โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

พฤฒสภา คือ สภาปรีดี จริงหรือ ? (8)

ไทยโพสต์

อัพเดต 07 ก.ค. เวลา 12.09 น. • เผยแพร่ 07 ก.ค. เวลา 05.06 น.

ไชยันต์ ไชยพร

ก่อนจะเกิดรัฐธรรมนูฉบับที่ 4 หรือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2490 เรามีรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 คือฉบับ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 และฉบับที่ 3 คือฉบับ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2489 ผู้เขียนได้ชี้ให้เห็นแล้วว่า รัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 ที่ใช้อยู่ระหว่าง พ.ศ. 2475-2489 เป็นรัฐธรรมนูญที่นำไปสู่ระบอบคณาธิปไตยสืบทอดอำนาจโดยคณะราษฎร สาเหตุสำคัญที่ทำให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นรัฐธรรมนูญคณาธิปไตยสืบทอดอำนาจโดยคณะราษฎร ได้แก่

1. การเปิดให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 มีสิทธิ์รับรองคณะรัฐมนตรีร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 1

2. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 มีจำนวนเท่ากับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 1 ที่มาจากการเลือกตั้ง

3. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 มาจากการแต่งตั้งโดยคณะรัฐมนตรี และมีวาระอยู่ยาว

4. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 ชุดแรกที่แต่งตั้งขึ้นในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2476 มาจากการแต่งตั้งโดยคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 ที่มาจากการทำรัฐประหาร

5. คณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 ที่มาจากการทำรัฐประหาร แต่งตั้งตัวเองและพวกพ้องซึ่งส่วนเป็นสมาชิกคณะราษฎรให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2

6. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 รับรองตัวเองให้เป็นคณะรัฐมนตรี

จาก 1-5 บรรดาสมาชิกคณะราษฎรต่างแต่งตั้งตัวเองกลับไปกลับมาหมุนเวียนกันเป็นคณะรัฐมนตรี และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 เป็นระยะเวลาถึง 13 ปี จนมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ นั่นคือ ฉบับที่ 3 เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2489

รัฐธรรมนูญฉบับที่ 3 นี้ แม้จะยกเลิกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 และให้มีสมาชิกพฤฒสภาขึ้นแทน แต่ก็ยังกำหนดให้สมาชิกพฤฒสภามีสิทธิ์ในการรับรองคณะรัฐมนตรีร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้ง และแม้ว่าจะกำหนดให้สมาชิกพฤฒสภามาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่รัฐธรรมนูญฉบับที่ 3 นี้ได้กำหนดไว้ว่า ในช่วงแรกให้สมาชิกพฤฒสภามาจากการเลือกของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

ทีนี้ เรามาดูกันว่า สมาชิกพฤฒสภาที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้เลือกขึ้นมาเป็นจำนวน 80 คนตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญเป็นใครและพวกใครบ้าง และทำไมคนในสมัยนั้นถึงเรียกพฤฒสภาว่าเป็น “สภาปรีดี” พฤฒสภาเต็มไปด้วยคนของปรีดีจริงหรือ ?

ในการตอบข้อสงสัยข้างต้น ผู้เขียนจะขอกล่าวถึงภูมิหลังของสมาชิกพฤฒสภาทั้งหมด 80 ท่าน เพื่อเป็นข้อมูลในการประเมินข้อน้ำหนักความน่าเชื่อถือเกี่ยวกับการตั้งฉายา “พฤฒสภา” ว่าเป็น “สภาปรีดี” โดยไล่ไปตามลำดับตัวอักษร โดยตอนที่แล้วได้กล่าวถึงภูมิหลังของสมาชิกพฤฒสภาจำนวน 14 ท่าน พบว่า มีสมาชิกที่จัดได้ว่าเป็นพวกปรีดี 5 ท่าน มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนปรีดี 1 ท่าน ไม่ใช่พวกปรีดี 4 ท่าน ไม่สามารถจัดได้ว่าเป็นฝ่ายใดแน่ 4 ท่าน

ต่อไปคือ คุณจำลอง ดาวเรือง

คุณจำลองไม่ได้เป็นสมาชิกคณะราษฎร ก่อนหน้าที่จะได้รับเลือกเป็นสมาชิกพฤฒสภาในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2489 คุณจำลอง จำลอง ได้รับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกใน พ.ศ. 2480 และครั้งที่สอง พ.ศ. 2481 โดยเป็นผู้แทนจังหวัดมหาสารคาม และเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรีที่ 12 ที่มีนายทวี บุณยเกตุเป็นนายกรัฐมนตรี และคณะที่ 13 ที่มีหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมชเป็นนายกรัฐมนตรี คุณจำลองมีพื้นเพเป็นลูกอีสานคนมหาสารคาม ครอบครัวมีฐานะยากจน แต่เป็นผู้มีความรู้ความสามารถและมีใจรักใฝ่รู้ใฝ่เรียน เมื่อสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดของโรงเรียนแล้ว จึงได้เข้ามาศึกษาต่อด้านช่างเครื่องยนต์ ณ โรงเรียนช่างกล ในกรุงเทพมหานคร โดยได้รับการสนับสนุนจากหลวงพิศิษฐ์ศุภกร (เจ๊กหยงนี) ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทรถขนส่งในจังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนช่างกลแล้ว จึงได้เดินทางกลับมาประกอบอาชีพโชเฟอร์ขับรถ รับส่งของและผู้โดยสารจากจังหวัดร้อยเอ็ด - สุรินทร์ ให้กับบริษัทของหลวงพิศิษฐ์ศุภกรราว ๆ 2-3 ปี โดยได้รับเงินเดือนเดือนละ 50 บาท จนกระทั่งมีเงินเก็บมากพอ เขาจึงตัดสินใจซื้อรถยนต์ขนส่งมาครอบครองและออกทำงานรับส่งด้วยตนเองได้ในที่สุด [1]

