โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ร้องจริยธรรมร้ายแรง ‘สว.บ้ากาม’ ปฏิเสธเป็นเกมการเมือง เลื่อนเก้าอี้ให้สว.สำรอง

ไทยโพสต์

อัพเดต 08 ก.ค. เวลา 12.26 น. • เผยแพร่ 08 ก.ค. เวลา 05.26 น.

8 ก.ค. 2568- ที่รัฐสภา น.ส.ณัฐสินี ภิญโญปิยวิศว์ ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวและการกีฬา วุฒิสภา พร้อมด้วยทนายความ แถลงกรณีถูกล่วงละเมิดทางเพศจาก สว. โดยก่อนการให้สัมภาษณ์ ขณะที่ผู้เสียหายกำลังเดินมาจุดแถลงข่าวก็เซล้ม มีอาการคล้ายจะเป็นลมถึง 3 ครั้ง จึงได้นั่งพักก่อน ซึ่งผู้สื่อพยายามสอบถามว่า เป็นลมหรือไม่ และได้รับคำตอบว่ามีอาการโรค PTSD หรือ Post-Traumatic Stress Disorder (โรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนใจ) เป็นภาวะทางจิตใจที่เกิดขึ้นหลังจากบุคคลนั้นได้ประสบ หรือเห็นเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรง

จากนั้นเมื่อเดินมาที่จุดให้สัมภาษณ์ น.ส.ณัฐสินี กล่าวว่า วันนี้ตนเดินทางมายื่นฟ้องจริยธรรมร้ายแรงกับ สว. เราไม่ใช่ผู้กระทำผิดไม่ควรกลัว ควรเปิดหน้าที่จะเรียกร้องขอความเป็นธรรม ยอมรับว่า ตอนนี้กลัวมาก แต่ขอบคุณกำลังใจจากทุกท่าน ตนรู้จักกับ สว.ท่านนี้เป็นการส่วนตัว เคยคบหากัน แต่มีเหตุการณ์ร้ายแรงบางอย่างทำให้ต้องเลิกคุยกัน เพราะไม่สามารถกลับมาคบกันได้อีก

ทั้งนี้ สว.คู่กรณี ไม่ได้อยู่ในคณะอนุกรรมาธิการฯ ที่ตนทำงาน แต่ยอมรับว่า ได้เจอกันบ้าง ซึ่งเราต้องรักษามารยาท ในวันเกิดก็จะต้องมีการทักไปแสดงความยินดี โดยหลังจากที่ตนแจ้งว่า จะมายื่นจริยธรรม ทางคู่กรณีไม่ได้ติดต่อตนมาแต่อย่างใด ส่วนคดีความที่แจ้งความไว้ที่ สน. เตาปูน จะไม่มีการเจรจาไกล่เกลี่ยใดๆ ทั้งสิ้น

น.ส.ณัฐสินี ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อ 5 พ.ค. 67 ว่า สว.คนดังกล่าวได้ชวนไปทานอาหาร ซึ่งตนไม่สะดวก จึงขอนัดเป็นร้านขนมย่านบรรทัดทอง ยืนยันว่า ไม่มีการดื่มแอลกอฮอล์ และสว. มารับตนที่บ้านพัก ซึ่งหลังจากที่รับประทานขนมเสร็จ สว.คู่กรณีได้ขับรถไปส่งตนที่บ้าน ระหว่างทาง สว.คู่กรณี มีการขอคืนดี แต่ตนปฏิเสธ และขอเป็นเพื่อนกันอย่างเดียวดีกว่า อีกทั้งภายในรถ มีการดึงแขนล็อคตัว ไม่ให้ออกจากรถ ซึ่งตนพยายามกระโดดออกจากรถ และขัดขืน แต่ถูกรั้งไว้ ส่วนเหตุผลที่เพิ่งจะมีการเปิดเผยหลังจากที่เหตุการณ์ผ่านไปหลายเดือนนั้น เพราะต้องใช้เวลารวบรวมหลักฐานต่างๆ ให้รัดกุม เนื่องจาก สว.คู่กรณีเป็นผู้ใหญ่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการสัมภาษณ์ในรายละเอียดของทนายความนั้น น.ส.ณัฐสินี ได้สะกิดผู้สื่อข่าว เพื่อขอยาดม จากนั้นมีท่าทีทรุดจะล้ม จนทำให้คนที่อยู่รอบข้างประคองพยุง ก่อนที่ทีมพยาบาลรัฐสภา จะนำตัวขึ้นรถเข็น และพาไปที่ห้องพยาบาล

