาสู่กระทรวงแรงงาน ทำให้เกิดความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำหน้าที่ โดยตนจะใช้ความสามารถและประสบการณ์ต่างๆ ในภาคเอกชนทั้งการบริหารธุรกิจตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา ตนจะนำความรู้ความสามารถเหล่านั้นมาปรับเปลี่ยนอย่างไรให้กระทรวงแรงงานที่เป็นกระทรวงที่มีความสำคัญ เพราะต้องดูแลประชาชนในประเทศถึง 40 ล้านคน ซึ่งมากกว่าร้อยละ 50 ของประชากรทั่วประเทศ รวมไปถึงยังต้องดูแลเพื่อนแรงงานชาวต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยกว่า 5 ล้านคน นี่คือภารกิจสำคัญที่กระทรวงแรงงานทุกภาคส่วนต้องช่วยกันพาให้ถึงฝั่ง
“การทำงานก็เปรียบเสมือนการล่องเรือ แต่การทำงานล้วนมีทั้งความสำเร็จและความผิดหวัง อย่างไรก็ตาม เราก็มีความก้าวหน้า ที่สำคัญที่สุดคือใครที่เป็นกัปตันเรือ ต้องนำเรือเข้าฝั่งด้วยความสมบูรณ์ที่สุด ผมคิดว่าสิ่งดีๆ ที่รัฐมนตรีก่อนหน้านี้ได้วางรากฐานไว้ ขอต่อยอด ไม่เริ่มต้นใหม่ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เสียกำลังแรงงาน และเสียงบประมาณ” นายพิพัฒน์กล่าว และว่า ตลอดเวลาทำงานตนได้สัมผัสปลัดกระทรวงแรงงาน 3 คน คือ นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์, นายไพโรจน์ โชติกเสถียร และนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ทำงานมากว่า 2 ปี ล้วนมีความอบอุ่น แต่สิ่งที่เป็นความท้าทายคือ จะทำอย่างไรให้กระทรวงแรงงานมีความก้าวหน้า ไม่ได้อยู่กับที่ หรือถอยหลัง จึงฝากปลัดกระทรวงแรงงาน อธิบดีกรมต่างๆ รองปลัดกระทรวงแรงงาน ผู้ตรวจราชการกระทรวง ผู้ตรวจราชการกรมต่างๆ และข้าราชการทุกระดับ ขอให้มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ แม้กัปตันจะเก่งแค่ไหนแต่ก็ไม่สามารถบอกว่า คนเดียวที่เป็นฮีโร่ ที่สามารถนำเรือทั้งลำที่มีพนักงานราชการกว่าหมื่นคน เข้าสู่ฝั่งได้สำเร็จ เพราะฉะนั้น ต้องทำงานและเดินหน้าไปพร้อมๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นปลัดกระทรวง รองปลัดกระทรวง อธิบดีกรมต่างๆ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม และผู้อำนวยการ สสปท. เป็นกำลังหลักในการที่จะผลักดันให้เรือลำนี้เข้าสู่ฝั่งเส้นชัยตามที่ตั้งใจไว้
นายพิพัฒน์กล่าวอีกว่า ใช้ชีวิตในกระทรวงแรงงานร่วม 2 ปี ได้รับสิ่งที่พอใจมากๆ แต่สำหรับใครที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานคนต่อไป ต้องพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของผู้นำรัฐบาล หากมีโอกาสในวันข้างหน้า ผู้นำรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นใคร ซึ่งในปัจจุบันคือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แต่ขณะเดียวกัน พรรคภูมิใจไทยได้ถอยจากพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งการที่จะกลับมาร่วมรัฐบาลกับนายกฯคนปัจจุบัน หรือนายกฯคนต่อไปในอนาคต ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นใคร แต่หากได้รับการไว้วางใจจากผู้นำรัฐบาลในโอกาสต่อไป จะขอกลับมาสานฝันของตนต่อในกระทรวงแรงงาน
