โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

โครงสร้างและการทำงานของเซลล์ ออกสอบบ่อย

Dek-D.com

อัพเดต 26 มี.ค. เวลา 09.15 น. • เผยแพร่ 05 มี.ค. เวลา 06.28 น. • DEK-D.com
จำกันได้ไหม? โครงสร้างและการทำงานของเซลล์ มีอะไรบ้าง

โครงสร้างและการทำงานของเซลล์ บทพื้นฐานที่น้องๆ ควรเข้าใจและจำให้ได้ เพราะบทนี้ออกทุกปี และมีผสมอยู่กับบทอื่นๆ อีกเช่นกัน ดังนั้น หากรู้โครงสร้าง และเข้าใจหน้าที่ของส่วนประกอบแต่ละส่วนก็จะทำข้อสอบได้แน่นอน วันนี้คอลัมน์ ‘รู้ไว้เผื่อออกสอบ’จะพาทุกคนไปดูกันว่าเซลล์และออแกเนลล์แต่ละส่วนมีหน้าที่และความสำคัญอย่างไรบ้าง

เซลล์ คือ หน่วยย่อยพื้นฐานที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของสิ่งมีชีวิต สามารถเพิ่มจำนวน เจริญเติบโต และตอบสนองต่อสิ่งเร้าได้เซลล์ของสิ่งมีชีวิตมีโครงสร้างพื้นฐาน 2 ส่วนหลักๆ ได้แก่ ส่วนที่ห่อหุ้มเซลล์และส่วนโพรโทพลาซึม

ส่วนที่ 1 ส่วนที่ห่อหุ้มเซลล์

1. เยื่อหุ้มเซลล์ (cell membrane)

  • มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า plasma membrane
  • ลักษณะเป็นเยื่อบางๆ ประกอบด้วยฟอสโฟลิพิด (phospholipid) และโปรตีน (protein)
  • ฟอสโฟลิพิดจะเรียงตัวเป็น 2 ชั้น (bilayer) โดยหันส่วนหางที่ไม่ชอบน้ำ (hydrophilic tails) เข้าหากัน และหันส่วนหัวที่ชอบน้ำ (hydrophilic heads) ออกด้านนอกโดยมีโมเลกุลของโปรตีนกระจายตัวแทรกอยู่ระหว่างโมเลกุลของฟอสโฟลิพิด

หน้าที่ของเยื่อหุ้มเซลล์คือ กำหนดขอบเขตของเซลล์ ทำให้เซลล์คงรูปอยู่ได้ และเป็นเยื่อเลือกผ่าน (semipermeable membrane) คือ มีคุณสมบัติคัดเลือกสารที่จะผ่านเข้า-ออกจากเซลล์ และเป็นส่วนสำคัญสำหรับการติดต่อระหว่างเซลล์ด้วยกัน

2. ผนังเซลล์ (cell wall)

  • พบในพืช เช่น ฟังไจ สาหร่าย เห็ด รา และแบคทีเรียไม่พบในเซลล์สัตว์

  • เซลล์พืชมีผนังเซลล์ล้อมรอบเยื่อหุ้มเซลล์ มีองค์ประกอบหลักเป็น เซลลูโลส (cellulose)

  • ผนังเซลล์พืชมี 2 ชั้น ได้แก่

  • ผนังเซลล์ปฐมภูมิ (Primary cell wall)พบในเซลล์พืชทุกชนิด ที่กำลังเจริญเติบโต หรือเซลล์ที่มีชีวิต มีองค์ประกอบ เซลลูโลส (cellulose) และอาจมีเพกทิน (pectin)

    • ผนังเซลล์ทุติยภูมิ (Secondary cell wall)เกิดหลังผนังเซลล์ปฐมภูมิ มีองค์ประกอบ เซลลูโลส (cellulose) และมีลิกนิน (lignin) ถ้าพอกหนาขึ้นจะทำให้เซลล์ตาย เช่น ไฟเบอร์ และเวสเซล

