โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

สรุป 9 ประเด็นแวดวงยานยนต์ “อนาคตประกันภัยรถยนต์ในไทย” เจาะเทรนด์และอินไซต์ผู้ขับขี่ยุคใหม่ในงาน InsureX FORECAST 2025

Ad Addict

อัพเดต 26 ก.พ. เวลา 10.25 น. • เผยแพร่ 26 ก.พ. เวลา 10.25 น. • AD ADDICT TH

สำหรับผู้ใช้รถ “ประกันภัยรถยนต์” ถือเป็นของสำคัญที่รถทุกต้องมี ! แต่ในช่วงหลายปีมานี้มีการเปลี่ยนแปลงในตลาดยานยนต์ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะความนิยมของรถยนต์ไฟฟ้าที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ จึงส่งผลกระทบต่อประกันภัยรถยนต์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

InsureX by Priceza Money ซึ่งเป็นเว็บตัวกลางเปรียบเทียบประกันรถยนต์ จึงจัดอิเวนต์ที่มีชื่อว่า “InsureX FORECAST 2025 : THE NEXT ERA OF CAR INSURANCE” เพื่อชวนทุกคนมาอัปเดตเทรนด์และมองเห็นแนวโน้มในอนาคตของประกันภัยรถยนต์ในไทยปี 2568 ไปด้วยกัน

โดยในงานเล่าถึงเรื่องราวดี ๆ เอาไว้มากมาย ซึ่งแอดก็ได้สรุป 9 ประเด็นน่ารู้เกี่ยวกับตลาดรถยนต์ รวมถึงประกันภัยรถยนต์ ทั้งข้อมูลปัจจุบันและคาดการณ์อนาคต ผ่าน 2 Sessions ได้แก่

1. CAR & EV INDUSTRY IN THAILAND 2025 : แนวโน้มตลาดรถยนต์ในประเทศไทย บรรยายโดย คุณฐิตา เภกานนท์ นักวิเคราะห์อาวุโส จาก ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC)

2. CAR INSURANCE REPORT 2025 : ข้อมูลการเลือกและพฤติกรรมลูกค้าประกันรถยนต์ บรรยายโดย คุณสิรวิชญ์ ฉายะวาณิชย์ Head of Priceza Money

เทรนด์และอินไซต์เหล่านี้จะน่าสนใจแค่ไหน หรือจะเข้ามามีบทบาทต่อวงการประกันภัยรถยนต์ต่อจากนี้ยังไง มาติดตามพร้อมกันเลย

1. 2024 ปีที่ตลาดรถยนต์ไทยหดตัวต่ำสุดในรอบ 15 ปี แต่สวนทางกับ “SUV” ที่โตต่อเนื่อง

ย้อนไปในปี 2024 ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยหดตัวลงทั่วประเทศสูงถึง -26% โดยนับว่าเป็นยอดขายรถยนต์ต่ำสุดในรอบ 15 ปี โดยประเภทรถยนต์ที่ยอดขายหดตัวมากที่สุดคือ "รถกระบะ" หดตัวลงถึง -38%

ต่อมาคือ "รถเก๋งทั่วไป" หดตัวลง -23% สวนทางกับรถกลุ่ม "SUV" ที่ขยายตัวต่อเนื่องและได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น 2.8% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2023

จากข้อมูลพบว่า รถกลุ่ม "SUV" ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสวนทางกับ "รถกระบะ" ที่มีส่วนแบ่งการตลาดลดลง ดังนี้

  • รถกลุ่ม SUV : ส่วนแบ่งการตลาดปี 2024 อยู่ที่ 31% / ปี 2023 อยู่ที่ 24% / ปี 2022 อยู่ที่ 16%
  • รถกระบะรถกลุ่ม : ส่วนแบ่งการตลาดปี 2024 อยู่ที่ 18% / ปี 2023 อยู่ที่ 23% / ปี 2022 อยู่ที่ 29%
  • Sedan/Hatchback : ส่วนแบ่งการตลาดปี 2024 อยู่ที่ 38% / ปี 2023 อยู่ที่ 37% / ปี 2022 อยู่ที่ 39%