นายพิพัฒน์กล่าวถึงรัฐมนตรีที่จะเข้ามาทำงานหลังจากนี้ว่า ในส่วนของนโยบาย หากมองว่านโยบายไหนที่ดีก็อยากให้สานต่อเพื่อประหยัดเวลา เพราะตนเชื่อว่าประเทศไทยไม่มีเวลาที่จะเริ่มต้นใหม่ ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนรัฐมนตรีของแต่ละกระทรวง ดังนั้น อะไรที่เป็นสิ่งที่ดีควรที่จะต่อยอด และอะไรที่ยังไม่ครบถ้วนก็ให้เติมเต็มในจุดนั้น ซึ่งตนได้ถือปฏิบัติมาตลอด ในส่วนของรัฐมนตรีคนเก่า ไม่ได้ทำไว้ก็เติมเข้าไปในหลายโครงการ และทำโครงการเหล่านี้มีความราบรื่น จึงหวังว่าหลังจากนี้ใครก็แล้วแต่ที่ได้รับมอบหมายจากนายกฯมาเป็นผู้นำกระทรวงแรงงานได้สานต่อโครงการต่างๆ เพื่อให้ประเทศไทยได้ทันประเทศอื่นๆ ในส่วนที่ก้าวหน้ากว่าประเทศไทย
“ผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ข้าราชการ พนักงาน ทำในสิ่งที่ค้างไว้ หากสามารถทำให้จบได้จะขอบคุณมาก แต่หากเจ้ากระทรวงคนใหม่อยากเปลี่ยนโครงการก็ไม่ขัดข้อง เพราะเชื่อว่าคนใหม่จะนำนโยบายที่ดี โครงการที่ดี มาทำให้กระทรวงแรงงานเจริญรุ่งเรืองต่อไป และทำให้ผู้ใช้แรงงานได้เพิ่มทักษะ Upskill-Reskill เพื่อเป็นแรงงานยุคใหม่ไม่ล้าหลังต่อไป” นายพิพัฒน์กล่าว
นายพิพัฒน์กล่าวอีกว่า การที่นักการเมืองได้รับความไว้วางใจจากนายกให้เข้ามากำกับดูแลกระทรวงต่างๆ นั้น เมื่อถึงเวลาคุณเข้ามาได้ และเมื่อถึงเวลาใดเวลาหนึ่งก็ต้องจากไป ซึ่งตนไม่ถือว่าเป็นเกมการเมือง แต่ถือว่า คำว่า‘รัฐบาล’ เป็นการร่วมกันในหลายๆ พรรค นโยบายรัฐบาลเป็นนโยบายภาพรวมของการร่วมรัฐบาล ส่วนที่อาจจะมีการกระทบกระทั่งกัน สิ่งต่างๆ ที่อาจจะมีนโยบายแล้วเดินร่วมทางกันต่อไปไม่ได้ เราก็แยกจากกัน ซึ่งการแยกจากกันก็ถือว่าเป็นการแยกจากกันด้วยดี
“การแยกจากกันไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่มีโอกาสกลับมาร่วมงานกัน ถึงจุดจุดหนึ่งเราอาจจะมีโอกาสร่วมรัฐบาล หรือกลับมาทำงานพร้อมกัน ดังนั้น คำว่า พรรคการเมือง นักการเมือง พรรคร่วมรัฐบาล สิ่งที่มารวมตัวกันได้ก็ต้องมีการแยกจาก เมื่อมีการแยกจาก ก็ยังมีโอกาสกลับมาใหม่ นี่คือรัฐบาลที่มาจากหลายๆ พรรค ส่วนจะมีโอกาสกลับมาหรือไม่ ก็ต้องอยู่ที่ท่านนายกฯว่ามีนโยบายอย่างไร แต่เมื่อพรรคภูมิใจไทยถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล ตัวผมเองและทางพรรคภูมิใจไทยก็ได้มอบอำนาจสิทธิขาดให้กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นผู้ตัดสินใจ ดังนั้น โอกาสที่จะกลับมาได้หรือไม่ได้ อยู่ที่เราสามารถกลับมาทำงานด้วยกันได้หรือไม่” นายพิพัฒน์กล่าว
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : พิพัฒน์ อำลา ขรก.แรงงาน ย้ำ! พร้อมกลับมาสานฝัน หากได้โอกาส
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th