โจ๋เหิมก่อเหตุใช้ก้อนหินปากระจกรถที่มีเด็ก สื่อถามสาเหตุเจ้าตัวไม่ตอบ อ้างขอบอกทีหลัง
โจ๋เหิมเกริม ก่อเหตุใช้ก้อนหินปาใส่กระจกรถกระบะของหญิงสาว ขณะจอดติดไฟแดง ห่างจากป้อมตำรวจสายตรวจเพียง 50 เมตร เหตุฉุนถูกขับแซง โชคดีคนขับและเด็กเล็กไม่ได้รับบาดเจ็บ
ทีมข่าวได้คลิปที่ถ่ายจากรถกระบะผู้เสียหาย เป็นคลิปที่มีวัยรุ่นขี่รถมอเตอร์ไซค์ตามผู้เสียหายหลายคัน ก่อนขี่ประกอบด้านข้าง เมื่อถึงจุดเกิดเหตุนาย ภานุวัตร (เสื้อเขียวแขนยาว-ใส่หมวกกันน็อก) ก็วิ่งมาที่รถก่อเหตุปาหินใส่กระจกจนแตกร้าว ทุบรถเสียงดัง พยายามหักกระจกข้าง และเปิดประตูรถ ก่อนวิ่งอ้อมมาใช้หมวกกันน็อกฟาดบริเวณข้างคนขับ จากนั้นใช้หินปากระจกด้านหลังรถอีกรอบ ทำเอาลูกสาวของคนขับรถร้องออกมาด้วยความตกใจและหวาดกลัว ขณะที่คนขับกระบะได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าถูกแก๊งมอเตอร์ไซค์ขับตามมา โดยจอดอยู่ที่แยกไฟแดงหน้าป้อม
ล่าสุดวันนี้ (3 มี.ค.) ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เขาย้อย จับตัว นายภานุวัฒน์ฯ อายุ 34 ปี ผู้ก่อเหตุ ได้แล้ว
โดยนางจิราภรณ์ เปลี่ยนเดช เจ้าของรถยนต์กระบะ ผู้เสียหาย พร้อมนายวิวัฒน์ เนื่องมี เจ้าหน้าที่ อส.อำเภอหนองหญ้าปล้อง สามี ได้เดินทางมายังห้องสืบสวน สภ.เขาย้อย เพื่อมาชี้ตัวผู้ต้องหา
นางจิราภรณ์ บอกว่า วันเกิดเหตุ ตนขับรถมาพร้อมลูกชายและลูกสาวรวม 3 คน โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุขี่รถกันมาเต็มถนน ตนก็เลยแซงขึ้นมา พวกเขาก็คงเข้าใจว่าตนไปปาดหน้าเลยไม่พอใจ จากนั้นก็ถูกกลุ่มคนก่อเหตุ ขี่ตาม 2-3 กิโลเมตร จนถึงที่เกิดเหตุ ก็เป็นไปตามคลิป ผู้ก่อเหตุก็เอาหินมาทุบรถ คือ มันไม่ใช่แค่บันดาลโทสะอย่างเดียว ตนมองว่าผู้ก่อเหตุเหมือนประสงค์จะทำร้าย อย่างคนที่เขาเอาหมวกกันน็อคมาทุบรถ เพื่อระบายอารมณ์ก็พอเข้าใจได้ แต่ที่แต่คราวนี้เอาอิฐปาที่รถหวังที่จะทำร้ายตน
ตนเห็นในข่าวเรื่องแก๊งเด็กแว้นมามากแล้ว ก็อยากจะให้เป็นตัวอย่าง ที่ทำไม่ถูกมีอะไรก็คุยกันให้ลดกระจก หรือดูก่อนก็ได้ว่าคนขับเป็นยังไงเป็นผู้หญิงหรือมีเด็กมาไหม แล้วค่อยมาเคลียร์กันไม่ใช่เอาอารมณ์มาเป็นตัวตั้ง แล้วก็มาทำแบบนี้มันก็เสียหายกันไปหมด
โดยขณะเกิดเหตุตนตั้งสติได้เลยโทร 191 แต่ตอนที่ระหว่างพูดคุยกับเจ้าหน้าที่เขาก็ยังทุบรถอยู่ สภาพจิตใจตอนนี้ก็ยังเสียขวัญอยู่ ส่วนลูกสาว ถ้าได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์ ก็ยังเสียขวัญหลับตาก็เห็นภาพนี้อยู่ ส่วนความเสียหาย กระจกด้านหน้ารถทางด้านคนขับ ด้านซ้ายฝั่งคนนั่ง และกระจกด้านหลังแตกเสียหาย อู่ประเมินความเสียหายเกือบ 30,000 บาท
ซึ่งหลังเกิดเหตุได้คุยกับคู่กรณีแล้ว เขาก็ยอมรับผิดและยอมชดใช้ค่าเสียหายให้ ก็ไกล่เกลี่ยกันแล้ว โดยตนได้สอนคู่กรณีไปว่าให้ใจเย็นๆ ทำอะไรให้นึกถึงคนข้างหลังบ้างเพราะเหตุมันเกิดไปแล้ว ไม่ว่าจะฝั่งตนถ้าเกิดมีคนเสียชีวิตและบาดเจ็บ มันก็จะเป็นภาระคนข้างหลัง ต้องมาตามเยียวยาอีก ส่วนในฝั่งเขาก็เหมือนกัน เหตุเกิดแบบนี้เราก็นึกถึงว่าเขามีลูกมีเมียต้องดูแล ผลกระทบมันเป็นวงกว้างไม่ใช่แค่ตัวเขากับตัวตน
ต่อมา ตำรวจคุมตัว นายภานุวัฒน์ ผู้ก่อเหตุ มาให้เจอกับผู้เสียหาย ทันทีที่เจอกัน นายภานุวัฒน์ ก็ยกมือไหว้ขอโทษผู้เสียหายและสามี โดยผู้เสียหายได้บอกกับผู้ก่อเหตุว่า อยากให้ผู้ก่อเหตุคิดถึงลูกเมีย ชีวิตเราอย่าไปฝากไว้กับความชั่ววูบ
เมื่อทีมข่าวขอสัมภาษณ์ นายภานุวัฒน์ ผู้ก่อเหตุ เจ้าตัวบอกว่าเมื่อคืนหลับสบายดี ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นตนยังไม่พร้อม จะขอบอกทีหลัง