2. รถราคาต่ำกว่า 7 แสน ยอดลดลงต่อเนื่อง พร้อมประเมินยอดขายปีนี้มีแนวโน้มหดตัว

สัดส่วนยอดจดทะเบียนรถยนต์นั่งราคาต่ำกว่า 7 แสนบาทก็ยังปรับลดลงอย่างต่อเนื่องอีกด้วย โดยทาง SCB EIC คาดว่ามาจาก 2 สาเหตุ ได้แก่

  • สถาบันการเงินเข้มงวดการให้สินเชื่อกับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย
  • กระแสนิยมในกลุ่มรถ Eco car และ City car ลดลงอย่างต่อเนื่อง

และ SCB EIC ยังประเมินว่ายอดขายรถยนต์ในปี 2025 มีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่องจากปีก่อนที่ -2%

  • คาดการณ์ยอดขายรถกระยะ และ SUV ในปี 2025 = 333,000 คัน (-4.4%YOY)
  • คาดการณ์ยอดขายรถยนต์นั่งในปี 2025 = 228,000 คัน (+1.8%YOY)

ปัจจัยหลักมาจากความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อ เพราะสถาบันการเงินมีความกังวลต่อการเสื่อมมูลค่าของหลักทรัพย์คำ้ประกันหมวดยานยนต์ที่ยังปรับลดลงต่อเนื่อง และสถานบันการเงินยังคงเผชิญความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูงอีกด้วย

3. ยอดขายรถ Hybrid ปี 2024 สูงถึง 1.36 แสนคัน ซึ่ง “TOYOTA” ครองแชมป์

ด้านทิศทางของตลาดรถยนต์นั่งไฟฟ้า (xEV) ยังคงมีแนวโน้มเติบโตได้ต่อเนื่องและถือเป็นแรงส่งหลักของตลาดรถยนต์ไทย โดยยอดจดทะเบียนรถยนต์นั่ง "ไฮบริด" ในปี 2024 เติบโตถึง 42% (136,000 คัน)

โดยสัดส่วนยอดขายแต่ละค่ายรถยนต์ในปี 2024 ได้แก่ TOYOTA 43%, HONDA 39%, MITSUBISHI 4%, NISSAN 3% และ SUZUKI 0.3%

แต่ในกลุ่มรถยนต์ BEV ในปี 2024 หดตัวจากยอดขายที่ปรับลดลง -10.2% (68,000 คัน) ซึ่งคาดว่าส่วนหนึ่งมาจากการแข่งขันด้านราคาที่ทำให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อออกไป

4. คาดรถ xEV ปี 2025 มีส่วนแบ่งการตลาด +40% ด้วยแรงส่งจาก Hybrid

SCB EIC คาดว่ากลุ่มรถยนต์นั่ง xEV ในปี 2025 จะมีส่วนแบ่งตลาดสูงขึ้นต่อเนื่องไปอยู่ที่ 40% เพราะได้รับแรงส่งจาก Hybrid ที่เติบโตต่อเนื่อง ขณะที่รถ BEV ก็จะกลับมาฟื้นตัวได้บ้างเช่นกัน

โดยประมาณการยอดจดทะเบียนรถยนต์นั่งปี 2025 ในกลุ่ม HEV + PHEV อยู่ที่ 1.55 แสนคัน ส่วนกลุ่ม BEV อยู่ที่ 6.95 หมื่นคัน

5. TOYOTA / HONDA / MG : 3 แบรนด์รถที่ยังคงปรับตัวสูงขึ้น

จากการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลของ Priceza Money พบว่า คนที่เข้ามาเปรียบเทียบประกันรถยนต์มากที่สุดในตอนนี้คือ ผู้ที่มีอายุ 35-44 ปี เพราะเป็นกลุ่มที่เป็นเจ้าของรถด้วยตัวเอง โดยผู้ใช้งานส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ สูงถึง 53.5% จากทุกจังหวัดทั่วประเทศ

ทาง Priceza Money ได้เล่าถึงแนวโน้มกลุ่มรถยนต์ที่เข้ามาเปรียบเทียบประกันภัยรถยนต์ในแพลตฟอร์มมากที่สุด 10 อันดับแรก ได้แก่