หน้าที่ของผนังเซลล์คือ ช่วยให้เซลล์คงรูปอยู่ได้และให้ความแข็งแรงกับเซลล์

ส่วนที่ 2 โพรโตพลาซึม (protoplasm)

คือ ส่วนที่อยู่ถัดจากเยื่อหุ้มเซลล์เข้าไปด้านใน โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ ได้แก่ นิวเคลียส (nucleus) และไซโตพลาซึม (cytoplasm)

1. นิวเคลียส (nucleus)

  • มีรูปร่างกลม ลักษณะชัดเจนพบใน Eukaryotic cell โครงสร้างนิวเคลียสประกอบด้วย

  • เยื่อหุ้มนิวเคลียส (nuclear envelope หรือ nuclear membrane)มีลักษณะเป็นเยื่อหุ้ม 2 ชั้น

    • nuclear pore เป็นรูกระจายอยู่รอบนิวเคลียส ซึ่งเกิดจาก pore protein complex มาเรียงต่อกัน คอยควบคุมการลำเลียงสารผ่านเข้า-ออกนิวเคลียส
    • nuclear laminaเป็น intermediate filament ชนิดหนึ่งที่สานเรียงตัวกันอยู่ใต้เยื่อหุ้มนิวเคลียส ทำหน้าที่รักษารูปทรงของนิวเคลียส
    • นิวคลีโอลัส (nucleolus)เป็นโครงสร้างกลมๆ สีเข้ม ทำหน้าที่สังเคราะห์ ribosome ประกอบด้วย โปรตีน และ RNA
    • โครมาทิน (chromatin) เป็นสารพันธุกรรม ประกอบไปด้วย โปรตีน และ DNA เมื่อมีการแบ่งเซลล์ โครมาทินจะหดตัวหลายเป็นโครโมโซม
  • เซลล์ส่วนใหญ่มักมี 1 นิวเคลียส

  • บางเซลล์อาจมีนิวเคลียสจำนวนมากเช่น เซลล์กล้ามเนื้อโครงร่าง (skeletal muscle fiber)

    • บางเซลล์อาจไม่มีนิวเคลียสเช่น เซลล์เม็ดเลือดแดงของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม (mammalian RBC) และเซลล์ชีฟทิวบ์ (sieve tube member) ในท่อลำเลียงอาหารของพืช

หน้าที่ของนิวเคลียสมีความสำคัญกับเซลล์มาก เพราะนิวเคลียสเป็นส่วนที่เก็บสารพันธุกรรม DNAไว้ บริเวณที่เกิดการจำลองตัวเอง (DNA Replication) และการถอดรหัสของดีเอ็นเอ (Transcription)

2. ไซโตพลาซึม (cytoplasm)

ไซโตพลาซึม จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ออแกเนลล์ (organelles) และไซโทซอล (cytosol)

2.1 ออแกเนลล์ (organelles)

ถือว่าเป็นอวัยวะของเซลล์ เพราะเป็นองค์ประกอบที่ทำหน้าที่ต่าง ๆ โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ดังนี้

กลุ่มที่ 1 ออร์แกเนลล์ที่ไม่มีเยื่อหุ้ม

1.1 ไรโบโซม (ribosome)

  • เป็นออแกเนลล์ที่มีขนาดเล็กที่สุดภายในเซลล์

  • พบทั้ง Prokaryotic cell และ Eukaryotic cell

  • ประกอบด้วย 2 หน่วยย่อย คือ หน่วยเล็ก (small ribosomal subunit) และหน่วยใหญ่ (large ribosomal subunit) ซึ่งจะมาประกบกันเฉพาะเวลาสังเคราะห์โปรตีน

  • จะพบไรโบโซม อยู่ 4 ตำแหน่งในเซลล์คือ

  • เกาะอยู่บนเยื่อหุ้มเซลล์

    • เกาะอยู่บน RER ทำหน้าที่สร้างโปรตีนที่จะส่งออกไปนอกเซลล์
    • ลอยอิสระใน cytosol ทำหน้าที่สร้างโปรตีนสำหรับใช้ภายในเซลล์
    • อยู่ใน mitochondria และ chloroplast ทำหน้าที่สร้างโปรตีนสำหรับใช้ในนั้น

