โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

"พรรคไทยสร้างไทย" จัดหนัก! ตำหนิ "รัฐบาล" รับมือมาตรการกำแพงภาษีสหรัฐฯ ชี้เป็นความล้มเหลวในการจัดการเศรษฐกิจ

สยามรัฐ

อัพเดต 08 ก.ค. เวลา 03.55 น. • เผยแพร่ 08 ก.ค. เวลา 03.55 น.

เมื่อวันที่ 8 ก.ค.68 นายปริเยศ อังกูรกิตติ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย ตำหนิการทำงานของรัฐบาล กรณีการรับมือกับมาตรการกำแพงภาษีนำเข้าจากสหรัฐอเมริกาภายใต้รัฐบาลของ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ล่าสุดออกจดหมายยืนยันตั้งกำแพงภาษีสินค้าจากไทยในอัตรา 36% โดยเริ่มมีผลวันที่ 1 สิงหาคม 2568

นายปริเยศ ระบุว่า การทำงานของรัฐบาลใช้งบค่าดำเนินการ และค่าเดินทางเฉียดร้อยล้านบาท แต่ผลลัพธ์กลับไม่มีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม ยังถูกเก็บภาษีในอัตราสูงเช่นเดิม ถือเป็นความล้มเหลวอย่างชัดเจน โดยมองว่าปัญหาเกิดจากกลุ่มรัฐมนตรีที่ไร้คุณภาพ ซึ่งไม่มีประสิทธิภาพในการทำงาน และขาดความเข้าใจเชิงยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะในภาวะที่ต้องรับมือกับภัยทางเศรษฐกิจระดับชาติ พร้อมมองว่า รัฐบาลขาดการบูรณาการระหว่างกระทรวงหลักที่เกี่ยวข้อง และที่น่าห่วงคือ ยังไม่สามารถชี้แจงได้ว่าไทยเสนออะไรไปบ้างในการเจรจา แล้วสหรัฐฯ ปฏิเสธกลับมาอย่างไร สะท้อนถึงการเตรียมตัวที่ไม่พร้อม และหลงเชื่อกลุ่มลอบบี้ยีสต์ต่างประเทศมากกว่าความเห็นจากคนในประเทศ

โฆษกพรรคไทยสร้างไทย ยังตำหนิ กระทรวงพาณิชย์ว่า แม้จะออกมาพูดถึงการเปิดตลาดใหม่ และมาตรการเยียวยาอยู่บ่อยครั้ง แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีรายละเอียดเชิงนโยบายที่ชัดเจน โดยเฉพาะจากรัฐมนตรีพาณิชย์คนใหม่ ที่ให้สัมภาษณ์ครั้งแรกหลังเข้ารับตำแหน่ง ยังไม่สามารถตอบคำถามเรื่องแนวทางการเจรจาที่ควรเสนอให้กับสหรัฐฯได้ มีเพียงคำพูดทั่วไปว่ารัฐบาลจะเร่งเยียวยา และสร้างตลาดใหม่เท่านั้น

นอกจากนี้ ยังมีการตั้งข้อสังเกตถึง กระทรวงการคลังว่าแทบไม่มีบทบาทในการรับมือกับมาตรการภาษีดังกล่าวเลย แถมกลายเป็นเสมือนโฆษกรัฐบาลจำเป็น ที่คอยออกมาปฏิเสธข่าวลือ หรือกล่าวว่าการเจรจายังไม่เสร็จอยู่ตลอดเวลา ทั้งที่ทุกอย่างเป็นไปตามข่าวลือนั้นทุกประการ นายปริเยศกล่าวว่า นี่คือการสะท้อนถึงการไม่มีแผนเชิงรุก และการไม่กล้าตัดสินใจของรัฐบาล

“แผนการแบบช้าแต่ชัวร์ ที่รัฐบาลมักพูดถึงนั้น กำลังจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมไทยครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ และ ขณะนี้ แนวโน้มถือว่าเป็นลบในระดับที่น่ากังวลอย่างยิ่ง” นายปริเยศระบุ พร้อมกล่าวย้ำว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพราะมาตรการจากสหรัฐฯ เพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการบริหารที่ขาดความโปร่งใส ลับๆ ล่อๆ และไม่เคยสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคเอกชนและประชาชนได้เลย” นายปริเยศ กล่าว

นายปริเยศ ยังเตือนว่า หากการเจรจากับสหรัฐฯ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ภายในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ ถือว่าเป็นความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง และรัฐบาลจะต้องมีผู้แสดงความรับผิดชอบโดยตรงต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้น ไม่สามารถปล่อยให้เรื่องนี้เงียบหายหรือโยนความผิดกันไปมาได้อีกต่อไป

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...