1. TOYOTA สัดส่วน 29% (เปลี่ยนแปลงจากปี 2022 vs 2024 อยู่ที่ +2%)

2. HONDA สัดส่วน 19% (เปลี่ยนแปลงจากปี 2022 vs 2024 อยู่ที่ +4%)

3. ISUZU สัดส่วน 16% (เปลี่ยนแปลงจากปี 2022 vs 2024 อยู่ที่ -7%)

4. MAZDA สัดส่วน 7% (เปลี่ยนแปลงจากปี 2022 vs 2024 อยู่ที่ -13%)

5. MITSUBISHI สัดส่วน 6% (เปลี่ยนแปลงจากปี 2022 vs 2024 อยู่ที่ -10%)

6. NISSAN สัดส่วน 6% (เปลี่ยนแปลงจากปี 2022 vs 2024 อยู่ที่ -18%)

7. FORD สัดส่วน 4% (เปลี่ยนแปลงจากปี 2022 vs 2024 อยู่ที่ -7%)

8. MG สัดส่วน 3% (เปลี่ยนแปลงจากปี 2022 vs 2024 อยู่ที่ +5%)

9. SUZUKI สัดส่วน 3% (เปลี่ยนแปลงจากปี 2022 vs 2024 อยู่ที่ -14%)

10. CHEVROLET สัดส่วน 2% (เปลี่ยนแปลงจากปี 2022 vs 2024 อยู่ที่ -10%)

จากข้อมูลจะเห็นว่ามี 3 แบรนด์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ TOYOTA, HONDA และ MG โดยคาดว่า TOYOTA และ HONDA ยังมีอัตราการปรับตัวเพิ่มขึ้นเพราะเจ้าตลาด และมีการออกรถยนต์ระบบ Hybrid ให้ผู้บริโภคเลือกมากขึ้น ส่วน MG ถือเป็นแบรนด์รองแบรนด์เดียวที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพราะรถยนต์ BEV เป็นหลัก

ซึ่งยี่ห้อรถยนต์ที่มีอัตราเข้ามาเปรียบเทียบประกันรถยนต์เพิ่มขึ้นมากที่สุดใน Priceza Money ได้แก่ BYD ปรับตัวเพิ่มขึ้น 821%YOY, NETA ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1333%YOY ORA ปรับตัวเพิ่มขึ้น 209%YOY

6. เผยอินไซต์คนไทย เปรียบเทียบประกันภัยมากสุดตอนที่รถอายุครบ 1 ปี

สำหรับเรื่อง "พฤติกรรมการซื้อประกันของผู้บริโภค" ก็น่าจับตามอง ซึ่งในข้อมูลระบุว่า คนไทยจะเข้ามาเปรียบเทียบประกันรถยนต์มากที่สุดในตอนที่อายุรถครบ 1 ปี และจะเข้ามาเปรียบเทียบประกันภัยรถยนต์น้อยลงเรื่อย ๆ เมื่อรถอายุมากขึ้น

แต่จะมีอีก 2 ช่วงที่คนส่วนใหญ่จะกลับมาเปรียบเทียบประกันรถยนต์คือ เมื่อรถอายุครบ 5 ปี และรถอายุครบ 10-12 ปี

7. เมื่อรถอายุครบ 5 ปี เจ้าของมักเลือกประกันรถยนต์แบบซ่อมอู่สูงถึง 87%

เมื่อรถยนต์อายุครบ 5 ปี จะมีอัตราเลือกประกันรถยนต์แบบซ่อมอู่ถึง 87% จากทั้งหมด ด้วยเหตุผลหลัก ๆ 3 ข้อ ได้แก่

  • ประกันรถยนต์แบบซ่อมศูนย์มีราคาสูงกว่าประกันรถยนต์แบบซ่อมอู่มาก (เฉลี่ย 10,000 บาท)
  • บริษัทประกันส่วนใหญ่รับประกันแบบซ่อมศูนย์ถึงแค่ 4 ปี
  • บริษัทประกันที่รับประกันแบบซ่อมศูนย์เกิน 4 ปี ไม่ได้มีชื่อเสียงที่น่าเชื่อถือมากพอ