หน้าที่ของไรโบโซมมีหน้าที่หลักอย่างเดียว คือ สังเคราะห์โปรตีน (protein synthesis)

1.2 เซนทริโอล (centriole)

  • ลักษณะเป็นท่อทรงกระบอก
  • เซนทริโอลแต่ละอันจะประกอบด้วย microtubule หลายท่อ
  • เซนทริโอลมักอยู่ด้วยกันเป็นคู่ ๆ และวางตัวตั้งฉากกันเรียกบริเวณใน cytosol ที่พบคู่ของเซนทริโอลว่า เซนโทรโซม (centrosome) ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการประสานงานของ spindle fiber

หน้าที่ของเซนทริโอลคือ ช่วยในการดึงโครโมโซมให้แยกออกจากกันในขณะที่มีการแบ่งเซลล์ และช่วยในการเคลื่อนที่ของเซลล์บางชนิด

1.3 ไซโทสเกเลตอน (cytoskeleton)

  • เป็นเส้นใยโปรตีน (protein network) ซึ่งเป็นโครงสร้างช่วยค้ำจุนเซลล์ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท เรียงจากลำดับใหญ่ไปเล็กได้ดังนี้

  • microtubule ขนาดใหญ่ที่สุด เป็นท่อโปรตีน tubulin มีการเรียงตัวกัน 2 แบบ คือ

  • 9+2คือ รอบๆ มี 9 มัด มัดละ 2 แท่ง ตรงกลางมี 2 แท่ง มีหน้าที่เป็นองค์ประกอบใน cilia และ flagellum

    • 9+0 คือ รอบๆ มี 9 มัด มัดละ 3 แท่ง ตรงกลางมี 0 แท่ง มีหน้าที่ป็นองค์ประกอบใน basal body (kinetosome) และ centriole
    • มีหน้าที่เป็นองค์ประกอบของ spindle fiberที่ใช้ในการแยก chromosome
    • เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่ของ vesicle หรือ organellesภายในเซลล์
  • intermediate filamentขนาดปานกลาง โดยมีหน้าที่เกี่ยวกับ

  • การค้ำจุ้นโครงสร้างต่างๆภายในเซลล์

    • เป็นองค์ประกอบของ nuclear lamina ที่ใช้ค้ำจุนโครงสร้างของนิวเคลียส
    • เป็นองค์ประกอบของโปรตีน keratinเช่น ผิว ผม เล็บ เขาสัตว์
  • microfilamentขนาดเล็กที่สุด เป็นเส้นใยของโปรตีน actin โดยมีหน้าที่เกี่ยวกับ

  • การเคลื่อนที่คล้ายอะมีบา (amoeboid movement) และการสร้างเท้าเทียม (pseudopodia)ของโพโทรซัวและเม็ดขาวบางชนิด

    • การหมุนเวียน cytoplasm ในเซลล์พืช (cytoplasmic streaming/cyclosis)
    • การแบ่ง cytoplasm ของสัตว์ (cleavage furrow type)
    • ทำงานร่วมกับโปรตีน myosin ในการหดตัวของเซลล์กล้ามเนื้อ
    • เป็นองค์ประกอบของ microvilliในเซลล์เยื่อบุผิวลำไส้เล็ก และเซลล์ท่อหน่วยไต

กลุ่มที่ 2 ออร์แกเนลล์ที่มีเยื่อหุ้ม 1 ชั้น

2.1 Endoplasmic Reticulum (ER)

  • เป็น internal membrane ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด อยู่ล้อมรอบนิวเคลียส แบ่งเป็น 2 ชนิด

  • ร่างแหเอนโดพลาซึมชนิดขรุขระ (Rough endoplasmic reticulum : RER) มี ribosome เกาะ ลักษณะเป็นแผ่นแบนๆ เชื่อมต่อกัน

    • ร่างแหเอนโดพลาซึมชนิดเรียบ (Smooth endoplasmic reticulum : SER)ไม่มี ribosome เกาะ ลักษณะจะคล้ายท่อที่ต่อกัน