ขณะที่นายรดิศทัต ประภานนท์ ทนายความ ให้สัมภาษณ์ว่า ในส่วนของคดีอาญานั้น หลังจากที่แจ้งความแล้วเป็นเรื่องของตำรวจที่จะดำเนินการ เพราะได้แจ้งความในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว ซึ่งกรณีดังกล่าว เป็นคดีอาญาที่สามารถไกล่เกลี่ยได้

อย่างไรก็ดี ในกรณีของการยื่นร้องเรียนจริยธรรมของ สว.ที่เป็นคู่กรณี นั้น มีเอกสารและรายละเอียดที่ชี้ให้เห็นพฤติกรรมของ สว.คนดังกล่าว ถือว่าเข้าข่ายผิดข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของ สว. และกรรมาธิการ ข้อที่ 21 ที่กำหนดว่า ต้องไม่กระทำอันมีลักษณะเป็นการล่วงละเมิด หรือคุกคามทางเพศ จนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำได้รับความเดือดร้อนเสียหาย หรือกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ โดยผู้ถูกกระทำอยู่ในภาวะจำต้องยอมรับในการกระทำนั้น และกรณีที่ น.ส.ณัฐสินี ป่วยด้วยโรคพีทีเอสดีนั้น เป็นจริง มีการเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศรีธัญญา

“เรื่องนี้เชื่อว่า จะมีเกิดขึ้นอีกมาก แต่กรณีของน.ส.ณัฐสินีนี้ ถือเป็นกรณีตัวอย่างที่ออกมาเปิดหน้า และต่อสู้ ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้น แม้จะเป็นเรื่องของอดีตของคนที่คุ้นเคย เป็นรุ่นพี่รู้จักกันมา 20 ปีสามารถส่งข้อความไปสุขสันต์วันเกิดได้ อย่างไรก็ดี การยื่นร้องจริยธรรมต่อคณะกรรมการของวุฒิสภา ที่เป็นพวกเดียวกับ สว.คู่กรณีนั้น ผมยังเชื่อว่า กระบวนการตรวจสอบจริยธรรมจะโปร่งใส เพราะ สว.ที่เป็นคู่กรณีนั้น มีความผิด ส่วนผลการตรวจสอบจะเป็นอย่างไร ไม่ทราบ แต่เชื่อว่าจะได้รับความยุติธรรม” นายรดิศทัต กล่าว

เมื่อถามว่ากรณีที่เกิดขึ้นกังวลเรื่องถูกอิทธิพลข่มขู่หลังจากนี้หรือไม่ นายรดิสทัต กล่าวว่า ตนเพิ่งเข้ารับหน้าที่เป็นทนายความของ น.ส.ณัฐสินี ได้ 2 วัน หลังจากที่ทนายคนเดิมถอนตัวโดยไม่ทราบเหตุผล เพราะได้ดูหลักฐาน คลิปวีดีโอ แล้วยืนยันพร้อมที่จะช่วยลูกความสู้คดี โดยไม่กลัวอิทธิพลใดๆ เพราะหากกลัวคงไม่กล้าเปิดเผยหน้าต่อสาธารณะ

เมื่อถามว่ากรณีที่มาร้องจริยธรรมหลังจากที่เกิดเหตุมานาน ถูกมองว่าเป็นการรับงานทางการเมือง เพราะมี สว.กลุ่มสำรองต้องการตำแหน่ง นายรดิศทีต กล่าวว่า ยืนยันไม่ใช่เรื่องการเมืองแน่นอน.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...