แต่ "รู้ใจประกันภัย" ที่ยังรับประกันซ่อมศูนย์ในรถอายุเกิน 5 ปีก็ได้สัดส่วนลูกค้าเพิ่มไปถึง 35% จากทั้งหมด จึงนับว่าเป็นโอกาสดีที่บริษัทประกันภัยอื่น ๆ จะเข้าไปเล่นในตลาดที่คู่แข่งน้อยแบบนี้

8. คนไทยยังคงสนใจประกันรถยนต์ชั้น 1 แม้รถจะอายุเกิน 15 ปีแล้วก็ตาม

เมื่อรถอายุครบ 10 ปี ส่วนใหญ่จะเจอปัญหาต่อประกันรถยนต์ชั้น 1 ไม่ได้ แต่ใน Priceza Money เองยังมีประกันรถยนต์ชั้น 1 ให้ถึงรถอายุ 15 ปีทำให้อัตราส่วนการเลือกประกันชั้นอื่น ๆ ในปีที่ 10 มีแค่ 25% และเมื่อรถครบอายุ 15 ปีก็ยังมีอัตราการเลือกประกันชั้นอื่น ๆ อยู่แค่ 57%

ข้อมูลนี้แสดงให้เห็นว่าคนไทยสนใจประกันรถยนต์ชั้น 1 อยู่มากถึงแม้รถยนต์จะอายุมากกว่า 15 ปีแล้วก็ตาม โดย Priceza Money วิเคราะห์ไว้ 2 เหตุผลที่คนส่วนใหญ่ยังสนใจประกันชั้น 1 อยู่ คือ

เมื่ออายุรถเยอะขึ้น ราคาประกันชั้น 1 และ ประกันชั้น 2+ จะมีส่วนต่างไม่มากแล้ว (ประมาณ 5,000 บาท)
ยังไม่ค่อยมีการให้ความรู้เรื่องประกันรถยนต์ชั้น 2+ และ 3+ มากเท่าที่ควร ทำให้คนส่วนใหญ่ยึดติดกับการทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่คุ้มครองทุกกรณีไว้ก่อน

9. ลูกค้าส่วนใหญ่ตัดสินซื้อจาก “ชื่อเสียงบริษัท” มาก่อน “ราคา”

ปิดท้ายด้วยประเด็น "เกณฑ์การเลือกบริษัทประกันภัย" ซึ่งปัจจุบันลูกค้าส่วนใหญ่จะเลือกจากชื่อเสียงบริษัทประกัน มาก่อนราคาประกันนั่นเอง

โดย 2 บริษัทประกันที่หลายคนไว้วางใจ จนถูกเลือกมากที่สุดในปี 2024 คือ "ธนชาตประกันภัย" และ "วิริยะประกันภัย" แต่เมื่อเปรียบเทียบราคากัน "ธนชาตประกันภัย" มีราคาเฉลี่ยที่ต่ำกว่า "วิริยะประกันภัย" ในรถหลาย ๆ รุ่น ทำให้ถูกเลือกมากที่สุดเป็นที่ 1

แนวโน้มนี้สอดคล้องกับ Marketing Trends 2025 สำหรับกลุ่ม Gen Y อายุ (29-45 ปี) ที่บอกว่าคนกลุ่มนี้ต้องการ "คุณภาพ" และ "คุณค่า" สูงเมื่อเปรียบเทียบกับ Gen อื่น ๆ โดยเหตุผลในการซื้อ Luxury Products สำหรับผู้บริโภค Gen Y คือ

  • 79% ซื้อเพราะวัสดุคุณภาพดี
  • 78% ซื้อเพราะความทนทาน
  • 69% ซื้อเพราะ Value for money

ทำให้บริษัทประกันภัยยุคนี้ต้องปรับตัว เพราะจะอยู่ได้ก็ต้องอาศัยชื่อเสียงที่ดี และคุณภาพที่น่าเชื่อถือนั่นเอง

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...