หน้าที่ของ RER

  • สร้างโปรตีนสำหรับส่งออกนอกเซลล์ หรือเป็นองค์ประกอบของ membrane protein

หน้าที่ของ SER

  • สังเคราะห์ลิพิด (lipid) เช่น phospholipid, steroid จึงพบมากที่อัณฑะ รังไข่ ต่อมหมวกไตส่วนนอก (สร้าง steroid hormone)
  • กำจัดสารพิษต่างๆ (detoxification)เช่น แอลกอฮอล์ ยา ในเซลล์ตับ
  • ในกล้ามเนื้อ SER จะเรียกว่า sarcoplamicreticulum (SR) ทำหน้าที่ควบคุมแคลเซียม และกระตุ้นการทำงานของเซลล์กล้ามเนื้อ

2.2 กอลจิ คอมเพล็กซ์ (golgi complex)

  • บางคนอาจจะเรียกว่า Golgi body / Golgi apparatus
  • มีลักษณะเป็นถุงแบนๆ (golgi cisternae) เรียงซ้อนตัวกันเป็นชั้นๆ
  • อยู่ติดกับ ER

หน้าที่ของกอลจิ คอมเพล็กซ์

  • ปรับแต่ง (protein modification)เติมคาร์โบไฮเดรตเข้าไปใน vesicle ให้กับโปรตีนที่สังเคราะห์มา RER กลายเป็น glycoprotein และแพ็กโปรตีน (protein packaging) ก่อนส่งออกไปนอกเซลล์
  • สังเคราะห์สารที่เป็นองค์ประกอบของผนังเซลล์ที่ไม่ใช่เซลลูโลส (noncellulose polysaccharide) เช่น pectin
  • golgi complex ยังเกี่ยวข้องกับการสร้าง lysosomeด้วย

2.3 ไลโซโซม (lysosome)

  • ลักษณะเป็นถุงกลมๆ เป็น vesicle ที่หลุดมาจาก golgi complex
  • มีความเป็นกรดสูงที่สุดภายในเซลล์
  • ภายในมี hydrolytic enzyme เป็นเอนไซม์ที่ทำงานในสภาวะที่เป็นกรดเท่านั้น

หน้าที่ของไลโซโซม

  • ย่อยอาหารภายในเซลล์ (intracellular digestion) โดยจะรวมกับ food vacuole แล้วปล่อยเอนไซม์ออกมาเพื่อไปย่อยอาหาร พบใน อะมีบา พารามีเซียม ฟองน้ำ ไฮดรา ปะการัง
  • ย่อยเชื้อโรค ในเม็ดเลือดขาวบางชนิด เช่น macrophage, neutrophil จะใช้ lysosome ในการย่อยสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ที่เข้ามาภายในเซลล์
  • ย่อยเซลล์ตัวเองที่หมดอายุ(autolysis) หรือ ย่อยออแกเนลล์ที่หมดอายุ (autophagy)
  • เกี่ยวข้องกับ metamorphosis ในสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกเช่น ลูกอ๊อดจะย่อยหางตัวเองทิ้งเพื่อเจริญไปเป็นกบ

2.4 เพอรอกซิโซม (peroxisome)

  • มีอีกชื่อเรียกว่า microbodies
  • ลักษณะถุงกลมๆ คล้าย lysosome ภายในบรรจุเอนไซม์ catalase
  • พบในเซลล์พืช เซลล์ตับและไต

หน้าที่เพอรอกซิโซม

  • ช่วยผลิตและกำจัดไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ (H2O2)ภายในเซลล์ โดยการกำจัดจะใช้เอนไซม์ชื่อ catalase เมื่อสลายมาแล้วจะกลายเป็น H2O และ O2
  • ทำงานร่วมกับ mitochondria และ chloroplast ได้ ในการหายใจแสง (photorespiration)
  • เกี่ยวข้องกับปฏิกิริยาการสลายกรดไขมัน (fatty acid β-oxidation)

2.5 แวคิวโอล (vacuole)