นอกจากเป็น ส.ส. มหาสารคามแล้ว คุณจำลองยังเป็นเสรีไทยสายอีสาน จากการที่ปรีดีให้ความไว้วางใจชักชวนให้คุณจำลองเข้าร่วมขบวนการเสรีไทย

เช่นเดียวกันกับคุณจินดา จินตนเสรี แม้ว่าคุณจำลองจะไม่ได้เป็นสมาชิกพฤฒสภาที่เป็นสมาชิกคณะราษฎร แต่ก็มีความสนิทสนมกับปรีดี พนมยงค์ และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พฤฒสภาได้รับการขนานนามว่าเป็น “สภาปรีดี”

ต่อไปคือ พลโท จรูญ รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์

ท่านเป็นสมาชิกคณะราษฎร สายทหารบก [2] ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 ในปี พ.ศ. 2476 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรี (ลอย) ครั้งแรกในคณะรัฐมนตรี คณะที่ 9 (วันที่ 21 ธันวาคม 2481 – 7 มีนาคม 2485) ที่มีหลวงพิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี ต่อมาภายใต้คณะรัฐมนตรีคณะเดียวกันนี้ ท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐการเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2482 และวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2484 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ เนื่องจากมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวงทบวงกรม พ.ศ. 2484 ต่อมาวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2484 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ภายใต้จอมพล ป. พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี

ต่อมาในคณะรัฐมนตรี คณะที่ 10 (7 มีนาคม 2485 – 1 สิงหาคม 2487) [3] ที่มีจอมพล ป. พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเป็นครั้งแรก โดยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ ต่อมาวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2485 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ต่อมาในปี พ.ศ. 2487 ท่านได้เสกสมรสกับสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา

ท่านได้อยู่ร่วมรัฐบาลของหลวงพิบูลฯ จนหลวงพิบูลฯ ลาออกจากนายกฯในปี พ.ศ. 2487 เมื่อหลวงพิบูลฯ ถูกกล่าวหาเป็นอาชญากรสงครามท่านก็ถูกกล่าวหาด้วย แต่พ้นคดีเพราะกฎหมายเป็นโมฆะใช้ย้อนหลังไม่ได้ จึงพ้นคดีเมื่อวันที่ 23 มีนาคม ปี 2489 และได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกพฤฒสภาในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2489 จนคณะรัฐประหารยึดอำนาจ ในวันที่ 8 พฤศจิกายน ปี 2490 เมื่อหลวงพิบูลฯ กลับมามีอำนาจทางการเมืองเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง หลวงเสรีเริงฤทธิ์จึงได้กลับมามีตำแหน่งสำคัญแม้จะมิใช่ตำแหน่งทางการเมืองนั่นคือตำแหน่งอธิบดีกรมรถไฟ ในวันที่ 11 พฤศจิกายน ปี 2492 [4]

จากข้อมูลข้างต้น การที่หลวงเสรีเริงฤทธิ์ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกพฤฒสภา จึงไม่มีส่วนที่ทำให้พฤฒสภาเป็น “สภาปรีดี”

สรุปล่าสุด คือ

สมาชิกพฤฒสภา

ปรีดี

ไม่ใช่พวกปรีดี

แนวโน้มสนับสนุนปรีดี

ไม่สามารถจัดได้ว่าเป็นฝ่ายใด

ม.ล. กรี เดชาติวงศ์

+

ร.อ. กำลาภ กาญจนสกุล ร.น.

+

พ.ท. ก้าน จำนงภูมิเวท

+

แก้ว สิงหะคเชนทร์

+

หลวงกาจสงคราม

+

พลเรือตรี กระแส ประวาหะนาวิน สรยุทธเสนี

+

พลโท หลวงเกรียงศักดิ์พิชิต

+

เขียน กาญจพันธุ์

+

พลโท จิระ วิชิตสงคราม

+

จรูญ สืบแสง

+

จิตตะเสน ปัญจะ

+

พันโท เจือ สฤษฎิ์ราชโยธิน

+

จำรัส สุวรรณชีพ

+

จินดา จินตนเสรี

+

จำลอง ดาวเรือง

+

หลวงเสรีเริงฤทธิ์ (จรูญ รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์)

+

จากที่ศึกษาภูมิหลังสมาชิกพฤฒสภาไปทั้งสิ้น 16 ท่านในทั้งหมด 80 ท่าน พบว่า มีสมาชิกที่จัดได้ว่าเป็นพวกปรีดี 6 ท่าน มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนปรีดี 1 ท่าน ไม่ใช่พวกปรีดี 5 ท่าน ไม่สามารถจัดได้ว่าเป็นฝ่ายใดแน่ 4 ท่าน

(โปรดติดตามตอนต่อไป)

[1] https://www.facebook.com/photo.php?fbid=3206767326038870&id=418729291509368&set=a.797398676975759

[2] ประเสริฐ ปัทมะสุคนธ์, “คณะราษฎร” ผู้ก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน 2475, https://pridi.or.th/th/content/2023/06/1563

[3] https://www.soc.go.th/?page_id=5772

[4] นรนิติ เศรษฐบุตร, หลวงเสรีเริงฤทธิ์, ฐานข้อมูลสถาบันพระปกเกล้า,

https://wiki.kpi.ac.th/index.php?title =หลวงเสรีเริงฤทธิ์

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...