  • เป็นออร์แกเนลล์ที่มีลักษณะเป็นถุง พบในเซลล์พืช และสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำ

  • มีความหลากหลายสูง แบ่งเป็น 3 ชนิด แต่ละชนิดจะมีหน้าที่แตกต่างกัน ดังนี้

  • food vacuoleมีหน้าที่บรรจุอาหาร หรือเชื้อโรคที่กินเข้าไปของสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำเช่น อะมีบา พารามีเซียม ฟองน้ำ และเม็ดเลือดขาวบางชนิด

    • contractile vacuole พบเฉพาะโพรโทซัวน้ำจืด ทำหน้าที่ช่วยกำจัดน้ำส่วนเกินที่ไหลเข้ามาภายในเซลล์
    • sap vacuoleเป็นออแกเนลล์ขนาดใหญ่ภายในเซลล์พืช ทำหน้าที่เก็บสะสมสารต่างๆเช่น น้ำ,กรดอินทรีย์, สารสี

กลุ่มที่ 3 ออร์แกเนลล์ที่มีเยื่อหุ้ม 2 ชั้น

3.1 ไมโทคอนเดรีย (mitochondria)

  • เกี่ยวข้องกับการหายใจในระดับเซลล์แบบใช้ออกซิเจน (aerobic respiration)
  • แบ่งเป็น 2 ส่วน เยื่อหุ้มชั้นนอกสุด (outer mitochondrial membrane) และเยื่อหุ้มชั้นใน (inner mitochondrial membrane) ซึ่งมีการทบไปทบมาของ cristae
  • ภายในมีของเหลว เรียกว่า matrixเป็นบริเวณที่เกิด Krebs cycle / β-oxidation
  • มี circular DNA, 70s ribosome เป็นของตัวเองจึงสามารถสังเคราะห์โปรตีน และจำลองตัวเองโดยที่ไม่ต้องอาศัยคำสั่งจากนิวเคลียส(semiautonomous organelles)

หน้าที่ไมโทคอนเดรียหลักๆ คือ สร้างและผลิตพลังงานสูง (ATP) ให้กับเซลล์ทำให้เกิดวัฏจักรเครบส์ (Krebs cycle) และเกิดการถ่ายทอดอิเล็กตรอน (Electron transport chain)

3.2 คลอโรพลาสต์ (chloroplast)

  • เป็นเม็ดสี (plastid) สีเขียว พบในเซลล์พืช และสาหร่าย
  • แบ่งเป็น 2 ส่วน เยื่อหุ้มชั้นนอกสุด (outer chloroplast membrane) และเยื่อหุ้มชั้นใน (inner chloroplast membrane)
  • ภายในมีเยื่อ thylakoid ลักษณะคล้ายเหรียญซึ่งวางซ้อนทับกันจนเป็นตั้งของเหรียญ เรียกว่า granum แต่ละ granum จะมีทางเชื่อมถึงกัน เรียกว่า stroma lamella / intergrana lamella
  • ภายใน chloroplast ยังมีของเหลวเรียก stroma ซึ่งเป็นเอนไซม์สำหรับสังเคราะห์ด้วยแสง
  • มี circular DNA, 70s ribosome จึงจำลองตัวเองและสังเคราะห์โปรตีนได้ เหมือนกับ mitochondria

หน้าที่ของคลอโรพลาสต์คือ เกี่ยวข้องกับกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง (photosynthesis) ของพืช

2.2 ไซโทซอล (cytosol)

  • เป็นส่วนของไซโทพลาซึม มีลักษณะเป็นสารกึ่งแข็งกึ่งเหลว
  • ไซโทซอลที่อยู่ติดกับเยื่อหุ้มเซลล์เรียกว่า เอ็กโทพลาซึม (Ectoplasm) ส่วนบริเวณด้านใน เรียกว่า เอนโดพลาซึม (Endoplasm)

หน้าที่ของไซโทซอลคือ เป็นที่อยู่ของออร์แกเนลล์ต่าง ๆ และโครงสร้างอื่น ๆ เช่น เม็ดไขมัน เม็ดสี ในเซลล์สัตว์ Ergastic substance ในเซลล์พืช

มาทดสอบความรู้กัน!

ทำความรู้จักโครงและหน้าที่ของเซลล์แต่ละส่วนไปแล้ว คราวนี้มาลองทดสอบความจำกันหน่อยดีกว่าค่ะว่าจำกันได้ไหม แต่ละโครงสร้างต่างกัน หรือทำงานอย่างไรบ้าง?

1. ส่วนประกอบในข้อใดพบแต่ในเซลล์พืช

ก.ไซโทพลาซึม

ข.นิวเคลียส

ค.คลอโรพลาสต์

ง.เยื่อหุ้มเซลล์


2. ส่วนประกอบของเซลล์ส่วนใดที่ไม่พบในเซลล์สัตว์

ก.เยื่อหุ้มเซลล์

ข.ผนังเซลล์

ค.ไซโทพลาซึม

ง.นิวเคลียส


3. เซลล์ข้อใดที่ไม่มีนิวเคลียสเป็นส่วนประกอบ

ก.เซลล์ประสาท

ข.เซลล์เม็ดเลือดแดง

ค.เซลล์เยื่อบุข้างแก้ม

ง.เซลล์กล้ามเนื้อ


4. ส่วนประกอบของเซลล์ส่วนใดเป็นแหล่งสร้างพลังงานให้แก่เซลล์

ก. นิวเคลียส

ข.ไรโบโซม

ค.ไมโทคอนเดรีย

ง.เอนโดพลาสมิก

น้องๆ คิดว่าแต่ละข้อตอบอะไรบ้างๆ มาคอมเมนต์ด้านล่างได้เลย!

สำหรับน้องๆ ที่อยากอัปเลเวลเพิ่มความมั่นใจในการสอบชีวะ พี่แป้งขอเสิร์ฟ คอร์สพิชิต TCAS – สรุปเนื้อหาชีวะกับ“อ.อุ้ย - ผศ.ดร.ศุภณัฐ ไพโรหกุล” ผู้แต่งหนังสือปลาหมึกคอร์สสรุปเนื้อหาชีวะ ม.ปลาย ตามหลักสูตร สสวท. ใหม่ล่าสุด! เนื้อหาครอบคลุมทุกการสอบของ TCAS อธิบายละเอียด กระชับ ตรงจุด มีสรุปเนื้อหาเป็นคอนเซ็ปต์สั้นๆ เข้าใจง่าย จบใน 10 นาที พร้อมรับหนังสือประกอบการเรียน สรุปเนื้อหาจบใน 1 หน้า ที่ อ.อุ้ย จัดทำขึ้นใหม่โดยเฉพาะ

นอกจากนี้ยังมี คอร์สพิชิต TCAS – ตะลุยโจทย์ชีวะคอร์สนี้นอกจากน้องๆ จะได้ตะลุยโจทย์ชีวะ แนวข้อสอบออกใหม่ 665 ข้อแล้ว ยังมีเฉลยละเอียดแบบจัดเต็ม เพื่อให้น้องๆ ได้ทบทวน เรียนรู้เทคนิคการทำโจทย์ต่างๆ และฝึกทำข้อสอบลับฝีมือก่อนลงสนามจริงด้วย

น้องๆ ที่สนใจอยากติวออนไลน์กับ Dek-D School สามารถปรึกษาพี่ๆ เพิ่มเติมได้ที่ Line @SchoolDekDหรือ ติดตามข้อมูลข่าวสาร และเทคนิคการติวต่างๆ เพิ่มเติม ได้ที่ Facebook Dek-D School ได้เลยค่ะ

สำหรับคอลัมน์ ‘รู้ไว้เผื่อออกสอบ’ วิชาชีววิทยาบทความต่อไปจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร ฝากติดตามกันด้วยนะคะ ถ้าน้อง ๆ มีประเด็นที่น่าสนใจ หรือความรู้จากวิชาอะไร ที่อยากให้นำมาเล่า หรือแจกทริคการจำ ก็สามารถคอมเมนต์เอาไว้ด้านล่างได้เลย!

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...